บันเทิง

สะเทือนใจ "เป็ด เชิญยิ้ม" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโควิดพรากชีวิตทั้งพ่อและแม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักแสดงตลกอาวุโสรุ่นใหญ่ "เป็ด เชิญยิ้ม" ล่าสุด ได้ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตา หลังสูญเสียคุณพ่อ เพราะโควิด-19 พรากชีวิตคุณพ่อไปอีกคน ทั้งๆที่เพิ่งจะสูญเสียคุณแม่ไปได้เพียงแค่ 10 วัน

ซึ่งนักแสดงตลกอาวุโสรุ่นใหญ่ “เป็ด เชิญยิ้ม” เมื่อวานนี้ได้ออกมาเปิดใจในรายการ “คุยแซ่บ Show” พร้อมเล่าถึงลางสังหรณ์ล่วงหน้าบอกเหตุก่อนสูญเสีย

สะเทือนใจ "เป็ด เชิญยิ้ม" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโควิดพรากชีวิตทั้งพ่อและแม่

 

โดย “เป็ด เชิญยิ้ม” ก็ได้พูดถึงสภาพจิตใจในตอนนี้ว่า “เราต่อสู้กันทั้งชีวิต แต่เหนื่อยใจกับการสูญเสีย เหลือน้ำตาหยดสุดท้ายไว้ในวันลอยอังคารพ่อ วันเสาร์นี้จะไปลอยอังคารพ่อที่สัตหีบ ส่วนของคุณแม่ยังไม่ได้ทำต้องไปพร้อมกันทั้งคู่เพราะเขารอซึ่งกันและกัน เขาทำให้เราเห็นปาฏิหาริย์ความรักคู่นี้ แม่เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ่อเกิด 26 มิถุนายน รักกันมา 70 ปี ปีนี้เป็นปีที่ 70 ปีนี้เป็นปีที่เขาขึ้นมาอยู่กรุงเทพ ทั้งที่เขาไม่เคยอยากขึ้นมาอยู่กรุงเทพเลย ปกติอยู่แต่ที่ตรัง ครั้งนี้เขามาเดินเกี่ยวแขนกันอยู่ริมชายหาดบางแสนในรอบ 70 ปี เราเห็นแล้วมันสะท้อนเหมือนพ่อแม่มาสั่งลา โดยที่ไม่ยอมกลับไปใต้ ปกติอยู่กรุงเทพได้อาทิตย์นึงก็บ่นแล้ว พ่ออายุ 94 แม่อายุ 79 ปี ไม่ได้ถามว่าทำไมอยู่กรุงเทพนานจัง บอกเขาแค่ว่ามาอยู่ที่บ้านไหม สมัยก่อนพ่อเคยบอกว่าอยากมาตายที่กรุงเทพอยากอยากอยู่ใกล้ลูกหลาน ครั้งนี้เขาไปอยู่บ้านหลานสาวกับเหลน คือน้องบอย แฟนชมพู่ เขารักคู่นี้มาก เขาก็มีความสุข”

สะเทือนใจ "เป็ด เชิญยิ้ม" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโควิดพรากชีวิตทั้งพ่อและแม่

นอกจากนี้ “เป็ด เชิญยิ้ม” ยังเล่าอีกว่า “ในชีวิตต้องการให้พ่อแม่มีความสุขที่สุด เพราะตนเป็นเด็กเกเรที่สุดในบ้าน เราเคยกราบเท้าพ่อเท้าแม่ว่าต่อไปนี้น้ำตาของพ่อกับแม่ คือน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจในตัวผม สมัยก่อนพ่อขับแท็กซี่ปั่นสามล้อขับตุ๊กตุ๊ก 30-40 ปีที่เขานั่งอยู่หลังพวงมาลัย เขากลับมาบ้านไม่เคยบ่นว่าพ่อเหนื่อย มีแต่ยิ้ม และ หัวเราะจับลูกชายลูกสาวโยนขึ้นแบบมีความสุข ครอบครัวเราจนมาก แม่เป็นแม่บ้าน ฉะนั้นเราต้องช่วยพ่อแม่ทุกอย่าง เราเลยตั้งใจว่าจะทำยังไงก็ได้ให้พ่อกับแม่มีความสุข ตอนพ่ออยู่ไอซียู พอรู้ว่าแม่เสียพ่อก็เริ่มดื้อ ทั้งที่ไม่ได้บอกเขาว่าแม่เสีย เพราะไม่กล้าบอก และช่วงหนึ่งพ่อมีอาการดีขึ้น เราก็เลยพี่น้องมาประชุมกัน ว่าถ้าพ่อออกมาว่าใครจะเป็นคนพูด เราบอกพี่ชายว่าอย่าให้เราพูด เพราะถ้าพูดก็จะเป็นแบบนี้ น้องชายเลยบอกขอเป็นคนพูดเอง จะพูดว่าพ่อไปอยู่บ้านบิ๋มนะ เพราะย่าต้องอยู่บ้านเป็ดกักตัว แล้วค่อยๆ พูด

