บันเทิง

อดีตนางเอกชื่อดัง "แหม่ม อลิษา" เคยล้มละลายเป็นหนี้ 20 ล้านบาท

อดีตนางเอกชื่อดัง "แหม่ม อลิษา" เผยชีวิตสุดพลิกผัน จากนางเอกแถวหน้า สู่แม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง เพราะเจอมรสุมโรครุมเร้า แถมโดนบูลลี่เรื่องอ้วนมาตลอดชีวิต ต้องกินยาลดความอ้วนติดต่อกันนานนับ 10 ปี อีกทั้งเธอยังเคยล้มละลายเป็นหนี้ 20 ล้านบาท

 

โดยอดีตนางเอกชื่อดัง "แหม่ม อลิษา" เปิดเผยชีวิตสุดพลิกผันเป็นครั้งแรกผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 

 

พี่แหม่มเป็นนางเอกยุค 90's ที่เป็นลูกครึ่งคนแรกๆ เลย?

แหม่ม : "ใช่ ลูกครึ่งคนแรกๆ เลย ตอนนั้นเข้าวงการ ด้วยการสมัครมากับพี่จิ๋ม มยุรฉัตร คือประกวดนางงามมาแล้วตัน แล้วความคิดของเด็กคนนึงคือฉันอยากขึ้นไปอยู่บนจอ อยากให้คนดูฉัน แล้วไปเจอข้อความเขารับสมัครพอดี ก็เลยเขียนมาง่ายๆ สั้นๆ แล้วพี่จิ๋มก็มีจดหมายตอบกลับให้มาหาที่ช่อง 3 หนองแขม ส่วนใหญ่ได้ที่ 1 ไม่ค่อยพลาด มิสเวิลด์ไปตอนใกล้จะเลิกแล้ว ใกล้ที่จะแขวนรองเท้าส้นสูงแล้ว ปีนั้นไม่มีการจัดประกวดนางสาวไทยไม่มีอะไร เขาจะสุ่มจากสาวงามที่ดังๆ ของแต่ละท้องถิ่น ก็ได้เข้ามาเป็น 1 ใน 3 คน ก็ได้ไปในส่วนของมิสเวิลด์ และท่านต่อๆ ไปก็ไปคนละเวที มันเป็นความมั่นใจของเด็กคนนึง ที่แบบความใฝ่ฝัน ความทะเยอทะยาน"

ตอนที่พี่ดังสุดขีด แต่อยู่ๆ พี่ก็หายเลยเหมือนกัน?

แหม่ม : "ใช่ๆ มันเป็นเหมือนช่วงรอยต่อ เราพลิกมารับบทแม่ ไม่ได้เกิดอะไรเลย เพียงแต่ว่าเราเร็วไปกับการที่จะมาเล่นบทแม่ แต่บทแม่ที่รับเนี่ย คุณแม่เพื่อนรัก ของกันตนาตอนนั้น มันเป็นละคร 100-200 ตอน แล้วไม่ใช่คุณแม่แก่ ไม่ได้มีลูก แต่มีเด็กที่เราต้องอุปการะ ก็เลยเรียกแม่ ตอนรับบทแม่ก็อายุประมาณ 30 กว่าแล้ว"

 

อดีตนางเอกชื่อดัง \"แหม่ม อลิษา\" เคยล้มละลายเป็นหนี้ 20 ล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ที่ผ่านมาเห็นว่ามีการบูลลี่ในเรื่องของหุ่น?

