"อาเล็ก ธรีเดช"โอดโควิด-19 ระบาด เป็นแบบนี้ "ธุรกิจ"น่าจะไปต่อไม่ไหว

สำหรับพระเอกหนุ่ม"อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ"ที่เพิ่งจะเปิดธุรกิจใหม่ย่านสีลมไปกับร้านชา เมื่อช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมเพราะหวังว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในบ้านเราจะดีขึ้น แต่ก็กลับตรงกันข้าม ที่ตอนนี้นอกจากจะเดลิเวอรี่ แล้วก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ซึ่งทีมข่าวได้เจอกับหนุ่อาเล็ก และเจ้าตัวก็เปิดใจพร้อมเตรียมแผนคาดการณ์ไว้แล้ว ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ต้องพิจารณา นอกจากนี้เจ้าตัวอย่างเล่าหมดเปลือกว่า เงินเก็บที่พอมีนั้น ก็ยื้อได้ร้านไว้ได้ไม่นานหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ 

"อาเล็ก ธรเดช"เล่าว่า ได้ทำการ เปิดไปเมื่อวันที่ 20 เมษายน แล้ววันที่ 1 พฤษภาคม ก็คือห้ามนั่งกิน แล้วก็มาเปิดอีกที 14 พฤษภาคม แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ให้คนมานั่งกิน เพราะตอนนั้นมันยังมีติดเชื้อ 2 พันกว่าอยู่ ยังกลัวเลยยังไม่ให้นั่ง เพิ่งมาให้นั่งเมื่อต้นมิถุนายน พอเปิดมาได้เกือบเดือน ก็โดนปิดอีก ก็เรียกว่าเราไม่เคยทำร้าน แล้วมันเป็นแบบนี้ก็ต้องประชุมกันบ่อยๆ เราก็ต้องหาวิธีการขาย

เราเองก็ต้องเข้าร้านบ่อยๆ คือต้องขอบคุณแฟนคลับของเล็กกับเฟยมากๆ เลยที่มาอุดหนุนเรา แล้วก็มาหาเรา เรียกว่าเป็นผู้อุปการะคุณ ผู้เกื้อหนุนจุนเจือให้เราผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ เค้าจะรู้ว่าวันไหนเล็กมาเค้าก็จะมาซื้อกัน มาถ่ายรูป มาซื้อของกิน ก็ถ้าไม่มีก็คงลำบากกว่านี้

อาเล็ก เล่าต่อว่า ในส่วนของค่าใช้จ่ายต้องแบกรับยังไงบ้าง ถ้าวันไหนที่เราไม่เข้าร้าน มันจะเป็นยังไง ซึ่งจริง ๆ แล้วที่ร้านก็ไม่ได้หมายความว่าขายไม่ได้เลย ก็ยังพอไปได้ ด้วยความที่มันเพิ่งเริ่มด้วย มันก็ยังมีทุนที่พอที่จะดำเนินธุรกิจไปได้อยู่ แต่ถ้ามันเป็นแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ เราก็ต้องมาคิดกันอีกที แม้ว่าจะมีการวางแผนไว้บ้างแต่มันก็ยาก เพราะว่าเล็กเปิดร้านแถวๆ สีลม เป้าคือพนักงานออฟฟิต แต่ตั้งแต่เปิดร้านมาออฟฟิศยังไม่เปิดเลย เวิร์กฟอร์มโฮมกันหมดเลย ตอนเนี่ยมันเดลิเวอรี่ได้อย่างเดียว คือต้องมาซื้อที่ร้านได้อย่างเดียวเลย ก็เลยทำโปรโมชั่น ออนไลน์เยอะขึ้น

ซึ่งหากสถานการณ์มันยังไม่ดีขึ้น เงินทุนที่เราสำรองไว้ ถ้าให้คิดตอนนี้ก็น่าจะซักประมาณ 3-4 เดือน ก็น่าจะแย่แล้ว น่าจะไปต่อไม่ไหวแล้วกับธุรกิจนี้ แต่ตอนที่เปิดได้มันดีมากเลยนะ เราได้จากช่วงนั้นเยอะเหมือนกัน มันก็เลยพอที่จะดำรงต่อไปได้

ซึ่งนอกจากประเด็นนี้แล้ว อาเล็ก ยังเผยถึงเรื่องการมาเป็นพิธีกรงานอีเวนต์ว่า รู้สึกตื่นเต้นพราะว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่มารับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานอีเวนต์ ก็ต้องเตรียมตัวพอสมควร เพราะคิดว่าเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่เราไม่เคยทำ ที่ผ่านมาเป็นพิธีกรก็จะเป็นรายการของตัวเอง แต่พอมาเป็นพิธีกรในงานของคนอื่น ที่เราต้องมาเป็นพิธีกรให้เขาจริงๆ มันจะเป็นอีกฟิวหนึ่งเลย พอได้ทำแล้วสนุกดี "