ย้อนยุคทอง "เพชรา เชาวราษฎร์" ราชินีจอเงินขวัญใจคนไทย

ถ้าพูดถึงนางเอกค้างฟ้าที่สวยอมตะตลอดกาลก็ต้องนึกถึง "เพชรา เชาวราษฎร์" ปัจจุบันมีอายุ 79 ปี  เธอเป็นนักแสดงหญิงชาวไทย และเป็นนักแสดงภาพยนตร์เจ้าของฉายา "นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง" นับเป็นนางเอกที่มีผลงานแสดงประมาณ 300 เรื่อง ในช่วงระหว่าง ปีพ.ศ. 2505 - 2521 บทบาทการแสดงของเธอมีความหลากหลาย  ได้รับการชักชวนจาก "ศิริ ศิริจินดา" และ"ดอกดิน กัญญามาลย์"  ให้แสดงภาพยนตร์เรื่อง บันทึกรักของพิมพ์ฉวี เมื่อ พ.ศ. 2505 เป็นเรื่องแรก ขณะที่มีอายุ 19 ปี ประเดิมแสดงคู่กับ "มิตร ชัยบัญชา" โดย ดอกดิน กัญญามาลย์ เป็นผู้ตั้งชื่อว่า "เพชรา เชาวราษฎร์" โดยให้เหตุผลว่าปัทมาชื่อเก่านั้นเรียบไป ส่วน "เจน จำรัสศิลป์" ได้ตั้งฉายาให้ว่า "นางเอกสาวนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง"

ซึ่ง "เพชรา เชาวราษฎร์" แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากภาพยนตร์เรื่องที่สอง "เรื่องดอกแก้ว"  ตามด้วย "หนึ่งในทรวง, อ้อมอกสวรรค์" และได้แสดงคู่กับ"มิตร ชัยบัญชา" บ่อยครั้ง จนแฟนภาพยนตร์ เรียกว่า "คู่ขวัญ มิตร-เพชรา" โดยยุคทองของ "เพชรา" ที่เธอมีชื่อเสียงสูงสุด อยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2506 - 2507 เรียกว่าโด่งดังมากๆ เดือนนึงมีคิวถ่ายภาพยนตร์ประมาณ 12-18 เรื่อง แต่ละวันต้องถ่ายทำภาพยนตร์วันละ 3-4 เรื่อง

ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 "เพชรา" เข้ารับพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทอง จากพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่9 ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต โดยเธอเคยบอกว่า "เป็นความประทับใจ เป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต และจะไม่มีวันลืมตราบที่ยังมีลมหายใจ" จากบทบาทภาพยนตร์"นกน้อย"

หลังจากที่ "มิตร ชัยบัญชา" ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในการถ่ายภาพยนตร์เรื่องอินทรีทอง "เพชรา"ก็ยังรับบทนางเอกภาพยนตร์ต่อเนื่องมาอีกหลายปี คู่กับ "สมบัติ เมทะนี, ไชยา สุริยัน, ลือชัย นฤนาท และพระเอกใหม่ครรชิต ขวัญประชา, นาท ภูวนัย, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, กรุง ศรีวิไล ฯลฯ"

ต่อจากนั้น "เพชรา" ก็ได้เผชิญปัญหาชีวิตทั้งวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ถูกกรมสรรพากรเล่นงานเรื่องภาษีถึงขั้นฟ้องล้มละลาย จนต้องเลหลังขายบ้าน แต่ "ชรินทร์ นันทนาคร" สามีได้ทำหนังใหม่เรื่องเพลงรักดอกไม้บานนำแสดงโดย "นันทิดา แก้วบัวสาย" เมื่อหนังออกฉายก็พอมีเงินใช้หนี้ และได้เข้าเจรจากับกรมสรรพากรขอส่งตามที่มี แต่บางครั้งเมื่อขาดส่งทีไรหนังสือพิมพ์ก็มักลงข่าวว่า "เพชราโกงภาษี" 

และประมาณปีพ.ศ. 2515 เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องสายตา เนื่องจากในการถ่ายภาพยนตร์ต้องใช้แสงไฟสว่างจ้า ใช้เวลารักษาอยู่หลายปี จนกระทั่งตาบอดสนิททั้งสองข้าง ในปี พ.ศ. 2521  ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เธอแสดง คือเรื่อง"ไอ้ขุนทอง" ซึ่งเธออำนวยการสร้าง และแสดงเป็นแม่ของพระเอก รับบทโดย "สรพงศ์ ชาตรี" 

สาเหตุของการตาบอดของ "เพชรา" มาจากการไม่ได้พักสายตา ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่ต้องร้องไห้บ่อย การขับรถไปทำงานเอง ประกอบกับสมัยนั้น ถ่ายหนังต้องใช้ไฟแรง หรือใช้รีเฟล็กซ์เยอะ

จากนั้นเมื่อหยุดงานแสดงเพื่อรักษาสุขภาพไปหลายปี เธอก็เก็บตัวเงียบ "เพชรา"กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อมีผู้นำคลิปงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 ซึ่ง "ชรินทร์ นันทนาคร" สามี ได้ขับร้องเพลงหยาดเพชรให้แก่เธอ มาเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ 

และในปี พ.ศ.2561 "เพชรา" ได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปการแสดง(ภาพยนตร์) และเปิดเผยความในใจว่า  เผยถึงความภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ว่า ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าตนเองจะได้รับการพิจารณาเพราะว่าไม่ได้แสดงมาเป็นเวลานานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าขอบเขตการพิจารณาความเป็นศิลปินแห่งชาติมีระบบระเบียบอย่างไร โดยเธอบอกว่า "ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้รับ แต่เมื่อทางกรรมการได้พิจารณาให้ได้รับเป็นศิลปินแห่งชาติก็ต้องกราบขอบพระคุณค่ะที่นึกถึงเพชรา เชาวราษฎร์อยู่ เพราะว่าตัวเองมองไม่เห็นก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสตอบแทนกับสังคมได้อย่างไร"

ขอบคุณข้อมูล : วิกิพีเดีย

ขอบคุณรูปภาพ: หนังไทยในอดีต,ThaiMoviePost