ด่วน ผู้จัด "ให้รักพิพากษา" ยอม "อัยการ" แก้บางส่วน ยันออกอากาศต่อ
'หนุ่ม กรรชัย' นำทีมคณะผู้จัดละคร 'Dare To Love ให้รักพิพากษา' เข้าพบ "อัยการสูงสุด" เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีดราม่า "อัยการ" ไม่ปลื้ม "บท" ล่าสุด ได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว
หลังจากคณะผู้จัดละคร ‘Dare To Love ให้รักพิพากษา’ พร้อมด้วย “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย" ได้เข้าพบอัยการสูงสุด โดย “ต้น-ณฐนนท์ ชลลัมพี" ผู้จัดละคร ในนามค่าย ชลลัมพีโปรดั๊กชั่น ได้หอบเอกสารเข้าพบ "นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์" อัยการสูงสุด เพื่อชี้แจ้งการผลิตละครรักนักกฎหมาย ที่กำลังเป็นประเด็นดราม่าอยู่ในขณะนี้ ณ อาคาร A สำนักอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ล่าสุด ได้ออกมาชี้แจงผลการพูดคุยอย่างละเอียด
"ผมว่าด้วยความที่ประเทศไทยค่อนข้างมีเอกลักษณ์ และมีความน่ารักแบบไทย ๆ ที่ลงตัว การมีผู้ใหญ่ให้ความสนใจ และท่านกรุณาปันเวลามาใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ แม้ว่าไม่ใช่วาระแห่งชาติ ผมถือว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เราเป็นเด็ก ผมทำได้ดีที่สุด ก็คือเข้ามาพบท่านด้วยตัวเอง เพื่อเรียนรู้และมีโอกาสได้ชี้แจงเป็นการส่วนตัว การทำงานแบบมืออาชีพ ทุกคำติเพื่อก่อมันทำให้ผมมีไฟในการทำงาน ถือว่าเป็นเรื่องได้มากกว่าเสีย จริง ๆ ต้องขอขอบคุณที่ทุกท่านได้สละเวลาอันมีค่าในช่วงวิกฤตประเทศแบบนี้เพื่อเรียกให้ผมเข้าพบ"
ทั้งนี้ หลังจากนี้ทางทีมผู้จัด ยอมรับฟังเหตุผลของทางฝ่ายอัยการ จึงได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหา แก้ไข เพิ่มเติม ในส่วนที่ยังไม่ได้ออกอากาศ ดังนี้
"การแก้ไขในการถ่ายทำคงไม่ได้เปลี่ยนแปลง เพราะถ่ายทำเสร็จหมดและ on air แล้ว แต่สิ่งที่ทำได้และยินดีที่จะทำคือ การใส่คําชี้แจงเพิ่มเติมในช่วงเริ่มต้น ระหว่างดำเนินเรื่อง และช่วงท้ายก่อนจบ และหลังจบ EP. เช่น “ ตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆในละครเรื่องให้รักพิพากษาเป็นเรื่องราวสมมติถูกเติมแต่งและเป็นสถานการณ์เฉพาะบุคคลเพื่ออรรถรสของละครโดยมิได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวิชาชีพใดใดและไม่ได้มีเจตนาชี้นำชักจูงและเกิดทัศนคติในทางลบต่อกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
ทั้งนี้ ผู้จัดคนดังยังบอกด้วยว่า ในเรื่องของขบวนการยุติธรรม เป็นเทรนด์ของละคร และซีรีส์ ในปัจจุบันทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่คนไทยให้ความสนใจมาก ทางผู้จัด มีความตั้งใจที่จะนำเสนอละครเชิงนี้ เพื่อให้เกิดความสดและแปลกใหม่ เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าขบวนการยุติธรรมของประเทศเรานั้นศักดิ์สิทธิ์ โปร่งใส น่าเคารพ และเป็นเกราะพึ่งพาให้กับประชาชนทุกคน
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ผู้จัดคนดังยอมรับว่า "ให้รักพิพากษา" ได้รับผลกระทบบ้าง เป็นปกติที่เหรียญจะมี 2 หน้า โชคดีที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ถือเป็นสาระสำคัญ และเข้าใจว่ามันเป็นละคร ไม่แม้กระทั่ง base on true story ให้ชมเพื่อความสบายใจ และเข้าใจว่าผู้จัดไม่ได้มีความตั้งใจที่จะดูหมิ่นทำร้ายใคร แต่หากเนื้อหาของละครทำให้ไม่สบายใจ และออกมาเรียกร้อง ก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่พึงกระทำได้ แต่โดยส่วนตัวเขาเชื่อในขบวนการยุติธรรม และอยากให้ทุกคนมีความมั่นใจด้วยเช่นกัน
ส่วนประเด็น ที่ปรึกษาของละครอย่าง "ทนายนิด้า" และ "ทนายเจมส์" ได้ออกมาชี้แจ้งเบื้องต้นแล้วว่า ทางบทละครอาจมีเพิ่มเติมสีสันของละคร ไม่ใช่จริงจังเหมือนสารคดี ทางผู้จัดก็ชี้แจงว่า
"มันก็เป็นตัวบ่งบอกที่ชัดเจนแหละครับว่าเราตั้งใจทำงาน ทำการบ้าน และทำเต็มที่เพื่อให้เนื้อหาและรายละเอียดมันใกล้ความเป็นจริงที่สุด ดังนั้นที่ปรึกษาทางกฏหมาย เจ้าหน้าที่ศาล และอีกหลายวิชาชีพที่เราเชิญมาเป็นที่ปรึกษา ไม่ได้คิดเองทำเองโดยพละการ คุณนึกสภาพแบบนี้ว่า ถ้าผมให้วิชาชีพอื่นมาทำหนังทำละคร แล้วมาให้คนในวิชาชีพผมวิจารณ์ รับรองว่าคุยกัน 3 วันก็ไม่จบ มันต้องดูที่เจตนาและเจตจำนงครับ ผมมั่นใจว่าคนที่แยกแยะคำ 2 คำออกระหว่าง สารคดี กับ ละคร เขาคงจะเข้าใจแล้ว ก็คงไม่ต้องอธิบายกันเยอะ"
"อยากให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้นักแสดง ผู้จัด และช่อง ว่าพวกเขาทำงานกันอย่างเติมที่ด้วยความทุ่มเท เพราะมันยากมากจริง ๆ ด้วยมิติของเนื้อหา เรื่องขบวนการยุติธรรม ศิลปินดาราทุกคนท่องจำบทกันเป็นสิบๆ หน้า เพื่อให้ออกมาดีที่สุด และสนุกที่สุด ในช่วงเวลาที่สั้นมาก ๆ ต่อตอน ส่วนตัวผู้จัดนั้น สัญญาว่าจะไม่ท้อ และจะนําทุกประเด็นติเพื่อก่อ ไปประกอบการพิจารณาเพือให้ละครเรื่องต่อไปออกมาสมบูรณ์มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป"
"ก็ขอให้แฟนๆส่งเสียงกันมานะครับ ว่ายังอยากให้มีละแนวนี้ต่อไปหรือไม่ ? เพราะผมก็ใฝ่ฝันว่าถ้ากระแสมาดีขนาดนี้ ดูแล้วเกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ก็ยินดีที่จะทำต่อไป ส่วนสารคดีผมคงไม่ทำแน่"