งานเข้า "ไบร์ท วชิรวิชญ์" โดนคู่กรณีแฉ ทำธุรกิจแข่งยัดเยียดข้อหาแถมด่าหยาบ

โดย "น้ากิ๊ก" เผยว่า ตนถูกกล่าวหาว่าโกงบริษัทที่ร่วมกันทำธุรกิจกับ "ไบร์ท วชิรวิชญ์" ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งธุรกิจนี้มาด้วยกัน โดยในแง่ของการตลาด "ไบร์ท" จะดูแลเพราะเป็นคนมีชื่อเสียง ส่วนกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มผลิต การบริหารการจัดหาวัตถุดิบ การจัดการขายตลอดถึงบริการหลังการขายของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศจะอยู่ในการดูแลของตน หลังจากนั้นธุรกิจก็ดำเนินไปได้ด้วยดีจากล้าน เป็น5ล้าน เป็น10ล้าน เราเริ่มธุรกิจกันตอนกลางปี 2563 แล้วรายได้ก็ค่อนข้างสูง 

ร่วมเสนอรายชื่อ คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 18 ในรางวัล Popular vote 7 สาขายอดนิยม >> คลิก 

จากนั้นประมาณเดือนมีนาคมทาง "ไบร์ท" ได้เรียกตนเข้าไปคุย แล้วแจ้งว่าจะถอดตนออกจากกรรมการ แล้วจะยึดหุ้นที่ตนถืออยู่ทั้งหมดด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ แล้วเปลี่ยนให้เป็นเงินเดือนแทน ซึ่งตอนนั้นตนก็ถามกลับว่าใครเป็นคนแนะนำให้ทำแบบนี้ เขาก็ตอบกลับว่าเขาเป็นคนตัดสินใจเอง จากนั้นเดือนพฤษภาเขาเรียกตนไปคุยที่คอนโด ซึ่งมี "ไบร์ท" มีตนและคนในครอบครัวทั้งหมด 5 คน ซึ่งประโยคแรกที่ตนได้ยินคือกล่าวหาว่าตนโกงบริษัท ตนตกใจมาก เพราะ "ไบร์ท" ชี้หน้าด่าตนแล้วขึ้นมึงขึ้นกูด้วย ตนก็พยายามอธิบายดีๆแต่เขาไม่ฟัง ตนขอดูเอกสารว่าตรงไหนเขาก็ไม่ให้ดู แล้วก็ยื่นคำขาด 30 วัน ให้เอาเงินมาคืนตามจำนวนที่กล่าวหา ไม่งั้นจะให้ตำรวจมาจับติดคุกทำให้หมดอนาคต

"น้ากิ๊ก" เล่าต่อว่า ที่ผ่านมาตนไม่ได้อยู่เฉยๆ พยายามหาทางชี้แจ้งมาโดยตลอด ตนมีการทำรายละเอียดเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายต่างๆจากข้อมูลที่ "ไบร์ท" ให้มา ปรากฎว่าตัวเลขมันไม่ได้หายไปไหน เป็นค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจทั้งหมดแต่เขาไม่ได้เอาข้อมูลค่าใช้จ่ายตรงนี้มาหักออก จากนั้นตนก็ไปเห็นว่า "ไบร์ท" มีการทำธุรกิจแบบเดียวกันกับที่ทำกับตน โดยมีเขาและคนในครอบครัวของเขาเป็นผู้ถือหุ้น ครั้งแรกที่เห็นตนอดคิดไม่ได้ว่ามันอาจเป็นเหตุผลที่จะยึดหุ้นตนไป ซึ่งตอนนี้กิจการของตนและ "ไบร์ท" หยุดดำเนินการตั้งแต่เกิดเรื่อง และปัจจุบันทาง "ไบร์ท" ได้นำโปรดักส์ที่ทำด้วยกันเอามาขายในบริษัทใหม่ของเขา โดยเรื่องนี้ที่เขาเปิดบริษัทแข่งขันธุรกิจทางตนกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างไร แต่วันนี้ที่มาแถลงข่าวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงบริษัท