อาลัย "เอ พุฒิธร" คนทำให้ไทย มี TOP 10 นางงามจักรวาลคนแรกในรอบ 27 ปี
กรณีข่าวเศร้าของ "เอ พุฒิธร" เจ้าของโมเดลลิ่ง-เอเจนซี่ Kiss Model เสียชีวิตกะทันหัน ซึ่งเอ คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ นางแบบ นายแบบ นางงาม ดาราชั้นนำเมืองไทย อาทิ "มารีญา พูนเลิศลาภ" , "มัจฉา โมซิมันน์" , "แนท อนิพรณ์" , "มิเรียม ศรพรหมมาศ" , "กระทิง ขุนณรงค์" ฯลฯ
แต่เรื่องสำคัญที่ถือเป็นเกียรติประวัติที่น่าจดจำของ เอ พุฒิธร ที่มีให้แก่วงการนางแบบและวงการนางงามของไทย นั่นก็คือ เอ เป็นผู้ค้นพบ “แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ ที่ช่วยให้ประเทศไทย ได้มีนางงามไทยที่ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส เป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปีต่อจาก ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก จากการทำผลงานของ แนท อนิพรณ์ ที่เป็นตัวแทนสาวไทยเดินทางไปประกวดในปีนั้น
และ เอ ยังเป็นผู้ริเริ่มการทำลุคบุ๊กเสื้อผ้ารายวันให้กับนางงามไทย เพื่อจะได้นำชุดไปมิกซ์แอนด์แมตช์ใส่ในช่วงเก็บตัวตลอดการประกวด
โดยปี 2015 แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ สามารถคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมในชุด “ตุ๊กตุ๊กไทยแลนด์” จากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส ครั้งที่ 64 ประจำปี 2015 ที่สหรัฐ มาครองได้สำเร็จ แถมยังทำผลงานโดดเด่นด้วยการผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ในการประกวดครั้งนั้น
ซึ่ง เอ-พุฒิธร สอ้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิส โมเดลส์ (Kiss Models) ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของแนท อนิพรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง โพสต์ทูเดย์ เอาไว้ในตอนนั้น เล่าถึงเส้นทางของแนทและการมีส่วนช่วยให้แนทประสบความสำเร็จในการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งนั้นเอาไว้ว่า
ได้มีโอกาสเจอแนท ตั้งแต่สมัยที่แนทเข้าประกวดบนเวที Thai Super Model ครั้งนั้นแนทเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย หลังจากได้ทำความรู้จักกัน ต่อมาไม่นานคุณแม่ของแนทก็มาฝากให้เป็นนางแบบในสังกัด
“ทำงานร่วมกันมาได้ 4 ปี แนทก็มาขอว่าจะไปประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เราก็โอเค แต่บอกเขาว่าเราจะไม่เป็นคนส่งนะ ให้เขาไปเอง เพราะสุดท้ายเวลาได้รางวัลอะไรมา จะได้เป็นของเขาหมด แต่ระหว่างนั้นเราก็ยังเป็นที่ปรึกษาให้รอบไหนที่เขาต้องหาชุด เราก็ช่วยเป็นธุระให้
จนสุดท้ายแนทก็ไปถึงฝัน ได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มาครอง ถามว่าตอนนั้นหวังว่าน้องต้องได้มงกุฎมั้ย เราก็ไม่ได้กดดันขนาดนั้น แค่บอกว่าให้น้องทำให้เต็มที่ สนุกกับสิ่งที่ทำ จนพอน้องได้ตำแหน่งเราก็เข้ามาช่วยดูแล ตั้งแต่การถ่ายภาพพอร์เทรตของแนทเพื่อส่งไปให้กองประกวดที่นู่นเลย”
เอ เล่าว่า ภาพถ่ายของแนทได้ ณัฐ ประกอบสันติสุข ช่างภาพฝีมือดีมาเป็นผู้ถ่ายภาพให้ ในส่วนของชุดราตรีและชุดที่แนทใช้ในการทำกิจกรรม ก็ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำทั้งของไทยและต่างประเทศ ซึ่ง เอ เป็นด่านแรกที่ไปเลือกชุดมา ก่อนจะมาช่วยกับทางทีมสไตลิ่งลุคต่างๆ ให้แนทรวมกว่า 40 ลุค
“ในส่วนของเสื้อผ้า เราคิดกันตั้งแต่ชุดแรกที่แนทเดินทางออกจากต่างประเทศไปเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ก็เลือกชุดที่เหมาะกับกิจกรรมหลักๆ ของแนท เสื้อผ้าแนทใส่กระเป๋าไปประมาณ 5 ใบ เราทำเป็นลุคบุ๊กให้แนทไปเลยว่า มิกซ์แอนด์แมตช์ชิ้นไหนกับชิ้นไหน เพราะเราไม่ต้องการให้แนทแต่งตัวเป็นแบรนด์ไหนแบบโททัลลุค อยากให้แต่งออกมาแล้วดูดี สามารถใส่ไปเดินตามท้องถนนได้จริงๆ
นอกจากนี้เราจะทำเป็นโพยแยกว่า เสื้อผ้าชิ้นไหนอยู่กระเป๋าไหน แนทจะได้หาได้ถูก ไม่ต้องรื้อออกมาทุกกระเป๋าเพราะเรื่องชุดเราคิดว่าน่าจะเก็บเป็นความลับ ไม่อยากให้เพื่อนนางงามรู้ก่อนว่าเราจะใส่ชุดไหน”
นอกจากนี้ เอ และทีมงานจากเมืองไทยยังเป็นคนเทรนให้แนท รู้จักการสร้างตัวตนให้มิสไทยแลนด์ “เราไม่ได้แพลนนะว่าไปถึงต้องไปพรีเซนต์ยังไง ต้องพาตัวเองไปอยู่ในกล้องตลอดเวลา แค่ให้แนทเอาความสดใส มั่นใจออกมา พอบวกกับบุคลิกภาพที่ดี การแต่งตัวที่ดูดี สวยทุกวันจนทำให้สื่อต่างประเทศจับตามอง สนใจเรา ก็ถือเป็นการสร้างตัวตนของเรา ซึ่งนี่ถือเป็นสิ่งสำคัญ” เอ กล่าวทิ้งท้าย