"ทาทายัง"เปิดใจหลังแยกทางสามี ชีวิตที่ผ่านมาเจอมรสุมหลายโรค เคยตื่นขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน

เป็นอีกหนึ่งนักร้องชื่อดังในตำนาน และสร้างชื่อเสียงโกอินเตอร์เป็นอย่างมาก สำหรับสาวน้อยมหัศจรรย์หรือที่เรารู้จักกันดี ทาทายัง ปัจจุบันเธอก็ได้แต่งงาน มีลูกชายไปแล้ว 1 คนแต่ในเรื่องสัมพันธ์ความรักกับคู่ชีวิตเธอนั้น ตอนนี้ก็แย่งทางกัน แต่ยังคงแบ่งหน้าที่ในการดูแลลูกกันให้สมบูรณ์ที่สุด

ล่าสุด ทาทายัง ได้มาเปิดใจเรื่องราวชีวิตผ่านรายการ แฉ โดยเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอเอาไว้ว่า

ตอนนี้เป็นเพื่อนกัน และเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก ยังคุยกันเรื่องลูก เพราะเลิกกันตอนที่ยังคุยกันได้ โดยเรื่องมีมาสักพักแล้ว ไม่อยากให้คนไปปั่นกระแสผิดๆขอไม่พูดแล้วกันว่าเรื่องอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะขุดมาพูด พูดอะไรก็พูดกันไป แต่สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของทา กับอดีตสามีก็เป็นเพื่อนกันต้องคุยกันอยู่แล้ว เราต้องแบ่งการเลี้ยงลูก ชีวิตมันต้องมูฟออน ก็ต้องดูแลลูกให้ดี ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แล้ว เราก็เป็นคนแข็งแรงจะให้ร้องไห้ฟูมฟายก็ไม่ได้ เวลามีเรื่องเครียดต้องหัดปล่อยวาง

“ความรักของทาตอนนี้สมบูรณ์นะ ทามีเรย์ เรื่องแฟนทารู้สึกว่าความรักเป็นเรื่องสวยงาม ไม่ได้แปลว่าเราไม่เวิร์กกับคนนี้แล้วพังทลาย 
เราไม่สามารถมีรักครั้งใหม่ได้เลย ไม่อยากมองโลกแบบนั้น ทาไม่อยากจะปิดตัวเอง ไม่อยากจะมองว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็เปิดใจ”ส่วนเรื่องการทำงานในอดีต เรื่องการเป็นนักร้อง เราเห็นเงินล้านตั้งแต่อายุ14สร้างปรากฏการณ์ให้แกรมมี่ ทาทา ย้อนวัยตอนอายุ 14กับความสำเร็จในวงการเพลง ที่ยอดขายอัลบั้มทะลุล้านตลับเพียง 3 เดือนแรกนั้น ตอนเด็กๆ อย่างเดียวที่อยากเป็นและได้เป็นคือนักร้อง เป้าหมายชัดเจน และโชคดีที่โอกาสนั้นมันทำให้เราได้เป็น เราก็ต้องดูแลรักษาให้ดี

ส่วนเรื่องอาการป่วย เราป่วยเป็นโรคไทรอยด์ อารมณ์แปรปรวนมากน้ำหนักขึ้นมา 17 กิโล ภายใน 2 เดือน ตอนนั้นเรากำลังดังมาก และแจ๊คพอตมาก ไปเจอหลายโรคโรคกระเพราะ โรคกรดไหลย้อน ภาวะกระเพาะบาง ตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนหนักมาก มีปัญหาเรื่องเสียง มีติ่งที่คอ เจอปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ ไม่นอนมากสุด 5 วัน และมีลักษณะบินไปโชว์หลายประเทศ ตื่นมาแล้วงงว่าเราอยู่ทีไหน ต้องหยิบโทรศัพท์ถามทางโรงแรมว่าตอนนี้เราอยู่ทีไหน เราอยู่ประเทศไหน มีลักษณะที่บินไปโชว์หลายประเทศ พอตื่นมาแล้วเหวอว่าอยู่ที่ไหน ต้องโทรศัพท์ถามพนักงานโรงแรมว่า ฉันอยู่ที่ไหน ประเทศอะไรเคยหนักสุดคือนอนไม่หลับ 5 วัน ทั้งๆ ที่ต้องทำงานไปด้วย”