บันเทิง

"ไม่คาดหวังดัง...ขอแค่งานสมบูรณ์"
นาทีนี้ของ "อีโบล่า" ในรั้วแกรมมี่

"ไม่คาดหวังดัง...ขอแค่งานสมบูรณ์" นาทีนี้ของ "อีโบล่า" ในรั้วแกรมมี่

21 ม.ค. 2553

ทยอยปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ภายใต้การทำงานในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมอย่าง "จีนี่ เรคคอร์ดส" ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ให้ฟังกันมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ในที่สุด 5 หนุ่ม "อีโบล่า" อันประกอบด้วย "เอ๋" กิตติศักดิ์ บัวพันธ์ (ร้องนำ) "กอล์ฟ" วรรณิต ปุณฑริกาภา (กอล์ฟ

  นอกจากนี้ ทั้งหมดยังเตรียมคอนเสิร์ตพิเศษ “WE ARE EBOLA CONCERT” เฉพาะแฟนตัวจริง 200 คนเท่านั้น ให้ได้ไปมันพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ร้านโอเวอร์โทน อาร์ซีเอ อีกด้วย

 สมาชิกอีโบล่าร่วมกันพูดคุยถึงที่มาของการทำงานในบ้านหลังใหม่ให้ฟัง ว่าเป็นเพราะรู้จัก "อ๊อฟ" พูนศักดิ์ จตุระบุล และ "กบ" ขจรเดช พรมรักษา สองสมาชิกวงบิ๊กแอสส์มาก่อน และอยากให้ทั้งคู่มาช่วยทำงานเบื้องหลังให้ ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงรอยต่อของสัญญากับค่ายเดิมหมดลง จึงได้รับการชักชวนให้มาพูดคุยกับค่ายจีนี่ เรคคอร์ดส กระทั่งตัดสินใจมาทำงานค่ายใหม่

 "เราตัดสินใจอยู่นานเหมือนกัน แต่คิดว่าการมาอยู่กับที่นี่น่าจะทำให้งานของเราออกมามีมิติมากยิ่งขึ้น เปรียบเทียบก็เหมือนเด็กที่เรียนจบชั้นมัธยมก็จะต้องขยับก้าวไปสู่รั้วมหาวิทยาลัย เพื่อไปหาอะไรที่ใหม่ขึ้น ซึ่งก็ได้อ๊อฟ (บิ๊กแอสส์) มาโปรดิวซ์ และได้ กบ (บิ๊กแอสส์) มาดูเรื่องเนื้อเพลง

 นับจากวันที่ตัดสินใจก็ 1 ปีแล้วที่ได้มาอยู่ที่นี่ การทำงานก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก ยังเหมือนเดิม แต่อาจจะมีเรื่องของระยะเวลามากำหนดมากขึ้น คือจะต้องมีแผนปล่อยซิงเกิ้ลไปก่อน ในเรื่องของอัลบั้มก็ต้องใช้เวลา จากเดิมที่เราวางแผนไว้ว่าจะออกอัลบั้มให้ทันปีที่แล้ว ก็เลื่อนมาปีนี้ เพราะเราเองก็ทำงานไม่ทันด้วย"

 เมื่อถามถึงภาคดนตรีในอัลบั้มนี้ หนุ่มๆ ตอบให้ฟัง ว่าโทนเพลงยังคงมีความเป็นอีโบล่า คือ มีความดิบและเข้มข้นในเพลงเร็ว มีเพลงช้าในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงมีเพลงจังหวะกลางๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเห็นอีโบล่าทำเท่าไหร่ อัลบั้มนี้จึงจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนในเรื่องของจังหวะที่มีมิติใหม่ เพราะได้อ๊อฟเข้ามาปรับโฉมและเติมเต็มให้ภาพของอีโบล่าชัดขึ้น 

 "เรื่องที่อาจจะถูกมองว่าแล้วจะกลายเป็นแมงโก้ ซาวนด์ (แมงโก้-ทีมทำเพลงที่มีอ๊อฟเป็นแกนหลัก) คงไม่ เพราะแกนหลักคนในวงก็ทำเพลงกันเองอยู่ ซึ่งพี่อ๊อฟเองก็ไม่อยากให้ออกมาเป็นแบบนั้น เราก็คุยกัน การทำงานอัลบั้มนี้เป็นเหมือนห้องทดลอง เราต้องการให้เห็นถึงความแปลกใหม่ และพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้เป็นเหมือนเพลงกระแสหลัก ให้คนรู้จัก ให้คนสัมผัสได้ ก่อนหน้านี้ที่เราทำงานอยู่ใต้ดิน เราเอาตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงคนฟังเท่าไหร่ อัลบั้มนี้พี่อ๊อฟก็เหมือนมาเติมแต่ไม่ได้ทำให้เปลี่ยนไป

 ในส่วนของเนื้อหาจะมีความหลากหลายจากเดิมเยอะมาก ซึ่งต้องยกเครดิตให้พี่กบ บิ๊กแอสส์ เช่นเดียวกันเมื่อก่อนเราอาจจะทำงานตามสไตล์เรา มาอัลบั้มนี้พี่กบลงมาทำให้เต็มตัว พี่กบเป็นคนที่มีประสบการณ์มามากทำให้ได้เพลงที่ออกมาดีมาก แล้วทุกคนในวงก็ได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย"

 หันมาถามถึงชื่ออัลบั้ม 05:59 (ไฟว์ ฟิฟตี้ไนน์) ว่าเป็นมาอย่างไร หนุ่มๆ ตอบว่าเป็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเวลา เพราะพวกเขามองว่าเศษ 59 นาที สื่อให้เห็นว่าอีกเพียงแค่ 1 นาทีก็จะผ่านวันเก่าๆ ที่แย่ๆ ไปแล้ว อยากให้ทุกคนคิดว่าอดทนอีกแค่นาทีเดียวก็จะเป็นวันใหม่ ซึ่งอาจจะดีกว่าวันนี้

 "ใครที่เป็นแฟนเพลงของพวกเรามาตลอด ก็จะรู้ว่าเนื้อหาเพลงของเราจะพูดถึงการให้กำลังใจเป็นหลัก เราเชื่อว่าทุกคนต้องเจอปัญหาจะมากจะน้อยก็แล้วแต่ แต่คุณจะสามารถผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ก็ต้องมีกำลังใจที่ดี"

 มาถึงเรื่องคอนเสิร์ตของพวกเขาที่ถูกถามมามาก ว่าทำไมถึงจัดเล็กเหลือเกิน ทั้งหมดตอบให้ฟังว่าชัดเจน ว่าเพราะอยากได้บรรยากาศที่อบอุ่นใกล้ชิดที่สุด ซึ่งบัตรก็ไม่ได้วางขายที่อื่น ต้องจองผ่าน www.ebolasound.com เท่านั้น ราคาแค่ 250 บาท แฟนเพลงจะได้ ซีดีอัลบั้ม ไฟว์ ฟิฟตี้ไนน์ พร้อมลายเซ็น และมีแท็คห้อยคอรูปโปสเตอร์คอนเสิร์ตใช้แทนบัตรเข้างาน สามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังได้สมุดภาพของวงที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน นอกจากนั้นในคอนเสิร์ตนี้พวกเขายังได้วงสวีท มัลเล็ท มาร่วมแจมอีกด้วย

 สุดท้ายเมื่อถามว่าการย้ายมาค่ายใหญ่เป็นเพราะต้องการให้วงเป็นที่รู้จักมากขึ้น เช่นเดียวกับที่บิ๊กแอสส์ และบอดี้สแลม ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ด้วยใช่หรือไม่ สมาชิกอีโบล่าเผยว่า

 "เราไม่ได้คิดว่าเราต้องดังกว่าเดิม เราไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น แต่การที่เรามาอยู่ที่นี่ เรามองภาพรวมของตัวงานที่จะออกมามากกว่า ว่าจะออกมาได้สมบูรณ์กว่าเดิม เรื่องจะดังไม่ดัง เราไม่ได้คาดหวัง คือแค่มีคนรู้จักเพลงแล้วชอบมัน ก็ยิ่งใหญ่แล้ว วงเราเหมือนเคยผ่านช่วงเวลาที่ดีที่สุด และร้ายที่สุดมาหมดแล้ว ถ้าจะบอกว่าซิงเกิ้ลที่ปล่อยมาก่อนหน้านี้ไม่โดน ก็อาจเป็นเพราะช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุดของเรา แต่อนาคตก็ยังไม่มีใครรู้ บวกกับก่อนหน้านี้ดนตรีร็อกค่อนข้างเงียบด้วย ส่วนตัวเราคงทำงานเต็มที่อยู่แล้ว หากไม่โดนก็อยู่ที่เราจะเดินหน้าสู้ต่อ หรือจะยอมแพ้" หนุ่มๆ กล่าวทิ้งท้ายได้อย่างน่าฟัง