 

แต่หลังจากนั้นหนึ่งวัน พ่อถาม “บิ๋ม” ว่า “ยายล่ะบิ๋ม” บิ๋มเลยบอกว่า “ยายหายแล้ว เหลือแต่ตา ตาอย่าดื้อกับหมอนะ หมอสั่งให้นอนคว่ำก็นอนคว่ำนะ” แต่ไม่รู้ว่าเป็นความผูกพันของมนุษย์หรือเปล่าเพราะพ่อไม่ยอมนอนคว่ำอะไรเลย ดึงสายดึงอะไรออก จนต้องโทรไปดุว่าอย่าดึงได้ไหม ช่วยเชื่อหมอได้ไหม เพราะอีก 2 วันพ่อก็จะได้ออกจากโรงพยาบาล พ่อจะหายอยู่แล้ว จนกระทั่งวันที่ 5-6 พ่อพูดกับคนชื่อจำปาแม่บ้านที่ดูแลว่า "โทรบอกย่านะให้มารับปู่" พอได้ยินก็รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนเขาจะไปด้วยกันหรือเปล่า เพราะพ่อเป็นคนพูดเอง หลังจากนั้นพ่อก็ไม่รับอะไรทั้งสิ้นจนสุดท้ายหมอโทรมาวันที่ 8 บอกว่าคุณเป็ดจะเอายังไง ต่อท่อก็ไม่มีประโยชน์ เพราะท่านอายุ 94 ท่านเหนื่อยแล้วเราปล่อยไปไหม ออกซิเจนต่ำลงมากก็เลยปล่อยให้ไปตามธรรมชาติ เพราะถ้าต่อท่อก็จะเจ็บ แม้ว่าไม่ทันแต่ตนไปทำบุญให้พ่อกับแม่ล้างทุกอย่างเชื่อว่าเจ้ากรรมในเวรก็จะส่งพ่อขึ้นสวรรค์ได้

สะเทือนใจ "เป็ด เชิญยิ้ม" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโควิดพรากชีวิตทั้งพ่อและแม่

อยากให้เกิดปาฏิหาริย์ นอนคิดทุกอย่าง คนอื่นเขาไปด้วยผ้าคลุมสีขาว แต่นี่ใส่ห่อพลาสติกรูดซิป 2-3 ชั้น แตะต้องก็ไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์กราบลา ทำอะไรก็ไม่ได้ มันโหดร้ายมาก เห็นรถบรรทุกร่างพ่อแม่คือช็อตเดียวกัน เหนื่อยที่จะต้องเสียน้ำตา เห็นรถถอยมาเห็นภาพเดิมๆก็ไม่ไหว คิดถึงพ่อ ชาตินี้ตอนเด็กๆ เราจน ชาติหน้าจนกว่านี้ก็จะเกิดเป็นลูกพ่อแม่ให้ได้”

สะเทือนใจ "เป็ด เชิญยิ้ม" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโควิดพรากชีวิตทั้งพ่อและแม่

สะเทือนใจ "เป็ด เชิญยิ้ม" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโควิดพรากชีวิตทั้งพ่อและแม่

สะเทือนใจ "เป็ด เชิญยิ้ม" เปิดใจทั้งน้ำตา หลังโควิดพรากชีวิตทั้งพ่อและแม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