แหม่ม : "เป็นคนที่อ้วนมากกว่าผอม ที่เห็นว่าผอมคือเราบังคับตัวเรากินยาตลอด ด้วยโครงสร้างของพ่อแม่เราเป็นคนตัวใหญ่อยู่แล้ว พี่มีหมอลดความอ้วน 3 หมอ เราก็จะกินต่อเนื่อง แล้วมี 1 ปี ที่ 365 วันไม่มีวันหยุดเลย นี่คือผลพวงทั้งหมดที่ 10 กว่าปีที่เราทานยาหนักบ้าง เบาบ้าง พอเริ่ม 40-45 ทุกอย่างมันจะมาหมด แล้วจะเอาลงกลับไปยาก ช่วงนึงค่อนข้างแย่ เพราะมันมาทั้งรูมาตอยด์ แล้วมาเจอความดัน มาเจอไขมัน คือโรคเสี่ยงพอถึงเวลามันมาเป็นแพคเกจให้เราเลย ก็ต้องเริ่มกลับมาดูแลตัวเองก่อน ตัดยาลดความอ้วนทุกอย่าง ณ เวลานี้หลายปีแล้วที่ไม่แตะเลย"

เห็นว่าเคยโดนทัก ถึงขั้นไปร้องไห้ในรถ?

แหม่ม : "เวลาอยู่ในกอง เราจะกิน อุ้ย...กินอีกแล้วเหรอ เดี๋ยวก็อ้วน รู้ไหมเนี่ยวันนี้ทั้งวันยังไม่ได้กินอะไร เข้าไปนั่งร้องไห้อยู่ในรถ แต่เป็นคนที่เวลาอยู่หน้างานจะหักความทุกข์เราเร็วมาก ให้มันจบไปก่อน ให้มันผ่านไป เรามาทำงาน ไม่ใช่เราไม่เครียด ความเครียดเรามีอยู่แล้ว เวลาเราไปกองเจอตัวน้อยๆ คือตอนนั้นจะตอบโต้ค่อนข้างแรง แต่พอมา ณ ปัจจุบัน เราก็จะหักอีกอย่างเพื่อไม่ให้คนเกลียดเรา ตอนนั้น มีอาการคล้ายๆ เป็นโรคซึมเศร้า ปิดตัวเองไปเลย ถ้าเห็นว่ามันไม่ไหวก็ไม่รับ ไม่อยากไปปะทะ ไม่อยากให้ใครทัก เวลาเราไปกองเราทำงานเต็มที่ เพราะว่าบทด้วยอะไรด้วย ความเครียดมันสะสม แล้วเก็บไม่ออกไปไหน มันก็กลายเป็นว่ามีกรอบให้ตัวเองหนาเลย หาหมอได้ประมาณ 2 ปี"

 

อดีตนางเอกชื่อดัง \"แหม่ม อลิษา\" เคยล้มละลายเป็นหนี้ 20 ล้านบาท

 

 

พี่แหม่มมีหนี้ 20 ล้าน?

แหม่ม : "อันนั้นคือช่วงตั้งแต่ฟองสบู่แตก แบงก์ยึดบ้าน ยึดอาคารพาณิชย์ เพราะเราทำธุรกิจกิ๊ฟช้อป เราก็ต้องยอมทุกอย่างเพื่อปลดหนี้ แต่กว่ามันจะปลดได้มันทบไปเรื่อยๆ จนเรามีความรู้สึกว่ามันสิ้นหวัง เกิดจากเวลาเราทำกิ๊ฟช้อป มันจะมีบางตัวที่ตีกลับ ล็อตนึงตีกลับ 5-6 แสนก็มี คือไม่ผ่านเลย เพราะบางตัวเราไปจีน โคมไฟ หมอน รองเท้า กระเป๋า จากอุตสาหกรรม โรงงานเล็กๆ ย่อมๆ มันเยอะ แต่วันนึงมันล้มขึ้นมามันเยอะมาก"

เห็นว่าตอนนั้นถึงขั้นคิดว่าไม่อยากอยู่แล้ว?

แหม่ม : "ใช่ๆ เพราะมีความรู้สึกว่าถ้าตายแล้วคือจบ แต่มันก็มีประเด็นเล็กๆ ขึ้นมาว่า ไม่จบนะ หนี้สินผู้สืบทอดเหมือนว่าพ่อ แม่ ก็ต้องรับผิดชอบ ว้าย...ไม่เกี่ยว ก็เลยไม่ ก็อยู่ต่อ ลองอดทนอีกสักเฮือกนึง อยู่มาจน ณ ปัจจุบันนี้ไม่รู้กี่เฮือกแล้ว"

ทุกวันนี้หนี้ 20 ล้านหมดยัง?

