
Air Doll
มีหนังมากมายหลายเรื่องครับ ที่เพียรตั้งคำถามถึงความหมายของการมีชีวิต หลายเรื่องนำเสนอทางออก บางเรื่องมีบทสรุปลงเอยด้วยการสั่งสอน ขณะที่บางเรื่องแค่ตั้งคำถาม แล้วปล่อยผ่านเลย ทิ้งปมให้ผู้ชมเก็บไปคิดใคร่ครวญเอาเอง หากแต่เรื่องที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ น่าจะเ
“Air Doll” มีพล็อตแปลกๆ ที่ว่าด้วยตุ๊กตายางตัวหนึ่ง ที่วันดีคืนดีเธอก็ลุกขึ้นมามีชีวิต เดินเหินได้เหมือนคนทั่วไป ซึ่งหลังจากนั้นโลกของเธอก็ไม่ได้มีเพียงห้องแคบๆ อีกต่อไป หากเป็นถนนหนทางที่ทอดออกไปตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ให้เธอได้เดินเปะปะไปพบกับผู้คนมากมาย ก่อนจะตั้งหลัก (หรือตั้งตัว) ความเป็นมนุษย์ของตัวเอง ด้วยการทำงานที่ร้านเช่าดีวีดีเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ถ้าหนึ่งในองค์ประกอบของการมีชีวิตหรือดำรงอยู่ของมนุษย์ อยู่ที่การมีลมหายใจ ตุ๊กตายางอย่างเธอ ก็น่าจะอ้างว่าตัวเองนั้นเข้าข่าย เพราะแม้ร่างกายของเธอ ก่อเกิดให้เห็นเป็นรูปร่างสัมผัสและจับต้องได้ ก็ด้วยอาศัยพลังลม... แต่ครั้งหนึ่ง เธอถึงกับทิ้งเอาเครื่องปั๊มลมประจำตัวทิ้งไป เมื่อได้ลมหายใจของเพื่อนร่วมงานหนุ่มประจำร้านเช่าดีวีดี เป่าเข้าไปแทนที่ หลังเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าการสิ้นสูญของตุ๊กตายางกับมนุษย์ มีความคล้ายคลึงกันตรงที่การสิ้นลม ตุ๊กตายางสาวก็อาจจะอนุมานเอาได้ว่า เธอเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์มากขึ้น ยิ่งเมื่อเธอเห็นมนุษย์มนาพยายามหาวิธีลบเลือนริ้วรอยอันเกิดแต่รูปพรรณสังขารในร้านขายเครื่องสำอาง แม่สาวตุ๊กตายางก็ยิ่งย่ามใจ เมื่อเธอสามารถกลบเกลื่อนริ้วรอยของความเป็นตุ๊กตา ให้กลับมามีผิวกายนวลเนียนเฉกเช่นเดียวกับหญิงสาวที่รักสวยรักงามทั่วไปได้เช่นกัน
หากการมีเลือดเนื้อ กอปรกันถึงความมีชีวิตของมนุษย์ ตุ๊กตายางอย่างเธอ ก็มักจะชูแขนต้องแสงจันทร์ และถอนหายใจทุกครั้งเมื่อพบว่าร่างกายของเธอนั้นโปร่งแสง ที่สามารถส่องสาดผ่านมาได้รำไร แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรค เพราะเมื่อถึงเวลากลางวันก็แทบไม่มีใครใส่ใจร่างที่ดูกลมกลืนไปกับมนุษย์ปุถุชนเดินถนนเหมือนคนทั่วไป
หากเรามองหนังอย่าง “Air Doll” ในฐานะสื่อที่วิพากษ์มนุษย์ด้วยกันว่า ความบิดเบี้ยว พิกลพิการในใจของผู้คนอย่างหนึ่ง ก็คือการพยายามสร้างทุกอย่างให้ใกล้เคียง หรือจำลองความเป็นมนุษย์อีกด้านขึ้นมา เพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหาย หรือเพื่อสนองตัณหา ที่ในชีวิตจริงๆ ไม่อาจแสดงออกมาได้ หรือไม่ก็ถูกตัดขาดจากความเป็นสัตว์สังคม ทิ้งให้ตัวเองอยู่ในโลกอันโดดเดี่ยว อ้างว้าง มีความสุขกับภาพลวงตาที่ตนสร้างขึ้น (และบางครั้งมนุษย์ก็เสพสุขทางกายภาพ ด้วยการสังวาสกับสิ่งที่ตนเองจำลองขึ้นมา) ถ้ามนุษย์มีพฤติกรรมประหลาด และดูเหมือนจิตใจจะเต็มไปด้วยความป่วยไข้ (เช่นเจ้าของของตุ๊กตายางในเรื่อง ที่ใช้ชีวิตหลังเลิกงาน