บันเทิง

"หมวย สุภาภรณ์" ยัน ไม่เข็ดทำธุรกิจ ล้มแล้วต้องลุกได้ ไม่น้อยใจคนช่วยน้อย

"หมวย สุภาภรณ์" ยัน ไม่เข็ดทำธุรกิจ ล้มแล้วต้องลุกได้ ไม่น้อยใจคนช่วยน้อย

25 ม.ค. 2565

หมวย สุภาภรณ์ ล่าสุดออกมาเปิดใจอีกครั้ง ยืนยัน ไม่เข็ดทำธุรกิจ คนเราล้มแล้วต้องลุกให้เป็น ขอสู้ต่ออีก ไม่น้อยใจเป็นดารามานาน แต่คนออกมาช่วยน้อย

 

จากกรณีอดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ หมวย สุภาภรณ์ ออกมาเผยเรื่องราวของตัวเองจากลูกคนรวยเป็นคุณหนู ชีวิตกลับตกอับ ต้องเช่าบ้านอยู่กับหมา มีหนี้สิน 5 ล้าน โดนโกงธุรกิจจนหมดตัว ล่าสุด (24 มกราคม 2565) หมวย สุภาภรณ์ ได้ออกมาเปิดใจกับ เดลินิวส์ออนไลน์ บอกว่า เราได้รับการช่วยเหลือมาก ๆ ซึ่งเราก็อยากช่วยเหลือคนอื่นต่อไปเพราะว่าคนให้ย่อมมีความสุข เพราะไทยช่วยไทยช่วยกันเอง ถามว่าเข็ดในการทำธุรกิจไหม บอกเลยไม่เข็ด เพราะว่าชีวิตเราล้มก็ลุกได้ เราเป็นตุ๊กตาล้มลุก ถ้าไม่เคยล้มมาเลยสิแปลก ถ้าล้มแล้วลุกเร็ว คุณจะได้รับโอกาสเร็ว ถ้าล้มแล้วไม่ลุก คุณงอแงคุณไม่สู้ คุณก็จะไม่มีโอกาส ดังนั้นเจ้าตัวจึงไม่เข็ด ยังสู้อีก

 

\"หมวย สุภาภรณ์\" ยัน ไม่เข็ดทำธุรกิจ ล้มแล้วต้องลุกได้ ไม่น้อยใจคนช่วยน้อย

 

 

 

ถามว่าน้อยใจไหมที่เป็นนักแสดงมานานแต่มีคนช่วยแค่ไม่กี่คน เวลาเราแย่ ถามก่อนทำไมต้องน้อยใจ ใครอยากช่วยก็ช่วย ใครไม่อยากช่วยก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ คุณจะร้องแรกแหกกระเชอว่ามาช่วยฉันสิ ๆ ไม่ได้นะ เราต้องอยู่กับความจริงบ้าง อย่าไปว่าเขา ไม่ใช่ว่าคนไม่ช่วยเขาไม่ดี  อย่าไปว่าเขา มีอะไรลงที่ตนคนเดียว ไม่น้อยใจด้วย คนที่ช่วยเหลือเรามาเขาบริสุทธิ์ใจ อย่าง เจค ศตวรรษ บอกหมวยมีอะไรโทร. หานะ เพราะว่าเราบุกป่าฝ่าดงนอนกันมา กินกันมาตั้งแต่คุณ โอ วรุฒ ยังไม่เสียชีวิต ตอนนั้นเขาดังมากนะคุณเจค เราก็ไม่คิดว่าเพื่อนจะคิดถึงเรา เราซาบซึ้งในเพื่อน เราซาบซึ้งในความที่เราไม่เคยทำอะไรให้เขาเลยแต่เขาก็มาช่วยเรา อย่างคุณ ศิริพร อำไพพงษ์ หน้าก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยทำอะไรให้เขาแต่เขาก็มาช่วยเรา ซาบซึ้งใจมาก ๆ กราบขอบพระคุณ มีแค่นี้ก็ดีแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

 

\"หมวย สุภาภรณ์\" ยัน ไม่เข็ดทำธุรกิจ ล้มแล้วต้องลุกได้ ไม่น้อยใจคนช่วยน้อย

 

 

 

หมวย ยังเล่าต่อถึงแผนการดำเนินชีวิตต่อจากนี้ของเธอว่า ตอนนี้เคลียร์ค่ายาไปเรียบร้อยตามเจตนาที่พี่ ๆ โอนเงินมาช่วย แล้วก็เคลียร์อะไรหลายอย่างไปเป็นบางเปราะแล้ว ก็ต้องบอกว่าเรามีหนี้สิน เราก็แอบเคลียร์ในหลาย ๆ อย่างเหมือนวันที่พี่ ๆ เพื่อน ๆ เข้ามาช่วยตนซื้อของก็ถือว่าช่วยแล้ว 

 

ส่วนสุขภาพของหมวยตอนนี้ที่ป่วยหลายโรค ตอนนี้ก็โอเคแล้ว แล้วก็จะมีโรคตามวัย พอเราไปทำงานกรุงเทพฯ มันก็เหนื่อย เดี๋ยวเราต้องกลับไปอยู่ที่กรุงเทพฯ เราก็วางแผนกับทีมงานให้รอบคอบ เราจะไม่ล้มอีกแล้ว เราจะทำอะไรให้รอบคอบ แล้วตอนนี้เรามีบริษัทเป็นของเรา เพราะฉะนั้นเรามีหลาย ๆ คนคิด 

 

สิ่งที่ทำให้ปลงและเข้าใจชีวิตมากขึ้นคือเราอยู่ในครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่ แต่ว่าเงินไม่ใช่ตัววัดคุณค่าของคุณภาพของชีวิต แต่ชีวิตคุณทำยังไงให้เรามีคุณค่าจะดีกว่า เงินไม่ได้วัด เพราะตนมีครูบาอาจารย์สั่งสอน เพราะฉะนั้นตนมีการปฏิบัติ มีการเข้าใจโลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มันเป็นอนิจจาอยู่แล้ว ซึ่งชีวิตต่อไปนี้ก็จะไม่ประมาทอีกต่อไป

 

สุดท้ายพี่หมวยไม่มีอะไรตอบแทนแฟน ๆ มีแต่ได้โอกาสจากแฟน ๆ และตอบแทนด้วยความสุข ยังไงก็ขอบคุณแฟน ๆทั่วประเทศ ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับแบบนี้ อย่างที่ตนพูดว่าช่วยกัน เรารอดแล้ว คนอื่นก็ต้องรอดด้วย แต่เราเป็นเสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่ง เราคนไทยด้วยกัน แล้วที่ตนนำเสนอแต่ละอันไม่ใช่ของไม่ดี ทุกอย่างผ่านกระบวนการคัดสรรคนเขาเป็น SME ระดับหนึ่งของ จ.กาญจนบุรี ไปด้วยกันเพราะเราเป็นคนไทยเหมือนกัน

 

\"หมวย สุภาภรณ์\" ยัน ไม่เข็ดทำธุรกิจ ล้มแล้วต้องลุกได้ ไม่น้อยใจคนช่วยน้อย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์