ความปังของพวกเธอในอดีตแต่ละเพลง ฮิตติดชาร์ตฟังไม่มีเบื่อ เมื่อพูดถึงเพลงยุค 90 แล้วถือได้ว่าเป็นยุคที่มีสีสันและความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทำให้เพลงในยุคนั้นเป็นที่พูดถึง จนปัจจุบัน และคงต้องยกให้เป็นตัวแม่ หนึ่งในนั้นก็คือ คริสติน่า อากีล่าร์ Queen of dance ยุค 90’s
ย้อนวันวานในอดีตชื่อของ "คริสติน่า อากีล่าร์" นักร้องรุ่นคุณแม่นั้นเป็นที่โด่งดังในเกือบทุกเพศ ทุกวัย ทั้งรุ่นเด็ก รุ่นใหญ่ พากันโยกสเต็ปร้องตามเพลงฮิต จนได้รับฉายาราชินีเพลงด๊านนนน ที่มีความเซ็กซี่ ทุกย่างก้าวที่เคลื่อนไหว ดูมีเสน่ห์เซ็กซี่ในตัวเอง แต่พิษโควิด ทำให้เธอ ไม่ได้จับไมค์ร้องเพลงมาร่วม 2 ปีแล้ว งานนี้ทำราไยด้หดแบบชัดเจน
ล่าสุดมีโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ ในงานแถลงข่าว “ORANGE THE WORLD” ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ รณรงค์ต่อต้านและยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) ในวันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงสากล และวันยุติความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ ภายใต้ชื่องาน...“ORANGE THE DAY”
ติ๊นา บอกว่า “รายได้หายไป 2 ปี ก็กระทบทุกคน แต่ก็ทำให้เห็นว่าจะใช้จ่ายอะไรก็ต้องดูดีๆ อะไรที่ควรอะไรที่ไม่ควร ช็อปปิ้งน้อยหน่อย”
เลยไม่ได้ออกไปไหนเลยใช่ไหม
“ปกติก็ไม่ชอบออะไปไหนอยู่แล้ว น้อยมาก ชีวิตประจำวันก็แค่ไปยิม ไปออกกำลังกาย ไปหาคุณพ่อ ไปหาหลานแค่นั้น”
เรียกว่าปรับตัวได้ค่อนข้างดี
“คือเรื่องอยู่บ้านก็ไม่ได้มีผลอะไรกับติ๊นาอยู่แล้ว การอยู่บ้านไม่ได้มีผลอะไร แค่รู้สึกว่าคิดถึงเวทีเท่านั้นเอง”
โควิดทำคอนเสิร์ตหยุดไปเลย 2 ปี ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
“ก็ออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว อย่างเมื่อกลางปีคุณพ่อไม่สบายมาก ก็ดูแลคุณพ่อเป็นหลัก”
คอนเสิร์ตเงียบหาย ถูกเลื่อน
“ใช่ จริงๆต้องมีคอนเสิร์ตเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างที่เห็นคือที่ผ่านมากผมพยายามออกกำลังกาย แต่พอเลื่อนไปเป็นปีหน้าเราก็ต้องดูแลสุขภาพของเราไปเรื่อยๆ เราจะได้ไม่เหนื่อยตอนขึ้นคอนเสิร์ต แต่ก็ปีหน้าก็หวังว่าจะดีขึ้นกว่านี้ เราสามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติ ที่เราสามารถรู้สึกว่าเราเซฟได้”
ซ้อมเต้น ออกกำลังกายตลอดเวลา
