"จิ้งหรีดขาว"ช้ำรักปางตาย รักคนมีลูกมีเมียแล้ว ใครเตือนก็ไม่ฟัง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดึงสติคืนมาได้
เรียกได้ว่าเป็นนางเอกลิเกชื่อดัง ที่หลายคนรู้จักมาเป็นอย่างดี สำหรับ จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ ล่าสุดได้มาเปิดใจถึงเรื่องราว ความรักในอดีต ผ่านรายการ club friday show ว่าครั้งหนึ่เคยอกหักถึงขนาดจะคิดสั้น เพราะไปรักผู้ชาย ที่เจอหน้ากันเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ถึงแม้ผู้ชายคนนั้น จะมีลูกมีเมียแล้ว ใครห้ามก็ไม่ยอมฟัง
มาเป็นนางเอกลิเกได้ยังไง
ตระกูลของ จิ้งหรีดขาว เป็นลิเกหมดเลย คุณพ่อเป็นครูลิเก คุณแม่ไม่ใช่ลิเก แต่ก็เป็นครอบครัวลิเก เหมือนเราตั้งแต่เราลืมตาตื่นมาก็เห็นหนูก็เห็นแสงเพชรสะท้อนเข้าตาแล้ว เราก็คิดว่าชีวิตเราเกิดในตระกูลที่รวยหรือเปล่าเพชรมันแสบหูแสบตามากเลยตอนเด็กๆ แต่พอลืมตาขึ้นมาเพชรลิเกเต็มไปหมดเลยค่ะ เล่นลิเกจริงๆ คือตอน 4 ขวบค่ะ เพราะเหมือนเป็นธุรกิจครอบครัวเพราะทุกคนเป็นหมดแล้วเราเกิดมาในตระกูลลิเก ก็ต้องเป็นตามเขาเลย
ทุกวันนี้ยังเล่นลิเกไหม ?
ยังเล่นอยู่เพราะความอยากเล่น และที่เพิ่งตั้งคณะตัวเองก่อนโควิด เพราะว่าเจ้าภาพเขาบนลิเกเรา จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ เราก็บอกว่าไปหากุ้ง สิคะเรารับเชิญ กุ้ง สุธิราช (ตอนนั้นยังไม่ได้ตั้งคณะ) เพราะกุ้งมีคณะเราคือรับเชิญไปเล่นที่คณะเขา แต่สรุปแล้ว เจ้าภาพบอกว่าจะแก้บนคณะจิ้งหรีดขาว ซึ่งตอนที่เรายังไม่ได้ตั้งคณะเราทิ้งงานเราไปประมาณ 50 คืน แล้วที่ผ่านมาคือ วันเกิดก่อนโควิดมีคนโทรมาถามว่ารับไหมๆ จะแก้บนเราก็ถามแม่เลย แม่คะ อยากจะตั้งคณะแม่ว่าไง เราก็มีอายุแล้วแล้วอีกอย่างรากเหง้าของเราก็เป็นลิเก แม่บอกตั้งเลย เราเลยตั้งเลยเดือนหนึ่ง 5-6 คืนก็แฮปปี้แล้ว
ด้วยความเป็นนางเอกลิเกต้องมีหนุ่มๆ มาจีบเยอะ ?
เยอะมากค่ะ ณ ตอนแรกที่เราเริ่มเป็นนางเอกคือ มีคนมาจีบมาชอบเยอะมาก แต่ครั้งแรกในชีวิตที่มีผู้ชายมาจีบ อันนี้เหมือนเด็กแก่แดดนิดนะคะ อายุประมาณ 13-14 ปี เราไม่ได้ชอบเขา เขามาชอบเรา
แล้วที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริงๆ คือตอนไหน ?
“ตอนนั้นเป็นนางเอกเต็มตัว แล้วมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขามาดูลิเก ตอนแรกไม่ได้คิดว่าเขามาชอบเรา เพราะเขามาดูทุกครั้งเขาจะมากับผู้หญิงหลายคน และเขาเป็นเจ้าของร้านทอง ซื้อของมาให้เราทุกวัน ให้รางวัลเรามากมาย เขามาดูเราทุกวัน 8-9 ปี เขาสามารถรู้แล้วว่านางเอกคนนี้ร้องกลอนนี้อย่างไรได้แล้ว ตอนแรกๆ มาดูก่อนแล้วพอ 3 ปี เริ่มจีบเรา แล้วออกตัวว่าชอบเรา เราชอบเขานะแต่ไม่กล้าจะเปิดใจ แต่พอเวลาผ่านไปสัก 5 ปี (ซึ่งในระหว่างความสัมพันธ์ 5 ปี ได้มีการพูดคุยกันค่ะ ก็แบบพอเล่นลิเกเสร็จก็มานั่งคุยกัน ถ่ายรูปแล้วก็แยกย้ายกันกลับไป) ความสัมพันธ์ 5 ปี ประมาณนี้ค่ะ อาจจะมีคุยโทรศัพท์กันบ้าง แต่ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันเลย”
“พอสรุปมีอยู่วันหนึ่ง เขาพาหนูไปที่ใดที่หนึ่ง แล้วเราได้ไปเจอผู้ชายคนหนึ่ง (เรารักผู้ชายคนที่เพิ่งเจอคนนั้นเลย) เราเจอผู้ชายคนนั้นเรารู้สึกว่า ฉันรักผู้ชายคนนี้จัง ฉันอยากจะเป็นแฟนกับผู้ชายคนนี้ เขาเป็นคนที่หล่อมากหล่อเกินจะบรรยาย ฉันรักผู้ชายคนนี้และอยากเป็นแฟนผู้ชายคนนี้”
รู้สึกว่าคนเก่าไม่ใช่เพราะว่าเราเจอผู้ชายคนใหม่ด้วยหรือเปล่า ?
