จับตา"ไวท์ ณวัชร์"ชาวเน็ตติดแท็ก #ตามเรื่องไวท์ณวัชร์ ขึ้นเทรนด์เมืองไทย

ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนให้การจับตามอง กรณีของครอบครัว นักแสดงชื่อดัง "ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม"ที่คุณพ่อ คุณแม่ ถูกทำร้ายร่างกายบนถนน จนกลายเป็นประเด็นร้อน เนื่องจากมีข้อมูลอ้างว่าผู้กระทำเป็นลูกข้าราชใหญ่ในขบวนการยุติธรรม เห็ได้จากตราหน้ารถที่เกิดเหตุ ล่าสุดประเด็นนี้ ชาวเน็ตในทวิตเตอร์ หยิบมาตามเรื่องอีกครั้งด้วยการขึ้นแฮชแท็ก #ตามเรื่องไวท์ณวัชร์ เพื่อถามหาความคืบหน้าในการทำงานของเจ้าหน้าที่

 

 

สำหรับแฮชแท็ก #ตามเรื่องไวท์ณวัชร์ ซึ่งเกี่ยวโยงกับ "ไวท์ ณวัชร" ที่คนในโลกออนไลน์อย่างทวิตเตอร์ได้พูดถึงกันเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 สิงหาคม 2564 และได้นำประเด็นร้อน ทั้งภาพคลิปต่าง ๆ มากล่าวถึงอีกครั้ง ซึ่งเนื้อหานั้น ก็บี้ไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตอนนี้คดีความ หรือ เรื่องราวได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ผู้กระทำได้ออกมาเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง พร้อม ๆ กับการจับตามองในกระบวนการศาลยุติธรรม รวมถึงวิจารณ์ผู้กระทำว่าถ้าเป็นลูกหลานในกระบวนการยุติธรรมจริง ๆ แล้วควรมีความเข้าใจ และวางตัวกว่านี้ เป็นต้น 

 

 

 

นอกจากการจับตามมอง และการวิจารณ์ กรณีของ"ไวท์ ณวัชร์"ผ่านแฮชแท็ก #ตามเรื่องไวท์ณวัชร์  ของชาวเน็ตในทวิตเตอรแล้ว ยังมีการเผยแพร่ข้อมูล และเนื้อหาที่ ทวิตเตอร์ สื่อศาล @pr_moj  ซึ่งเป็นช่องทางบริการให้ข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ของศาลยุติธรรม ออกมาแชร์ประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งเป็นโพสต์ ที่เขียนไว้เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา 

 

 

 

 

อาทิข้อความว่า "กรณีวิวาททำร้ายร่างกายถ.ราชพฤกษ์-อ้างว่าคู่กรณีเป็นลูกของบุคลากรศาลยุติธรรมนั้นเมื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล ศาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง การดำเนินคดีตามกม.จะไม่มีบุคลากรคนใดใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบได้เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกม. #โหนกระแส #ข่าววันนี้ , 

ศาลยุติธรรมพิจารณาพิพากษาคดีด้วยความเป็นกลางอย่างอิสระ ไม่ว่าคู่ความจะเป็นใครต้องได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมและเป็นธรรม ยืนหยัดบนความถูกต้อง #โหนกระแส #ข่าววันนี้

 

 

สำหรับกรณีข่าวของครอบครัว "ไวท์ ณวัชร์ไนักแสดงดังที่ คุณพ่อ คุณแม่ โดนทำร้ายนั้นได้ถูกเผยแพร่ให้โลกออนไลน์ทราบกันระบุเนิ้อหาที่เขียนไว้เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา จากนั้นก็มีการหยิบประเด็นร้อนมาพูดถึงกันอีก ทั้งการแถลงข่าว ผู้กระทำที่ออกมาอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ก่อเหตุ พร้อมกับการวิจารณ์จากชาวเน็ต 

ทั้งนี้ประเด็นดังก็ยังคงเป็นที่จับตามองของคนในสังคม ว่าสรุปแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร 

 

 

 

ขอบคุณภาพจาก : @ww.nawat , #ตามเรื่องไวท์ณวัชร์