ด้วยการปฏิบัติกับตุ๊กตายางประหนึ่งว่ามันมีชีวิตจิตใจ ทั้งจับมานั่งร่วมโต๊ะกินข้าว, ชวนพูดคุยสนทนา และลงเอยด้วยการร่วมรักกับมัน) แล้ววันหนึ่ง สิ่งไร้ชีวิตที่ถูกจำลองให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมนุษย์อย่างตุ๊กตายาง จะลุกขึ้นมาค้นหาความหมายและตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์ดูบ้าง (หลังเจ้าของปฏิบัติต่อมันราวกับเป็นมนุษย์ หรืออาจจะเป็นเหมือนกับภรรยาคนหนึ่ง โดยเฉพาะฉากที่เขาออกตะโกนตามหา ดังกับว่ามันจะได้ยินยังไงยังงั้น)
ถ้าการพยายามทำตัวเป็นมนุษย์ของเจ้าตุ๊กตายางสาว จะเริ่มต้นจากจำลองแบบกายวิภาคให้ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์ ตั้งแต่การรักษาลมหายใจของชายหนุ่มให้อบอวลอยู่ในตัวเธอ การใส่ใจเรื่องรูปพรรณสังขาร หรือแม้แต่การออกแสวงหาความรัก ทว่าเจ้าตุ๊กตายางสาวสวยตัวนี้อาจจะลืมไปว่า มนุษย์นั้นมีความชั่วร้าย ซ่อนอยู่ภายใต้กมลสันดานไม่น้อยเช่นกัน สันดานดิบของความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะกิเลส หากไม่สามารถควบคุมมันก็อาจจะเข้ามาครอบงำ และกัดกร่อนความเป็นสัตว์ประเสริฐให้สูญสลายลงไปทุกขณะ มนุษย์มักสร้างกรอบ และขีดพื้นที่จำกัดให้แก่ตัวเอง (หนังสร้างตัวละคร เด็กสาวที่ชอบเก็บเนื้อเก็บตัวในห้องเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเศษอาหาร, หญิงวัยกลางคนที่ชอบถามคำถามซ้ำๆซากๆ) แม่ตุ๊กตายางสาวเช่นกัน เธอหวั่นเกรงความจริงของการมีเจ้าของจะถูกเปิดเผย ถึงขั้นยอมตกเป็นทาสราคะของหนุ่มใหญ่เจ้าของร้านเช่าดีวีดีเพื่อปกปิดความจริงข้อนี้
การพยายามลุกขึ้นมามีชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ แต่กลับพบจุดจบอันน่าสะเทือนใจของตุ๊กตายางตัวนี้ คำตอบหนึ่งที่ผมค้นพบระหว่างการดูหนัง “Air Doll” เรื่องนี้ก็คือ สิ่งที่ทำให้ชีวิตมนุษย์มีความหมายแตกต่างจากสัตว์เผ่าพันธุ์อื่นก็คือ ‘จิตวิญญาณเสรี’ ที่เรานั้นเลือกมี เลือกเป็นได้ อาจจะเป็นโชคร้ายของเจ้าตุ๊กตายางสาว ที่ความใกล้เคียงความเป็นมนุษย์ของเธอ ไม่อาจปลุกวิญญาณเสรีในตัวให้กล้าทำในสิ่งที่ตนปรารถนา หากแต่สัญชาตญาณมนุษย์บางส่วนกลับพาเธอไปติดกับดัก ถูกกักในบ่วงภายใต้เงื่อนที่มนุษย์มักสร้างขึ้นมาเพื่อผูกคอตัวเอง หลายคนที่จิตวิญญาณแตกดับไปในบ่วงนั้น กลายเป็นมนุษย์เครื่องจักรใช้ชีวิตไปวันๆ ในขณะที่บางคน จิตวิญญาณเสรีนำพาชีวิตโลดแล่นไปสู่ความฝัน และความหมายแห่งการดำรงอยู่...
มนุษย์ต่างกับสัตว์อื่นตรงนี้เอง ตรงที่หลายๆ คน หลายๆ ครั้ง กล้าที่จะเดินฝ่าออกมาจากกรอบ จากกฎบางอย่างที่บางคนเขียนไว้ มุ่งหน้าสู่ปลายทางที่ตนต้องการอย่างแท้จริง...แต่สำหรับ “Air Doll” โชคร้ายที่เจ้าตุ๊กตายางแสนสวย ไม่อาจทำได้เช่นนั้น
ชื่อเรื่อง : Air Doll
ผู้เขียนบท : โยชิเอะ โกดะ, ฮิโรคาสึ โคริเอดะ
ผู้กำกับ : ฮิโรคาสึ โคริเอดะ
นักแสดง : เบดูนา, โจ โอดางิริ, อาราตะ
วันที่เข้าฉาย : 11 กุมภาพันธ์ 2553
โรงภาพยนตร์ : เฮ้าส์ อาร์ซีเอ และลิโด สยามสแควร์
"ณัฐพงษ์ โอฆะพนม"