บันเทิง

บิณฑ์ ขอเคลียร์เงินบริจาค 10 ล้านซื้อเสื้อชมพูของเสี่ยโป้ สวนเดือด รองต่อ ทำเพื่ออะไร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไลฟ์เฟซบุ๊กโร่ชี้แจงลั่น เสี่ยโป้ ต้องออกมาพูดปมเงินบริจาคซื้อเสื้อชมพู 10 ล้านบาท สวนเดือด รองต่อ สันธนะ ประยูรรัตน์ ทำเพื่ออะไรหลังยื่นหนังสือร้องเรียน

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ไลฟ์เฟซบุ๊กโร่ชี้แจงประเด็นที่ รองต่อ หรือ สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับสันติบาล ที่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ทำการสืบสวนปมดารามีชื่อเสียงคนหนึ่งที่ได้เรียกรับเงินบริจาคโดยระบุว่าเป็นโครงการจัดทำเสื้อสีชมพูของโรงพยาบาลศิริราชเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยมิชอบนั้น 

 

โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ร่ายยาวชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันไม่รู้เรื่อง เป็นแค่คนกลาง ลั่น สามารถฟ้องกลับ รองต่อ ได้ เพราะทำให้ตนเองเสียชื่อเสียง

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดใจราวๆ 12 นาทีกว่าเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวซึ่งแม้จะไม่ได้ระบุชื่อตนเอง แต่ตนก็รู้สึกไม่สบายใจ ซึ่ง บิณฑ์ เล่าว่า ก่อนวันที่ 1 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา เสี่ยโป้ ได้โทรมาหาตนแล้วบอกว่ามีเงินให้ 20 ล้านบาท ซึ่งตนก็ได้ถาม เสี่ยโป้ กลับไปว่าเรื่องอะไร และ เสี่ยโป้ ระบุว่าเผื่อพี่ต้องใช้เงินทำนู่นทำนี่

 

บิณฑ์ ระบุต่อว่าตนตอบกลับ เสี่ยโป้ ไปว่าไม่เป็นไร จากนั้นก็ไม่ได้พูดถึงเงิน 20 ล้านบาทกันอีก กระทั่งต่อมามีผู้ใจบุญมอบเสื้อชมพูให้ตนจำนวน 500 ตัว ซึ่งตนก็ใส่ในวันที่ 1 พ.ย.2563 พร้อมทำการแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมงานวันนั้นด้วย

 

จากนั้น คุณนิรันดร (เจ้าของเสื้อสีชมพู) ได้โทรมาหาตนแล้วบอกว่าเห็นทีมงานใส่เสื้อสีชมพูและก็บอกว่าพอดีมีเสื้อสีชมพูที่สั่งทำไว้จำนวน 3 แสนตัวแต่ยังไม่ได้ขาย สามารถมอบให้บิณฑ์ 5,000-10,000 ตัว แต่ขอให้ตนหานายทุนมาช่วยซื้อ

 

ซึ่งตอนนั้น บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เล่าว่าตนก็นึกถึง เสี่ยโป้ ที่เคยบอกว่าจะเอาเงินมาช่วย 20 ล้านบาท เลยได้โทรไปหาเขาถามว่าเอาไหม ถ้าจะทำบุญก็ให้ช่วยซื้อเสื้อสีชมพูซึ่งขายตัวละ 100 บาท แล้วเอาไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ซึ่ง เสี่ยโป้ ตอบกลับมาว่าโอเค จะช่วย 10 ล้านบาทเพื่อซื้อเสื้อสีชมพู 1 แสนตัว โดยจะโอนเงินครั้งละ 2 ล้านบาท 5 ครั้งเข้าไปทางมูลนิธิศิริราช 

 

จากนั้นเมื่อ เสี่ยโป้ ตอบตกลง ตนก็เลยให้คุยกับคุณนิรันดร เจ้าของเสื้อ หลังจากตกลงกันเรียบร้อย เมื่อถึงเวลาที่คุณนิรันดรจะเอาเสื้อไปให้ที่มูลนิธิศิริราช ทางมูลนิธิบอกว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ตนจึงโทรหา เสี่ยโป้ ซึ่งได้รับคำตอบว่าติดภารกิจเรื่องคดี ตนก็พยายามติดต่อเรื่อยๆ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ตนจึงบอก เสี่ยโป้ ว่าไม่เอาแล้วนะ เพราะตนรู้ว่าถ้า เสี่ยโป้ จะช่วย ก็คงโอนเงินไปที่มูลนิธิศิริราชเอง

 

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ยังเล่าต่ออีกว่าหลังจากวันนั้น เวลาผ่านไปราวๆ 1 สัปดาห์ คุณสันธนะ โทรมาหาตนแล้วบอกว่า ตนไปบังคับ เสี่ยโป้ ให้ไปซื้อเสื้อสีชมพู ตนก็งง จึงตอบกลับไปว่า ตนไม่ได้บังคับ เรื่องนี้ต้องไปถาม เสี่ยโป้ เพราะ เสี่ยโป้ รับปากเองว่าจะซื้อเสื้อ 1 แสนตัวดังกล่าวแล้วจะโอนเงินเข้ามูลนิธิเอง วันนั้นทางคุณสันธนะ ก็คุยกับผมดีๆ แต่จู่ๆ วันนี้เขาไปยื่นหนังสือเรื่องอะไร ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจ ทำให้ตนเสียหาย ทำให้คนอื่นเข้าใจผมผิด

 

เรื่องนี้ เสี่ยโป้ ต้องออกมาพูด ไม่ใช่คุณสันธนะไปยื่นหนังสือแล้วทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ทำให้ตนเสื่อมเสีย เสียหาย เรื่องนี้ตนสามารถฟ้องกลับคุณสันธนะได้ 

 

บิณฑ์ บอกว่า คุณสันธนะ ต้องคุยกับ เสี่ยโป้ เองเพราะ เสี่ยโป้ เป็นคนที่ต้องการทำบุญเอง และ เสี่ยโป้ ก็ได้จดเลขที่บัญชีของมูลนิธิศิริราชไปด้วย และเงินที่จะโอนเข้ามานั้นก็ไม่ได้โอนมาที่ตน เงินจะโอนเข้ามูลนิธิศิริราช ซึ่งไม่เกี่ยวกับตนเองเลย 

 

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ตั้งคำถามถึง รองต่อว่า เป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า ทำแบบนี้เพื่ออะไร ตนไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้เขา ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ตนทำงานช่วยเหลือสังคมมาตลอด 30 ปีไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อย และเรื่องนี้ เสี่ยโป้ ต้องออกมาเคลียร์ความจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