
มองผ่านเลนส์คม - แม่ยก "หลินปิง"
สภากาแฟข้างบ้าน ได้ข้อสรุปตรงกันว่า ม็อบเขายายเที่ยง ไม่ตื่นเต้นเร้าใจเท่ากับ "หลินปิงตกต้นไม้"
คนที่ไม่ได้ติดตามชมช่อง "แพนด้าแชนแนล" คงจะไม่ทราบว่าปฏิกิริยาของ "เอฟซีหลินปิง" ทรงพลังแค่ไหน?
หลังจากเจ้าหลินปิงจอมซนพลัดตกจากยอดไม้ ร่วงลงมาจุกแอ้ด ขณะที่พี่เลี้ยงเองก็ไม่ได้อยู่แถวนั้น
ทำให้บรรดาพี่เลี้ยงอย่าง "พี่แต" "พี่ต่อ" และ "หมอก้อย" ถูกเอฟซีหลินปิงแชทเข้าไปสวดชยันโตถึงความประมาทเลินเล่อกันยกใหญ่
ร้อนถึง "เจ้าพ่อแพนด้า" โสภณ ดำนุ้ย ผอ.สวนสัตว์ ต้องเข้าไปดูแลแก้ปัญหา "วิกฤติศรัทธา" อย่างเร่งด่วน
ด้วยการนำเอาเจ้าหลินปิง ไปตรวจเอกซเรย์ เพื่อให้เอฟซีหลินปิงสบายใจว่า กระดูกไม่ร้าวไม่หัก หรืออวัยวะภายในไม่กระทบกระเทือน
ระหว่างการตรวจภายใน ก็มีการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทางบ้านได้เห็นทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขึ้นเตียงดมยาสลบ จนถึงการดูฟิล์มเอกซเรย์ เพื่อเรียกศรัทธาของทีมงานกลับมา
แต่กระนั้น ยังไม่วายมีเอฟซีฯ บางรายแชทเข้ามาตำหนิเรื่องการดมยาสลบให้หลินปิงว่า พอฟื้นตื่นขึ้นมา ทำไมไม่ให้ลูกหมีพักผ่อนเสียก่อน ค่อยนำกลับสวนสัตว์
ด้วยรักและห่วงใยหลินปิง ทำให้เอฟซีฯ เกิดอาการวิตกจริตไปหมด ประหนึ่งว่าหลินปิงไม่ใช่สัตว์ประเภทหนึ่ง ซึ่งวงศาคณาญาติของมัน ก็ยังเดินท่อมๆ กินไผ่อยู่ในป่าที่เมืองจีนโน่น!
อย่างไรก็ตาม จากผลการตรวจเอกซเรย์ที่เป็นบวก...เอฟซีหลินปิงจึงคลายความกังวลใจ
ตอนแรกที่มีข่าวว่าทรูวิชั่นส์ จะเปิดตัวรายการใหม่ "หลินปิง เดอะเรียลิตี้" ยังนึกขันในใจว่า ใครจะบ้าดูหมี 24 ชั่วโมง?
ปรากฏว่าเดือนแรกผ่านไป ได้เกิดกระแสแห่บ้าแพนด้าน้อย เนื่องจากการรับชมหลินปิงเรียลิตี้ ไม่ได้มีช่องทางเดียวคือ เคเบิลทีวี (ทรูวิชั่นส์ ช่อง 23) แต่ยังติดตามผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อีกด้วย
หากออกจากบ้านไปทำงาน ก็ดูผ่านจอคอมพิวเตอร์ หรือผ่านจอมือถือได้ตลอดเวลา ไม่มีตกข่าว "แม่ฮุ่ย" กับ "ลูกปิง"
เท่าที่สำรวจดูคร่าวๆ สำหรับบ้านที่ติดจานแดง คนดูช่องแพนด้า จะเป็นกลุ่มแม่บ้านที่รู้สึกรักและผูกพันสองหมีแม่-ลูก
ยิ่งได้เห็นสองแม่ลูกหยอกล้อ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ยิ่งทำให้แม่บ้านทั้งหลายหวนนึกถึงการเลี้ยงดูลูกตัวเอง
ในบางอารมณ์ของคนดูกลุ่มนี้ มีความรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นหลินปิงไม่ได้รับการเอาใจใส่จากพี่เลี้ยงอย่างทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยง
ขนาดตอนที่พี่เลี้ยงนำหลินปิงไปปล่อยในสวนหลังบ้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมสมค่าตั๋ว ระหว่างนั้นก็มีการถ่ายภาพ แสงแฟลชวูบวาบ เอฟซีหลินปิงจึงแชทเข้ามาทันที
"หยุดใช้แฟลชได้ไหม ประเดี๋ยวจะกระทบกระเทือนดวงตาของหลินปิง"
ว่ากันว่า มีแม่ยกใหญ่รายหนึ่งถึงขั้นโทรศัพท์ไปตำหนิทางสวนสัตว์เชียงใหม่อย่างรุนแรง และเสนอให้ติดป้ายห้ามใช้แฟลชในการถ่ายภาพ
หรืออย่างฉากที่ "แม่ฮุ่ย" กัดคอ "ลูกปิง" แล้วลากถูลู่ถูกังเป็นทางยาว จากสวนหลังบ้านกลับเข้ากรง ประดาเอฟซีฯ รีบแชทเข้ามาอุ๊ยตาย! ว้ายกรี๊ดดดดด...กันยกใหญ่
จนพี่เลี้ยงต้องออกมาอธิบายว่า มันเป็นธรรมชาติของแพนด้า ไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตกแต่อย่างใด!
จะว่าไปแล้ว นี่คือ "วัฒนธรรมแม่ยกหน้าจอ" อันไม่ต่างจาก "เดอะสตาร์" หรือ "เอเอฟ" ในภาคบันเทิง
รวมถึงวัฒนธรรมแม่ยกหน้าจอในภาคการเมือง ซึ่งมีทั้ง "จอแดง" และ "จอเหลือง"
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายของหลินปิง ที่ได้เกิดในเมืองไทยอันอุดมไปด้วยแม่ยก!
"แคน สาริกา"