
คมเคียวคมปากกา-ครูพยงค์ กับ ทิว สุโขทัย
ราวๆ ปี 2508-2510 สถานีวิทยุ ททท.ภาคละครและเพลงเป็นแหล่งชุมนุมนักจัดรายการเพลงลูกทุ่งกันอย่างคึกคัก
สมัยนั้นยังไม่มีการเรียกเป็นดีจงดีเจ มักจะเรียกนักจัดรายการว่า “คุณอา” สื่อสำคัญคือจดหมายขอเพลงไปยังคุณอาต่างๆ ที่วิทยุ ททท.ก็เช่น ประจวบ จำปาทอง, ทวีศักดิ์ มาลาสาร, ขุนแผน ภุมรักษ์ จัดคู่กับ ถนอม นวลอนันต์ ฯลฯ และแน่นอนมี คุณอาพยงค์ มุกดา มาจัดรายการเพลงโดยมีลูกศิษย์หนุ่มๆ ร่วมจัด เช่น นิรันดร์ นันทนิมิตร, กิตติ บุญญาการ, อรรณพ อนุสรณ์
ความผูกพันระหว่าง พยงค์ มุกดา กับสถานีวิทยุ ททท. ยังมีหลักฐานปรากฏอยู่ในเพลง ลูกทุ่งเลือดสุพรรณ ร้องโดย สุรพล สมบัติเจริญ “อีกวิทยุ ททท. ตั้งใจไว้หนอจะไปขอชมเชย อยู่สี่แยกคอกวัว จะไปขอดูตัวโฆษกหน่อยเอย”
รายการเพลงมีส่วนอย่างมากต่อความดังของแต่ละเพลง อย่างเช่นเมื่อครูพยงค์ มุกดา ร่วมมือกับผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องพระลอ สร้างเพลงยอยศพระลอ ขึ้นมา แล้วก็มีกิจกรรมเชียร์เพลงนี้โดยเปิดประกวดร้องเพลงยอยศพระลอ เรียกว่าทั้งชั่วโมงฟังกันแต่เพลงยอยศพระลอ การประกวดก็สนุกเพราะเพลงนี้ร้องยากมาก โดยเฉพาะในท่อนเกริ่น “รอยรูปอินทร์หยาดฟ้า....”
ช่วงนั้นผมติดรายการเพลงของคุณอาพยงค์ มุกดา ชนิดงอมแงม ในความทรงจำบางแง่มุม ยังจำชื่อ ทิว สุโขทัย ว่าคุณอาพยงค์มักเอ่ยถึงลูกศิษย์คนนี้อย่างอาลัยอาวรณ์
ทิว สุโขทัย เป็นนักร้องรูปหล่อ มีผลงานเพลงอยู่ในระยะสั้นๆ เป็นคนแรกที่ร้องเพลง คิดถึงพี่ไหม “คิดถึงพี่หน่อยนะกลอยใจพี่ ห่างกันอย่างนี้ น้องคิดถึงพี่บ้างไหม” เพลงนี้แต่งเมื่อปี 2506 ภายหลัง ศรคีรี ศรีประจวบ นำมาร้องใหม่ เป็นการบันทึกเสียงเพลงสุดท้ายในชีวิตของศรคีรี ก็น่าจะเป็นปลายปี 2514 เพราะศรคีรี เสียชีวิตเดือนมกราคม 2515
เปิดกรุเพลงเก่าฟังคิดถึงพี่ไหม ฉบับทิว สุโขทัย พบว่าเพลงไม่เข้าปาก การร้องประดักประเดิดจนพานคิดไปว่า ทิวไม่มีความสามารถพอ ยิ่งมาฟังศรคีรีร้องทับด้วยแล้ว ก็ไปกันใหญ่ชนิดว่าทิวชั้นไม่ถึงทีเดียว ความจริงคือ ทิวไม่ถนัดเพลงแนวลูกทุ่งจ๋า แต่เหมาะกับเพลงกึ่งทุ่งกึ่งกรุง
พอมาฟังเพลง ง้อเพราะรัก ระบุว่าร้องโดย ทิว สุโขทัย (แม่ไม้เพลงไทย ซีดี 520) ความรู้สึกต่อทิว สุโขทัย ก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นเพลงที่ฟังซ้ำได้อย่างเพลิดเพลิน ทั้งเสียงร้องและดนตรี ยิ่งช่วงโซโล่ เสียงเครื่องเป่าหลายตัวสาดเสียงได้เจิดจ้าแจ่มโสตหู เสียงร้องของทิว สุโขทัยก็น่าฟังแบบมีบุคลิกของตัวเอง ถ้าเทียบกับตอนที่ร้อง คิดถึงพี่ไหม ต่างเป็นคนละคน จนไม่อยากเชื่อว่าทิวร้องเพลงง้อเพราะรัก ยิ่งไปเปิดหนังสือเพลงระบุว่า เพลงง้อเพราะรัก ร้องครั้งแรกโดย อุดม เขียนเอี่ยม ปี 2503 แต่พอเปิดฟังเสียงร้องของอุดมในเพลงอื่นๆ เทียบแล้ว ก็ต่างกันชัดเจนกับเสียงของทิว สุโขทัย ในง้อเพราะรัก คือเพลงของครูพยงค์ จะเปลี่ยนถ่ายให้ลูกศิษย์แต่ละรุ่นร้องซ้ำกัน
เสียงของทิว สุโขทัย ต่อมามีคนที่เสียงคล้ายคือ ธานินทร์ อินทรเทพ ศิษย์ครูพยงค์ รุ่นหลังจากทิว ก็คล้ายเฉพาะเสียง ทว่าแนวการร้องนั้น ทิวจะร้องตรงๆ ไม่ออดอ้อน น่าฟังแบบซื่อๆ
ไม่มีข้อมูลอะไรนักเกี่ยวกับ ทิว สุโขทัย เพียงแต่จำได้ว่า ครั้งหนึ่งในรายการเพลง คุณอาพยงค์ได้เปิดเพลงที่ท่านแต่งให้ ผ่องศรี วรนุช ร้อง (พ.ศ. 2510) ชื่อเพลงเจ้าปลิว และออกตัวว่า มีคนเข้าใจว่าพยงค์ มุกดา แต่งเพลงนี้ด่า ทิว สุโขทัย และว่าไม่น่าคิดมาก เป็นเรื่องของเพลง ลองฟังดู
"เจ้าคนชื่อปลิว หัวใจมันคล้ายทองเปลว ข้าแหลกข้าเหลว เพราะคนชื่อปลิวมันหลอน แล้วมันก็ปลิว ลิ่วลงลืมหลงดงดอน ปลิวเจ้าลอยถึงพระนคร ฉาวกระฉ่อนเป็นชาวสวรรค์
ปลิวเอ๋ยปลิว เจ้าปลิวเหมือนเป็นขนไก่ เจ้าปลิวไม่มีหัวใจ ปลิวว่อนไปไม่ยึดใดมั่น สักวันเถอะปลิว พลัดตกลิ่วไร้แรงผลักดัน ร่วงมาจากฟ้าสวรรค์ ขุมโลกันต์คือเหย้าเจ้าปลิว"
ครูพยงค์ มุกดา เขียนเพลงนี้ได้อารมณ์บาดลึกจริงๆ ฟังแล้วอดที่จะ “คิดมาก” ไม่ได้
วัฒน์ วรรลยางกูร