เปิดใจ แม่ลูกอ่อน "หยาดทิพย์" เห่อลูกสาวหนัก ปังสุดน้ำหนักลด 10 กิโล ใน 1 เดือน

หลังนางเอกสาว "หยาดทิพย์ ราชปาล" ได้ถือกำเนิดคลอดลูกสาวคนแรก "น้องเมย่า" ไปเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดสบโอกาสเจอเจ้าตัวที่งานบวงสรวงละคร "ศีรษะมาร" ช่อง 8 หุ่นปังไม่ไหว โดยเจ้าตัวเปิดใจเล่าว่า "ตอนนี้กลับมาเท่าเดิมแล้วค่ะ จริงๆ หยาดไม่ได้ตั้งใจลดเลยนะคะ และหยาดก็ทานเพิ่มขึ้นเยอะมากเลยด้วย แต่เนื่องจากว่าน้องทานนมแม่ และอาจจะเป็นเพราะหยาดนอนน้อย ดังนั้นพอกลับมาทำงานมันก็เลยลดลงไปฮวบเดียวเลยประมาณ 10 กว่ากิโลภายใน 1 เดือน"

"ชีวิตคุณแม่ลูกอ่อน ดีนะคะ ดีมากๆ เลย ถึงแม้ตอนแรกหยาดจะยังจินตนาการไม่ออก เพราะในครอบครัวของทั้งสองฝ่ายยังไม่เคยมีใครมีเด็กดังนั้นมันก็เลยเป็นความรู้สึกที่เรายังไม่คุ้นชิน แต่พอน้องเกิดมามันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ค่ะ เขาสร้างรอยยิ้ม เขาสร้างความสุขให้ครอบครัวของเรา รู้สึกว่าชีวิตเราก้าวไปอีกสเต็ป เราโตขึ้น โตขึ้นในทุกๆ ด้าน และตอนนี้เราก็ไม่รับผิดชอบแค่ชีวิตตัวเองกับครอบครัวของเรา แต่มันกลายเป็นว่าครอบครัวเราใหญ่ขึ้น เรามีความรับผิดชอบมากขึ้นในหลายเรื่องค่ะ ลูกเติมเต็มทุกอย่างเลยค่ะ ทุกๆ พัฒนาการของเขามีความน่ารักให้เราเห็น หรืออย่างที่คนเขาพูดกันว่าถ้าเป็นแม่แล้วจะเห่อลูก เรื่องนี้จริงค่ะ (หัวเราะ) ถามว่าเลี้ยงยากไหมมันก็ไม่ได้ง่ายค่ะ แต่ตอนนี้น้อง 3 เดือนครึ่งแล้ว ทุกอย่างมันก็เข้าที่เข้าทาง" 

"ช่วงที่เราติดโควิด ตอนนั้นก็ค่อนข้างหนักด้วยความเครียดค่ะ เพราะหยาดท้องประมาณ 4-5 เดือน หนักเหมือนกันค่ะ หยาดต้องเข้าห้อง ICU แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้ออกข่าวอะไรเยอะ เนื่องจากพอหยาดป่วย หยาดก็เลยไม่ได้มีเรี่ยวแรงออกมาอัปเดตอะไร อีกอย่างหยาดก็มีโรคประจำตัวอยู่แล้วด้วยเป็นโรคลิ่มเลือดอุดตัน เป็นมานานหลายปีแล้ว ดังนั้นพอหยาดเป็นโควิด แถมยังท้องอีก มันก็เลยยิ่งเสี่ยงกับการกระตุ้นเรื่องนี้ ช่วงนั้นก็เลยต้องดูแลกันใกล้ชิดเลยค่ะ ดูแลกันยาวๆ แต่ว่าตอนนี้ทุกอย่างเป็นปกติแล้ว (ยิ้ม) ส่วนสามี ณ ตอนนั้นทุกคนเป็นเหมือนกันหมดค่ะ ทุกคนมีความกังวล หยาดได้รับข้อความเยอะมากจากทุกๆ คนที่เขาเป็นห่วง ทั้งแฟนคลับทางบ้านที่ส่งเข้ามาทางอินสตาแกรม หรือจากเพื่อนๆ ดังนั้นหยาดจึงขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้บอกกับทุกคนนะคะว่า ที่หยาดไม่ได้ตอบข้อความทุกคนในตอนนั้นเป็นเพราะหยาดไม่มีแรงจริงๆ ขนาดแค่พูดปกติหยาดยังหายใจไม่ทันเลย มือไม้มันไม่มีแรง หยาดป่วยหนักมากค่ะตอนนั้น หยาดขอขอบคุณทุกคนด้วยนะคะสำหรับกำลังใจที่ส่งให้ ตอนนี้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ทุกอย่างเลยค่ะ แต่เรื่องโรคประจำตัวที่เคยเป็นก็ยังต้องดูแลกันต่อไป"

"เรื่องงาน ตอนนี้หยาดก็อยากถ่ายเรื่องศีรษะมารให้เสร็จก่อน และถ้าจบเรื่องนี้หยาดก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าจะรับยาวไปเลยไหม หรือว่าจะยังไม่รับดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความที่ปีนี้มันเป็นปีที่ 30 ที่หยาดเล่นละคร คือหยาดเล่นละครมาตั้งแต่ 5 ขวบ ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ที่เหมือนฝังอยู่ในตัวหยาดไปแล้ว เป็นงานที่หยาดรักและคิดถึง แต่หน้าที่แม่มันก็เป็นหน้าที่อันดับ 1 เช่นกัน เป็นหน้าที่หลักของหยาด แต่หยาดเชื่อว่าถ้าเราสามารถจัดสรรเวลาได้ แบ่งเวลาได้ เราก็สามารถทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดีทั้งหมดได้เช่นกันค่ะ"