“หนึ่งเลยคือใช่ สองมีอาการรักเขาไม่ได้ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนดี อยู่ด้วยแล้วอึดอัด เรานิสัยไม่ดีเลย เพราะเราเริ่มอึดอัดไม่คุยกับเขา เริ่มแบบไม่อยากหมั้นแล้ว สุดท้ายก็คือไม่หมั้นกับเขา
แล้วอีกคนที่เราลุ่มหลงเขาขนาดนั้นเราได้มีโอกาสสานสัมพันธ์ต่อไหม ?
“สานค่ะ (ซึ่งในระหว่างที่เราสานสัมพันธ์กับอีกคน คนที่เราจะหมั้นเขาก็มาดูเราเหมือนเดิมทุกวัน ตบรางวัลให้เราเหมือนเดิม แต่เพียงแค่ว่าเราไม่ได้คุยกัน จนเขาหยุดไปเองแล้วไปแต่งงาน) คือต้องยอมรับว่าเราหลงคนนั้นมาก ใครเตือนก็ไม่ฟังว่าผู้ชายคนนี้มีลูกมีเมียแล้ว ซึ่งตอนนั้นเราเป็นแฟนเขาแล้ว และครอบครัวก็รับรู้ พอมีคนเตือนเราโทรไปถามเขาเลย กระแสเป็นแบบนี้นะ มีลูกมีเมียหรือยัง เขาจะยืนยันกระต่ายขาเดียวเลยคือไม่มี รักหนูคนเดียว”
จากที่ปิดหูปิดตาว่าเชื่อว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว วันที่ฟ้าเปิดตาเปิดใจมันเกิดขึ้นได้ยังไง ?
“มีคนซึ่งแถวๆ บ้านเขา แล้วสนิทกับเขา เอารูปมาวางให้ดูแล้ว พ่อแม่ลูก ลูก เชื่อไหมว่าเราจำภาพที่เห็นวันนั้นไม่ได้เลย เพราะเราช็อกเลย เพราะก่อนหน้านั้นเขาดูแลเราดีมาก ชีวิตเราไม่เคยมีคนเปย์หนัก อยากได้สร้อยให้สร้อย วันเกิดเขาซื้อเค้กให้ 10 ปอนด์ อยากได้อะไรฉันให้หมด มันเลยรักเขามาก”
“พอเราเห็นภาพคือเราบอกตัวเองเลยว่าไม่จริงแล้วก็โทรหาเขา เขาก็อึ้ง จากที่บอกว่าไม่จริงๆ รักหนูคนเดียว เขาเงียบเลย แล้วเขาก็เริ่มไม่โทรมาค่อยๆ หายไปๆ ตอนนั้นคือทุกข์มาก เพราะรักเขามาก ชีวิตเรามีแต่เขา มีวันหนึ่งพ่อเราเสีย เขาก็มารดน้ำศพนะ พอเราเห็นเขาคือน้ำตาไหลเลย (คือพ่อเสียเราก็เสียใจอยู่แล้ว แต่พ่อเรายังมีเวลาเสียใจ เพราะพ่อเป็นมะเร็งมาหลายปีแล้วทำใจไว้แล้ว) แต่กับเรื่องเขาเหมือนสายฟ้าฟาด”
ทำให้ชีวิตเฉียดคิดว่าไม่อยากอยู่ ?
“ใช่ค่ะ บอกได้เลยตรงๆ ว่าคิดว่าไม่อยากอยู่ แล้วสิ่งที่เรียกสติเราคือสงสารแม่ ช่วงนั้นเพราะแม่เสียพ่อไป พอเผาพ่อเรียบร้อยแล้วยิ่งหว่าเว้มาก ไปบวชชีเลยตอนนั้นแล้วเหมือนว่าขอให้ลืมให้ได้เท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่ได้บวชชี ฉันน่าจะตาย ไปบวชชี 1 เดือนถามว่าตัดได้ไหม ไปบวชชี 1 เดือน ช่วยได้บ้างเหมือนว่าทำงานในระหว่างที่เราบวชไปถูกุฏิบ้าง ถูศาลาบ้าง และหลังจากสึกเราไปเจอเขาด้วยแต่ไม่ได้คุยกันเพราะเหมือนน้ำตาเราไหลอยู่ตลอดเวลา แล้วชีวิตเราไม่ได้แล้ว เขาพยายามที่จะเคลียร์กับเราเหมือนกัน เราพูดคำเดียวเลยว่า ฉันเผาเธอไปกับพ่อแล้ว เธอตายไปแล้วจากใจฉัน แต่ใจจริงๆ คือ เจอไม่ได้เลยเพราะเจอแล้วน้ำตามันไหลขนาดเจ็ดปีผ่านไปน้ำตายังไหลอยู่เลย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง