
รู้ทันกฎหมาย - โรงแรม
อากาศเย็นลงแล้ว เทศกาลก็คืบคลานมาใกล้ให้หาเหตุห่างไกลความวุ่นวายกับการทำมาหากินไปบ้าง การเดินทางไปเที่ยวต่างเมืองจึงเป็นที่นิยมกันในช่วงเวลาอย่างนี้
หากไม่มีบ้านพักเป็นของตนเอง และไม่สามารถจะไปอาศัยพักกับใครแบบไม่เสียเงินได้ การใช้บริการโรงแรมจึงเป็นเรื่องปกติของนักท่องเที่ยวอย่างเรา
ไม่ว่าจะเรียกว่า โรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮ้าส์ บังกะโล หรืออะไรก็แล้วแต่ เขามีหน้าที่ให้บริการแก่เรา ส่วนแขกผู้มาพักอย่างเราเข้าไปในฐานะเป็นผู้รับบริการ
กฎหมายท่านกำหนดให้มีการลงทะเบียนกันไว้ว่าเราเป็นใครที่เข้ามาพักในโรงแรมนั้น แม้จะไม่มีสัญญาที่ต้องลงนามนอกจากการลงทะเบียนเข้าพัก เอกสารแผ่นนั้นก็มีเงื่อนไขข้อตกลงเกี่ยวกับการเข้าพักเอาไว้ ระบุห้องที่พัก จำนวนคืนที่พัก และราคาที่ต้องชำระ ซึ่งเราลงนามไว้ก็ถือว่ายอมรับผูกพันตามเงื่อนไขที่ว่ามา
เมื่อส่งมอบกุญแจให้ไป ไม่ว่าจะได้เข้าไปในห้องแล้วหรือยัง ก็ถือว่าได้รับมอบการครอบครองห้องพักแล้ว ไม่อาจที่โรงแรมจะให้ใครเข้ามาใช้ได้อีก เราเองก็มีสิทธิที่จะใช้ห้องพักและมีความเป็นส่วนตัวได้
การที่มีพนักงานเข้ามาทำความสะอาดได้ ถือเป็นบริการที่โรงแรมจัดให้ แม้จะไม่ได้ระบุไว้ ก็ใช้ธรรมเนียมปฏิบัติของการเข้าพักโรงแรม เว้นเสียแต่เราจะตั้งเงื่อนไขว่าไม่ให้ผู้ใดเข้าไปรบกวน หรือห้ามพนักงานเข้าไปในห้องเด็ดขาด ก็ต้องสั่งการกันไว้เป็นกิจจะลักษณะ
หากจะสำรวจในห้องจะพบว่า ข้าวของที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นกาน้ำ กาแฟ รองเท้าแตะ ผ้าขนหนู ถือเป็นบริการส่วนหนึ่งซึ่งโรงแรมจัดให้เพื่อใช้ แต่จะเอากลับบ้านได้แค่ไหน ก็ต้องพิจารณาเหตุผลและเจตนาของการจัดให้เป็นสำคัญ
บรรดากาแฟซองทั้งหลายนั้นใช้หรือเก็บไปใช้ย่อมได้ แต่จะเอาผ้าขนหนูกลับบ้านไป ถือเป็นการยักยอกทรัพย์ทางกฎหมาย ติดคุกได้เพราะเข้าใจผิดจนน่าเกลียด
ข้าวของในห้องของเรา โรงแรมเขาจะรับผิดชอบได้แค่ไหน แขกมาพักอย่างเราก็ต้องเข้าใจว่ากฎโรงแรมบอกไว้อย่างไรก็ต้องไม่ขัดกับกฎหมายในเรื่องนี้
ตามปกติแล้ว ของที่เก็บไว้ในห้องพัก แม้เราจะนอนพักในห้องหรือไม่ก็ตาม ทางโรงแรมต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายตามกฎหมาย ในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท ไม่ว่าจะได้บอกแจ้งแถลงไขให้โรงแรมทราบหรือไม่ว่ามีทรัพย์สินอะไรราคาเท่าไหร่
เดี๋ยวนี้จะมีตู้เซฟไว้เก็บของมีค่าเอาไว้ให้เราตั้งรหัสได้เองในห้องพัก ก็ไม่ได้เป็นเครื่องปัดความรับผิดชอบของโรงแรมไปได้ หากมีของหายไม่ว่าจะเก็บในตู้เซฟไว้ก็ต้องรับผิดอย่างแก้ตัวไม่ได้อยู่ดี
ทั้งนี้ เว้นแต่จะปรากฏว่าของที่หายหรือเสียหายเกิดจากความผิดของเราเอง หรือของแขกของเราที่เข้ามาในห้อง ก็ต้องไปจัดการกันเอง จะมาเล่นงานโรงแรมไม่ได้
ถ้าจะให้แน่นอนก็ต้องนำของไปฝากกับโรงแรมที่ตู้เฉพาะของเขาเลย แบบนี้เป็นเรื่องการรับฝากทรัพย์แล้ว โรงแรมย่อมผูกพันรับผิดชอบเต็มตัว ส่วนจะเรียกค่าบริการหรือไม่ก็เป็นเรื่องของโรงแรมแต่ละแห่งที่จะต้องคุยกันให้เข้าใจต่อไป
ส่วนใหญ่ในห้องพัก เราจะเห็นข้อความแปะประกาศไว้ตามประตู หรืออยู่ในลิ้นชัก ประมาณว่าไม่รับผิดชอบในความสูญหายของทรัพย์สินใดๆ ขอให้เก็บไว้ด้วยความระมัดระวัง
ถือว่าเป็นคำเตือนให้ระวังแต่ไม่อาจถือเป็นข้ออ้างเพื่อปัดความรับผิดชอบได้ เพราะเราไม่ได้ไปตกลงเซ็นยอมรับโดยชัดแจ้งด้วย
"ศรัณยา ไชยสุต"