ทำเอาแฟนคลับที่เห็นข้อความ ของนักร้อง นักแสดงหนุ่มชื่อดัง "ลีโอ พุฒ" ที่ออกมาโพสต์แชร์ประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัวเอง หลังตรวจพบว่าป่วยเป็นโรค "เส้นเลือดหัวใจตีบ" โชคดีที่มาหาคุณหมอ เนื่องจากสังเกตตัวเองมีอาการแน่นหน้าอก
โดย "ลีโอ พุฒ" ได้เขียนเล่าเรื่องราว แชร์ประสบการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Putthipong Sriwat แบบละเอียดว่า ....
"โชคดีที่มาหาหมอหลังจากพบอาการแน่นหน้าอก
สังเกตอาการตัวเองว่ามีอาการแน่นหน้าอก แต่ไม่มีเรอเปรี้ยว หรือ แสบคอ อย่างที่กรดไหลย้อนควรจะเป็น รอดูมาสามวันแล้ว
แล้วอาการแน่นหน้าอกที่มาเป็นระยะมักเกิดขึ้นหลังจากออกแรงยกของหรือว่าทำ Activity ต่างๆ แถมอาการแน่นหน้าอกที่ว่ามีร้าวลงรักแร้ และ แขนซ้ายด้วย
จึงตัดสินใจมาหาหมอ
ตรวจเช็คคลื่นไฟฟ้าหัวใจปกติ อัลตราซาวด์ปกติ แต่เดินสายพานอ่านกราฟจึงเห็นว่ามีปัญหา เพราะมีอาการจุกเสียดแน่นหน้าอกปรากฎให้เห็น
คุณหมอจึงฉีดสีเพื่อดูว่าเส้นเลือดเส้นไหนแน่ที่มีปัญหา
พบว่าเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบนะครับ ตีบเยอะมากด้วย กว่า 90% ทีเดียว
ไม่ไช่กรดไหลย้อน
ถ้าหากใครมีอาการแยกอาการมันออกจากกันให้ดีและไปหาหมอตรวจเถอะ
อย่าปล่อยทิ้งไว้
นอกจากนี้ "ลีโอ พุฒ" ยังเล่าต่ออีกว่า "ถ้าผมไม่มา รพ. ก็มีโอกาสสูงมาก ที่จะหลับไปเฉยๆ หัวใจวายเฉียบพลันในวันใดวันหนึ่ง เหมือนพกระเบิดเวลาอย่างที่เค้าว่าจริงๆ
นี่คงเลิกคบบุหรี่แล้วแน่นอน และจะใช้ชีวิตระมัดระวังขึ้น
ทุกนาทีบนเขียงผ่าตัด นึกถึงแต่พระพุทธเจ้า หน้าเกจิครูบาอาจารย์หลายท่าน กับลูก และสถานที่ที่ชอบวนไป ก็ทำใจว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
มันเป็นการผ่าตัดที่ทำบอลลูนในเส้นเลือดหัวใจ และเป็นผ่าตัดเล็ก ฉีดยาชาแล้วทำเลย
ผมรู้สึกทุกๆความเคลื่อนไหวของเครื่องมือคุณหมอ ตั้งแต่เปิดแผลที่เส้นเลือดใหญ่ เลือดอุ่นกระฉูดออกมาเลอะแขน หรือในร่างกายที่เครื่องมือหมอแทงสวนเส้นเลือดเข้าไป
สัมผัสความรู้สึกแน่นหน้าอกเมื่อคุณหมอใส่ขดลวดในเส้นที่อุดตัน และคลายลง รวมถึงตอนที่คุณหมอดีงเครื่องมือออกชัดมาก
ชีวิตใหม่ที่ได้รับมาจะใช้ให้คุ้ม เพื่อพยายามประกอบความดี สร้างบุญ สร้างกุศลเพื่อเป็นเสบียงเอาไว้หากวันเดินทางไกลมาถึงจริงๆในวันหนึ่ง
บางทีคนเราก็ต้องเรียนรู้อะไรในวิธีที่ยาก ว่าชีวิตมันเปราะบางกว่าที่คิดนะ และเราไม่ได้เป็นอมตะที่จะต้องสะสมทรัพยากรไว้กับตัวมากเกินความจำเป็นโดยไม่รู้จักแบ่งปัน
แถมชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะเปลืองเวลาไปกับโมหะทั้งมวลอีกด้วย
ขอบพระคุณคุณหมอครับที่ช่วยเหลือดูแล
คงพักผ่อน ย้ายที่นอนสักหน่อยนะครับ ตอนนี้สบายดีแล้วพักฟื้นสักหน่อยก็ดีเองแหละ
ขอหายไปหาภูเขาหน่อยสักนิด อยากไปนั่งโง่ๆ จำภาพสวยๆ เอาไว้ สูดอากาศอันมีค่าเอาไว้ อยากจะรู้เหมือนกันว่าพ้นความเป็นความตายมาได้มันจะทำให้เรามองอะไรๆ เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน
และ คิดว่าตัวเองสมควรได้รับการปลอบโยนจากธรรมชาติบ้าง นานเกินไปแล้วที่ไม่พบกันเลย…"
ขอบคุณภาพประกอบข่าวจากเฟซบุ๊ก Putthipong Sriwat
ข่าวที่เกี่ยวข้อง