รับบทเจ้าน้ำตา “เอ๋ มิรา” อยู่ดี ๆ ก็โดนแฉ จนนายห้างไห นั่งไม่ติด

มารไม่มีบารมีไม่เกิด อยู่ปกติก็ไม่มีใครมาสนใจ แต่พอโด่งดังขึ้นมา เหมือนมีสปอตไลท์ส่อง ทำอะไรก็ถูกจับตา ไม่ต่างอะไรกับ “เอ๋ มิรา” อดีตภรรยาครูไพบูลย์ ที่เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น พร้อมๆกับมีคนเห็นอกเห็นใจ ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำและใส่ร้าย ล่าสุด มีงานวิ่งเข้ามาไม่ขาดสาย ภายใต้การดูแลของ "ประจักษ์ชัย ไหทองคำ" ทั้งเป็นนางเอกเอ็มวีเจ้าน้ำตา รีวิวสินค้า และร้องเพลงของตัวเอง แต่ไม่วายเกิดเรื่องจนได้    

 

 

เพราะจู่ ๆ ก็มี โปรดิวเซอร์เพลงลูกทุ่ง ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของสาวเอ๋ว่า ว่าไม่ทันจะเกิดก็ดับซะแล้ว อย่าหลงกระแสให้มาก ตัวเองก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ทำงานก็ไม่เป็น ขณะที่มีคนในวงการอีกหนึ่งผสมโรง ออกมาโพสต์พาดพิงถึง นายห้างไห ว่าชอบแย่งของคนอื่น หรือทำนองว่าให้รถเอ๋ไป เดี๋ยวก็เอาคืน และยังมีความลับที่จะแฉเช่นเดียวกัน

 

 

ซึ่งเรื่องนี้ไม่ปล่อยผ่านนาน เพราะหลังจากที่เปิดหน้า “ป๊อป นพรัตน์” โปรดิวเซอร์คนที่ออกมากล่าวหา เอ๋ มิรา แล้ว นายห้างประจักษ์ชัย ของขึ้น ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กหวดกลับทันที ซึ่งหวิดจะมีการฟ้องร้องกันอยู่แล้ว ถ้า ป๊อบ ไม่รีบลบข้อความ และออกมาโพสต์ขอโทษซะก่อน

 

 

โดย ป๊อป ชี้แจงเหตุผลที่เขียนลงไป เพราะเกิดจากความน้อยใจ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ล่าสุด ประจักษ์ชัย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ถึงเรื่องราวนี้ ว่า 

 

 

“เอ๋ เค้าไม่ได้เกิดมาเป็นนักแสดง เค้าเป็นแม่บ้านมาก่อน มาถ่ายเอ็มวีหามรุ่งหามค่ำ ติด ๆ กันหลายวันยังงี้ คนเราก็อาจจะมีอ่อนล้าบ้าง ทั้งปวดหัวเรื่องคู่กรณีเก่าอีก ที่ว่าจะมีการฟ้อง ๆ กัน น้องก็นอนไม่หลับ แล้วน้องป๊อปคนนี้คือผมก็รู้จักดี อยู่ในวงการเพลงมาด้วยกัน จะทำอะไรที่สร้างกระแสรึเปล่า อาศัยจังหวะดังของเอ๋รึเปล่า ผมว่าถ้าใช่ มันไม่ถูกนะ”  

 

 

นายห้างไห ถามกลับว่า ไปกล่าวหาผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่ทำงานเพื่อเก็บเงินให้ลูก มันโอเคเหรอ ทำไมไม่เห็นใจ หรือสงสารน้องเค้าบ้าง  ถ้าทำงานด้วยกัน แล้วออกมาพูดให้ร้ายกันอย่างนี้ ต่อไปคนที่จะจ้างงาน เค้าจะมั่นใจเหรอ มันเท่ากับทำลายอนาคตคน ๆ นึงเลยนะ”

 

 

 

นายห้างใหญ่แจกแจงต่อว่า สำหรับเรื่องรถที่ให้เอ๋ไป ก็ให้ยืม ไม่ได้ให้เลย เรื่องนี้ไม่มีความสำคัญอะไร ไม่ต้องอิจฉา และตัวเขาเองก็ไม่ได้มีความลับอะไรด้วย 

ประจักษ์ชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ในเมื่อตอนนี้ฝ่ายที่กล่าวหาทั้ง 2 คน ได้ลบข้อความ และออกมาขอโทษผ่านเฟซบุ๊ก และโทรมาด้วยตัวเองแล้ว ก็ให้อภัยและเข้าใจกันดี จึงไม่ได้ติดใจอะไรต่อกัน