แหม่ม : "หมดแล้ว คือไม่ว่าอะไรคือยอมที่จะเหลือแต่ตัว บ้านไม่มีอยู่ไม่เป็นไร แต่ให้หนี้มันหมด ทรัพย์สินทั้งหมดขายทอดตลาดและชดใช้ไป ตอนนี้มีคอนโดเล็กๆ ที่เมืองทอง อยู่กับลูกสาว 4 ขา ซึ่งคุณหมอแนะนำให้เลี้ยง เราซึมเศร้า เราป่วย เขาคือยาขนานเอก มันมองไม่เห็นทางว่าจะเอาตรงไหนไปให้เขา แต่มันมีทรัพย์สินตัวบ้าน ตัวอาคารพาณิชย์ รถเบนซ์ อะไรก็ได้ที่มีบอกว่าคุณก็เอาไปเลย แต่ลบศูนย์ให้เรา ก็รอใช้เวลา วันที่ไปเซ็นปลดตัวเองออกมาเนี่ยโล่ง ร้องไห้ วันนั้นที่แบงก์โทรมาแจ้งอยู่กับคุณแม่ แล้วจอดกลางไฟแดงเลย เขาบอกคุณมาเซ็นปลดด้วยนะทุกอย่างจบแล้ว ร้องไห้เลย คือจบ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปสร้างเอาใหม่"

แล้วอะไรที่เป็นจุดเริ่มต้นให้พี่แหม่มมาขายอาหารตามสั่ง?

แหม่ม : "ด้วยงานที่น้อยลงจากสภาพร่างกายเรา แล้วพี่มีความรู้สึกว่าเราต้องช่วยตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ค้าขายมันคือสายเลือดเรา เราก็มองว่าเราชอบอะไร เราทำอาหารได้ใช่ไหม ก็เริ่มขายจากแก๊สปิกนิคตัวเดียว ขายข้าวไข่เจียว ขายสับปะรดภูแลหน้าตึกตัวเอง แรกๆ ถามว่าอายไหมอาย เพราะมันจะมีคำถามที่เราไม่รู้ว่าเขาตั้งใจถามหรือตั้งใจประจาน แบบไม่มีงานเหรอ ถึงมาขายของก็ร้องไห้นะ แล้วบอกเราต้องสู้ ดีกว่าเราไปขอเงิน ไล่ยืมคนอื่นเขา เราหาเอง ใช้เอง เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เลี้ยงหมา ก็แค่ตัวคนเดียว หาเลี้ยงดูแลตัวเองไป"

พี่แหม่มเปิดร้านอยู่นานไหม?

แหม่ม : "เปิดหน้าตึกประมาณ 4-5 ปี แล้วย้ายไปอยู่ด้านข้างซึ่งเป็นช้อปสั้นก็เริ่มเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา พอเริ่มอยู่ตัว เริ่มมีลูกค้า ทุกคนรู้จักในนามแม่ค้าสายติสท์ เริ่มรู้ว่าพี่แหม่มขายตรงนี้นะ พี่แหม่มมาทำอาหารนะ วันไหนมีจ๊อบ มีละครก็ไปก็ปิดร้าน เขียนว่าวันนี้ทิ้งกระทะไปเป็นดาราแป๊บนะ"

เห็นว่ามีเพื่อนชวนไปทำงานที่เกาะ?

แหม่ม : "ใช่ๆ ก็คิดว่าน่าจะดี ก็อยากออกไปแตะขอบฟ้า แต่ร่วง คือเมืองเกาะจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมันจะมีหน้าโลว์ หน้าไฮท์ แล้วเราไปในจังหวะที่มันจะวิกฤต แล้วพอหน้าโลว์ฝรั่งจะน้อยมาก พี่จะไปอยู่ในส่วนของครัวไทย แล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง พอถึงจุดนึงมันไม่ใช่แล้ว ความที่เราเป็นนายคัวเราเองตลอด การรับคำสั่งบางครั้ง การพูดไม่เป็น สื่อสารกันไม่ถูก บอกเขาว่าเราไม่ทำแล้ว อยากออกจากเกาะ"

ร้านที่กรุงเทพฯ คือปิดไปเลยไหม?

แหม่ม : "เซ้งเลย แล้วเราก็ไปเกาะประมาณ 1 ปี แล้วก็ออก เพื่อนก็ชวนมาเชียงใหม่ แต่เชียงใหม่เราลงทุนเองเลย แต่ก็ไม่ได้หนักมาก เพราะว่าร้านเขามีโต๊ะ เก้าอี้ ให้เรายืมอยู่แล้ว ก็เหมือนจะดี แต่เจอเผาป่าไปเมื่อปลายปี แล้วเริ่มโควิดเริ่มต้น ซึ่งจากที่เคยขายได้ 5-6 พันต่อวัน เหลือบางวันไม่ถึง 500 แล้วนักท่องเที่ยวจีนหายหมดเลย เพราะร้านที่เราตั้งอยู่แม่ริม ก็เลยเริ่มไม่ไหว โอเคถ้างั้นเราหยุด"

พอเจอสถานการณ์ไฟป่า โควิดระลอกแรก ได้ทุนคืนไหม?

แหม่ม : "ไม่ได้ แต่เราก็ได้เซ้งของทั้งหมด แล้วตอนนั้นแทบไม่มีเงินเลย ก็เลยเปิดว่ามีปัญหาเรื่องค่ารถ เราจะขายน้ำปลาหวานช่วยเราซื้อหน่อย fc แฟนๆ เพื่อนๆ ก็ช่วยกันสั่ง ก็ได้มา แล้วได้ตอนเซ้งร้านมานิดหน่อยก็ได้กลับกรุงเทพฯ กลับมาถึงเขาก็ล็อกดาวน์เลย"

พอจะบอกได้ไหมว่าตอนนั้นเหลือเงินอยู่เท่าไหร่?

แหม่ม : "ตอนนั้นมีแฟนละครเขาสั่งน้ำปลาหวาน สั่ง 500 แต่โอนให้ 5,000 เขาก็บอกว่าช่วยค่าน้ำมันจะได้มีทุนไปทำต่อนะ ออกมาจากเชียงใหม่โดยที่เราไม่ได้เป็นหนี้ใครเลย มีมาไม่กี่หมื่น"

กลับมากรุงเทพฯ ก็เจอล็อกดาวน์ แล้วพี่แหม่มทำยังไง?

แหม่ม : "มันบอกตัวเองว่าเจอหนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ตอนนั้นยังกลับมาทำอะไรไม่ได้เพราะเราไม่มีทุน ก็ทำข้าวไปฝากขายร้านข้างล่าง 5-10 กล่อง ได้ 100-200 ก็ได้หยอดค่าน้ำค่าไฟ เพราะเราไม่มีค่าเช่า ห้องเป็นของเรา ก็ทำอย่างนี้ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางวันลง 8 กล่อง ยืนลุ้นจนเที่ยงคืน แต่ก็ต้องสู้ มันไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะช่วงนั้นงานมันไม่มีอยู่แล้ว" 

ทุกวันนี้พี่แหม่มมีภาระอะไรอยู่บ้าง?

แหม่ม : "เหลือรถ ถามว่าเยอะไหมก็ไม่เยอะหรอก ถ้ามีละครเข้ามา ถ้าโปะก็น่าจะจบ"

ตอนนี้มีงานในวงการไหม?

แหม่ม : "ได้ของคุณเอ เรื่องแม่เบี้ย แล้วก็มาได้ของกันตนา 2 เรื่อง"

 

อดีตนางเอกชื่อดัง \"แหม่ม อลิษา\" เคยล้มละลายเป็นหนี้ 20 ล้านบาท

 

เรื่องความรักเจอกันยังไง?

แหม่ม : "มันเป็นโควิดแรกแล้วหัดเล่น TikTok ให้น้องที่รู้จักสอน แต่เล่นไม่เป็นก็เข้าไปส่อง แล้วก็เริ่มโพสต์เริ่มอะไร เราก็ไม่ได้สนใจ มีคนดู 2-3 คนเอง แล้วส่องไปเรื่อยก็ไปเห็นเขา"

ปิ๊งเลยไหม?

แหม่ม : "ไม่ ตอนนั้นก็คุยอยู่หลายคน เราก็หมาหยอกไก่ไปเรื่อย ยังไม่คิดว่าจะมีเป็นแฟน เป็นอะไร เพราะว่าเหมือนเราอยู่ตัวคนเดียวแล้วเราสบายกว่า เราไม่อยากเอาใครมานู่น นี่กับเรา เพราะว่าคนที่คลิกตรงกันมันค่อนข้างยาก ก็ยังไม่ได้คิดอะไร ก็พิมพ์กลับ พิมพ์เล่น ถามว่าตอนนั้นรู้จักเขาไหม ก็รู้จัก แต่ว่าไม่ได้อะไร มีอยู่วันนึงมั้งพี่ไลฟ์สดใน TikTok อ่อเป็นคลิปแล้วร้องไห้ เขาก็เข้ามาบอกว่าอย่าร้องไห้ สู้ๆ นะ ก็เลยจุดประเด็นกันขึ้นมานู่นนี่นั่น ก็เลยคุยกัน"

ทำไมต้องเป็นสาวหล่อทั้งหมดที่พี่คุยอยู่ 4-5 คน?

แหม่ม : "พี่สายแฟนผู้หญิงมาตั้งแต่เข้าวงการแล้ว พี่ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แต่ว่าไม่ได้มานั่งเปิดว่าฉันชอบผู้หญิงนะ พี่อยากอยู่ในโลกของพี่ คือคนชอบก็มี คนไม่ชอบก็มี เราผู้ใหญ่แล้วไม่ต้องมาโอเวอร์อะไรกันมากมาย อันนี้เขาขอ ไม่งั้นไม่ให้ออก"

พี่แหม่มเคยมีแฟนผู้ชายไหม?

แหม่ม : "มีคุย แต่ว่ามันไม่พัฒนาไปตรงไหน อาจจะด้วยเรามีแฟนผู้หญิงมา ในความรู้สึกของพี่ผู้หญิงเขาค่อนข้างดูแล เขาค่อนข้างเทคแคร์ หรือเราเจอผู้ชายที่ยังไม่ตรงกับเราก็ได้ มันก็ผ่านไป"

แล้วจาก TikTok ทำยังไงให้โคจรมาเจอกัน?

แหม่ม : "พอเริ่มอันนี้ปั๊บก็อินบ๊อกซ์คุยกัน แล้วคุยกันผ่านกล้อง คุยกันจนโอเคพี่ก็ตัดรอบตัวทิ้งหมดเลย เหลือเขาคนเดียวเข้ารอบ"

มาเจอกันครั้งแรกตอนไหน?

แหม่ม : "เขาลงมาทำธุระที่กรุงเทพฯ ให้น้า เขาอยู่ลำปาง ก็เลยนัด งั้นเธอก็มาหาฉันที่ตึกแล้วกัน พี่ก็จะอยู่ในร้านเพื่อน เขาก็จะเดินมาหันไปพูดกับเพื่อนว่าไม่เอา เดินตัวกลมมาเชียว เขาตัวเล็กกว่า เตี้ยกว่าอีก แล้วเราหมดสิทธิ์ใส่ส้นสูง แต่ก็เรียกเขามาคุยกัน วันแรกเขามีของฝากด้วยนะ เป็นพวกกิ๊ฟอะไรอย่างนี้ เพราะพี่จะเอามาแต่งเล่น TikTok ไง ลืมไว้ในแท็กซี่"

แล้วตัดสินใจว่าเราจะคบกันแล้วนะตอนไหน?

แหม่ม : "ต่างคนต่างถาม พี่ก็ต้องถามตัวพี่เอง พี่จะต้องคิดเยอะ คิดหนัก การที่เราอยู่คนเดียวมาตลอดเวลา ขนาดน้องมา หลานมาเกิน 3 วัน ยังมองหน้าเลย จนน้องบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับแล้ว โลกส่วนตัวเราสูงมาก ก็ต่างคนต่างไปถามกัน นี่ก็ถามตัวเองอย่างน้อยๆ เขาก็มาตรงคอนเซ็ปต์ที่เราอยากได้ เราอยากได้น้อง เราอยากได้เพื่อน แล้วสุดท้ายเราก็อยากได้แฟน แต่คำว่าแฟนของเรานิยามแล้วแต่ใครจะคิด แต่พี่มีเพื่อน มีคนดูเรา เพราะ 1.ด้วยสุขภาพด้วยอะไรด้วย แล้วก็มาช่วยกันทำมาหากิน พี่ก็บอกพี่ไม่มีอะไรนะก็แค่ดาราแก่ๆ อ้วนๆ คนนึง ไม่มีสมบัติที่จะให้ใครมาเอา เราต้องทำไปด้วยกัน"

แล้วคุณเก่งว่าไง พอเจอคำพูดแบบนี้?

เก่ง : "ก็คิดอยากจะมีอะไรเป็นของตัวเองด้วย แล้วพี่แหม่มชวนก็เลยมาอยู่ด้วยกัน"

ตอนนี้คบกันมานานหรือยัง?

แหม่ม : "23 กันยายน ครบ 1 ปี 3 เดือนแรกคิดว่าไม่รอด เพราะเขาจะเป็นคนที่คิดเอง เออเอง เขายังเด็กไง แต่เราผ่านอะไรมาเรื่องแค่นี้ขี้เกียจอธิบาย บางทีนางก็ไปนอนกระฟืดกระฟาด  เราก็บอกว่าถ้าเป็นแบบนี้กลับบ้านไป"

ห่างกันกี่ปี?

แหม่ม : "พี่ 56 เขา 43 ก็ห่างกัน 13 ปี ในความคิดของพี่นะ ก็ผู้หญิงเหมือนกัน ไม่มี จะอ้วนจะผอมยังไงเขาก็ต้องรักพี่ ผู้หญิงมันไม่ค่อยซับซ้อน แต่อาจจะเป็นเพราะพี่เจอคนที่เลเวลเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่ชอบ หรือชอบก็บอก ตอนนี้สภาวะฉันเป็นอย่างนี้อย่าเพิ่งอะไรกับฉันเยอะนะ เราก็จะบอกไว้ก่อนเป็นแนวทาง เขาจะได้ไม่ตกใจเวลาพี่องค์ลง ก็จะบอกกันคุยกัน คือต้องคุยกันเป็นหลัก ไม่ว่าหญิงหรือชายคุยกันก่อนให้รู้ว่าพื้นเรามา เราเจออะไรมาบ้าง มันก็จะได้สบายใจกันทั้งคู่"

มีแพลนอนาคตไว้ไหม ถึงขั้นจัดงาน?

แหม่ม : "ไม่ๆ อายุมากแล้วอายเขา คืออยากได้บ้านเล็กๆ ไม่อยากอยู่คอนโด แต่ว่าเราต้องเสียสละคนนึง เพราะมันต้องมีสลิปเงินเดือนในการขอกู้ แล้วก็ไปขายอาหารที่บ้านเลย แล้วเผื่อวันนึงพี่เป็นอะไรไป เขาก็จะได้มีสมบัติในส่วนของเขา คือมาอยู่มันต้องดีขึ้น ไม่ใช่อยู่แล้วมันถอยหลัง เพราะเขาต้องเสียสละที่ต้องมาจากน้าเขา จากพี่น้องเขา เราก็ต้องคิด แต่ว่านาทีนี้ยังขยับอะไรไม่ได้ ด้วยสภาวะตอนนี้ที่มันเกิดโควิด ก็ประครองให้รอดปีนี้ไปก่อน"

 

อดีตนางเอกชื่อดัง \"แหม่ม อลิษา\" เคยล้มละลายเป็นหนี้ 20 ล้านบาท

 

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ คุยแซ่บshow

 

ข่าวยอดนิยม