บันเทิง

สี่ตีนยังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง'คนบันเทิง'ยังโดนโกง!!!

สี่ตีนยังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง'คนบันเทิง'ยังโดนโกง!!!

25 ม.ค. 2553

เรื่องเงินๆ ทองๆ มักไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งสมัยนี้แล้วด้วย ไม่ว่าจะทำการสิ่งใดควรไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ เพราะมิจฉาชีพในสังคมนี้ มันมีเยอะ หลอกไม่เลือก ไม่ว่าใครหน้าไหนทั้งนั้น ขนาดเป็น ดารา ก็ยังโดนหลอกกันมานักต่อนักแล้ว

อย่างก่อนหน้านี้ ที่เป็นข่าวโด่งดัง ก็เรื่องที่ "อิม" อชิตะ วุฒินันท์สุระสิทธิ์ แจ้งความฐานโดนคู่สามีภรรยา ทั้ง สินาภรณ์ และ ชัชวัสส์ บุญงาม เจ้าของรายการ โอ้โหเมืองไทย ที่ผลิตโดยบริษัททีวีสะบัดชัย เบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าตัวพิธีกรที่เธอทำหน้าที่ รวมเป็นเงินถึง 2 แสนกว่าบาท รวมถึงเงินค่าฝากซื้อโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่ หรือ บีบี ที่คู่กรณีอ้างกับอิมว่าสามารถซื้อได้ในราคาถูก ก็ถูกเชิดหายเช่นกัน มาถึงวันนี้ แม้เธอจะได้เงินค่าตัวคืนแล้ว แต่ก็ชวดค่าบีบี

 นอกจากนี้ยังมี "พุฒ" พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์ หรือ ลีโอ พุฒ และ "เจน" ชมพูนุช ปิยะภาณี ที่ไม่ได้รับค่าตัวจากการจ้างงานด้วยเช่นกัน รวมแล้วนับหลายแสนบาท ทั้งนี้เมื่อฝ่ายอิมโทรไปทวงกลับถูกขู่กลับมาว่าทางบ้านเป็นถึงเสธ.ใหญ่ พร้อมทั้งข่มขู่หากมีการแจ้งความ กว่าอิมจะได้เงินค่าพิธีกรก็ทำเอาสาวอารมณ์ดีถึงกับหัวเราะไม่ออกไปนาน แต่ก็ได้รับเงินค่าจ้างเท่านั้น ส่วนค่าบีบียังไม่ได้ ด้านลีโอ พุฒก็ได้เงินคืนแล้วเช่นกัน สงสัยคงจะเข็ด เช็กเรื่องรับงานกันถี่ยิบไปอีกนานเลยเชียว

 เช่นเดียวกันกับ "บี๋" สวิช เพชรวิเศษศิริ ที่ระยะหลังๆ งานแสดงห่างหายไป ที่เห็นอยู่ทางหน้าจอ ก็ทำรายการลูกทุ่งเวทีไทยเท่านั้น แต่ดั๊นเกิดความซวยมาเยือนยกใหญ่ เพราะโดนสาวใหญ่สองคนที่อ้างตัวว่าเป็นภรรยาอัยการ อีกคนอ้างว่าเป็นภรรยาของข้าราชการที่ทำงานอยู่ในกระทรวงมหาดไทย โดยหลอกว่ามีสิทธิ์ในโควตาโรตารี่ หลอกเงินเก็บไปกว่า 5 ล้านบาท ไปลงทุน แต่สุดท้ายมารู้ตัวอีกทีว่าโดนหลอก ทั้งสองคนไม่ได้มีโควต้าในโรตารี่เลย จึงต้องดำเนินการฟ้องร้อง ใช่เพียงแค่เสียเงินเสียทองเท่านั้น แต่สิ่งที่ตามมาคือเสียเวลา เสียความรู้สึก

 รู้จักกันมาตั้งเป็นสิบปีก็ยังต้องมาเปิดศึกกันก็มี เมื่อ "ดา" ชฎาพร รัตนากร ออกมาแจ้งความว่า ถูก "เจมส์" ภัลมาภูฎิณฑ์ อัครวงศ์ตระกูล ปลอมแปลงเอกสารของดาไปซื้อรถเบนซ์และรถฟอร์ด รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อมีหมายศาลมาถึงบ้าน เช่นเดียวกับ "ตุ๊กตา" อุบลวรรณ บุญรอด ก็ออกมาแจ้งความว่า ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน หลังจากรู้จักกับเจมส์มาปีกว่าๆ เจมส์ก็เล่าว่าเคยเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีรายได้นับร้อยล้านบาท แต่ภายหลังโดนโกง เลยทำให้ธุรกิจประสบปัญหา ต้องมาเช่าห้องพักอยู่กับมารดาที่แก่ชรามากแล้ว เธอและแม่รู้สึกสงสารจึงให้ความช่วยเหลือบ่อยครั้ง และไว้ใจจนถึงขั้นให้รับเช็คค่าจ้างแทน แต่ถูกเจมส์นำบัตรประชาชนไปใช้ในการทำบัตรเครดิต ทำให้มีหนี้สินอีก 2 ล้านบาท โอ๊ย...เห็นตัวเลขแล้วปวดจิต

 เกือบคิดฆ่าตัวตายไปเพราะถูกหลอกเหมือนกัน สำหรับ "เบลล์" สุภัชญา ลัทธิโสภณกุล หรือ เบลล์ ไชน่าดอลล์ ที่เปิดบริษัทเพอร์มาเน้นท์ เบลล์ จำกัด และวางโครงการจะจัดงานมหกรรมศิลปะรอยสักนานาชาติ ครั้งที่ 2 ในประเทศไทย แต่ถูกบริษัทแห่งหนึ่งที่มาขอรับงานไปดำเนินการจัดการ แล้วมาบอกยกเลิกแบบกะทันหัน โดยเบลล์เล่าว่ามีคนนามสกุลดังเข้ามาตีสนิท ด้วยบุคลิก คำพูดจาน่าเชื่อถือ เลยคิดว่าไม่น่าจะถูกหลอก เริ่มชวนจดทะเบียนตั้งบริษัทร่วมกัน แต่เธอไม่ยอมจด เพราะมีบริษัทของตัวเองอยู่แล้ว แต่ 18 มงกุฎอ้างว่าจะช่วยหาสปอนเซอร์ให้ เลยให้เบลล์เซ็นเช็คเป็นจำนวนเงิน 5 แสนบาท ให้ก่อน

 โดยจ่ายในนามชื่อบริษัท ดิ อาย ออฟ สตอร์ม แต่หลังจากรับเงินไปแล้วงานไม่มีความคืบหน้า แถมบริษัทนั้นยังทำเรื่องติดต่อไปยังสปอนเซอร์ของเธอ และขอให้ทางสปอนเซอร์สั่งจ่ายเงินผ่านชื่อบริษัท ดิ อาย ออฟ สตอร์ม แทนที่จะเป็นบริษัทของเบลล์เอง เมื่อสืบพบพิรุธ ทางคู่กรณีก็ขอยกเลิกทำงานกับเธอ ไม่คืนเงิน 5 แสนให้ แถมยังเรียกค่าเสียหายจากเธออีก 1.8 แสนบาท จนเธอเครียด คิดหาทางออกด้วยการกินยาฆ่าตัวตาย โชคดีเพื่อนช่วยไว้ทัน เฮ้อ...รู้ว่าเครียด แต่วันหลังอย่าคิดสั้นเลย เก็บชีวิตไว้ไปขึ้นศาลเอาคืน มันกว่าเยอะ

 นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง เพราะยังมีอีกหลายคนที่มีชื่อเสียง แต่ก็โดนคนโกงเอาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ฉะนั้นคาถาที่จะช่วยให้ไม่เสียรู้ใครได้ดีที่สุด คือ อย่าไว้ใจใครง่ายๆ ไม่ควรใจร้อน ศึกษาก่อนลงทุน และมีสติก่อนควักสตางค์ ถ้ายังโดนโกงอีก ก็คิดซะว่าเป็นเวรกรรมแล้วกันเนอะ