“เป็นอาชีพของเรา และถึงแม้ไม่ใช่อาชีพทุกคนก็ควรรักษาสุขภาพ ยิ่งเราเห็นพ่อเราไม่สบายก็ยิ่งต้องรักษาสุขภาพ ก็รู้สึกว่าไม่ได้ อาหารการกินเราก็ชอบกินเหมือนคุณพ่อ การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นอย่าทำตอนที่แย่ เป็นอะไรที่ต้องทำต่อเนื่อง สม่ำเสมอ”
จากสถานการณ์ตอนนี้ คิดไหมว่าต้องหาอะไรทำเสริม
“มีคุยกับน้องเหมือนกันนะ ว่าเราอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรมันดูไม่มีคุณค่าเลย เหมือนเราไม่ได้ทำอะไร ไม่มีประโยชน์เลย ก็คิดว่าเราหาอะไรทำให้เรารู้สึกว่ามีกิจกรรมให้ทำ ไม่อย่างนั้นเราอยู่บ้านเราจะขี้เกียจนะ แล้วจะเฉื่อย ซึ่งไม่อยากให้ตัวเองเป็นอย่างนั้น และเชื่อว่าหลายคนในวงการก็เป็นแบบนี้ เพราะอาชีพของเราคือการอยู่บนเวที ได้ร้องเพลง ได้เต้น ได้เอ็นเตอร์เทนคนดู แต่ตอนนี้มันเป็นอะไรที่กระทบวงการบันเทิงมากที่สุด ในสถานการณ์โควิดนี้ แน่นอนเราก็ต้องหาอย่างอื่นทำ”
เล็งทำอะไรไว้
“ยังไม่รู้เลย ก็อาจจะเป็นแนวธุรกิจ ก็ต้องมีบ้างแล้ว เพราะคิดว่าคงจะไม่ร้องเพลงไปจนนานมากขนาดนั้นแต่ตอนนี้ยังร้องได้อยู่ ยังทำได้อยู่ ถ้าไปถึงจุดหนึ่งที่คิดว่าไม่เอาแล้ว อย่างน้อยเราต้องมีอะไรทำ เราเห็นคุณพ่อคุณแม่พอเกษียณปุ๊บดร็อปเลย จริงๆคนที่ไม่ทำงานเนี่ยร่างกายปุ๊บเลย”
ตอนแรกไม่เคยคิดเลยว่าจะทำอะไรเสริม
“ไม่เคยเลยว่าต้องทำอะไร แต่นี่คิดแล้วว่าต้องทำอะไรที่ต้องใช้สมอง ให้ได้ใช้ความสามารถของเราบ้าง”
งานออนไลน์ไหวไหม
“ติ๊นาพูดไม่เก่งไง (ออกกำลังกาย) ไม่แน่ๆ”
ช่วงนี้เพลงยุค 90 ได้รับความนิยม
“จริงแล้วเพลงยุค 90 เป็นเพลงที่ฟังได้ตลอดเลย ไม่ใช่แค่ช่วงนี้หรอก ตลอดเลยที่ผ่านมาติ๊นายังเห็นน้องๆ รุ่นเด็กที่ยังไม่เกิดตอนติ๊นาออกอัลบั้ม แต่เขาก็ยังมาฟังเรา แสดงให้เห็นว่าเพลงยุคนั้นมีความไพเราะ มีเสน่ของมัน อย่างต่างชาติติ๊นาก็ฟังเพลงยุค 90 นะ เพลงฟังง่าย ฟังเพราะ ฟังเพลิน อาจจะไม่ใช่ทุกเพลงนะ แต่ก็แล้วแต่คนชอบ แล้วแต่ยุค แล้วแต่วัย
แต่ยุค 90 คืออมตะมากกว่า”
ภูมิใจแค่ไหน เพลงเราก็อมตะ
“ก็ต้องบอกว่าเราโชคดีมากกว่าที่เราได้อยู่ในช่วงยุคนั้น ได้ทำงานได้มีผลงานในช่วงยุคนั้น และเป็นช่วงที่เพลงไทยที่สุดแล้วยุค 90 ไม่ว่าจะเรื่องของการทำงาน ทั้งมีพี่เต๋อ มีโปรดิวเซอร์ที่เป็นตัวท็อปของเมืองไทย มีภาษาที่สวยงาม ก็สามารถฟังได้เรื่อยๆ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง