บันเทิง

ครบรอบ 50 ปี มิตร ชัยบัญชา ย้อนรอยการจากไปของพระเอกยอดนิยมของคนไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

8 ตุลาคม 2513 ครบรอบ 50 ปี มิตร ชัยบัญชา ย้อนรอยการจากไปของพระเอกยอดนิยมของคนไทย ขณะถ่ายทำภาพยนตร์ที่เขาเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำ

วันนี้ในอดีต 8 ตุลาคม 2513 วงการบันเทิงไทยได้สูญเสีย “มิตร ชัยบัญชา” พระเอกยอดนิยม ด้วยอุบัติเหตุพลัดตกจากเฮลิคอปเตอร์ ขณะถ่ายทำฉากสุดท้ายในภาพยนตร์เรื่อง อินทรีทอง ที่ หาดดงตาล อ่าวพัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี ด้วยอายุเพียง 36 ปี

มิตร ชัยบัญชา ชื่อเดิม “จ่าอากาศโท พิเชษฐ์ พุ่มเหม” เกิดที่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี บิดาเป็นตำรวจชั้นประทวน มารดาเป็นแม่บ้าน ทั้งคู่แยกทางกันตั้งแต่บุตรชายยังเด็กๆ ตอนเล็กๆ จึงมีชื่อว่า “บุญทิ้ง” พออายุได้ 1 ขวบ แม่ก็ไปเป็นแม่ค้าขายของที่กรุงเทพฯ โดยฝาก “มิตร” ไว้กับปู่และย่า

 

จากนั้นก็พา “มิตร” ไปบวชเณร ที่ วัดท่ากระเทียม ได้คอยติดสอยห้อยตามหลวงพ่อ และอาศัยข้าวก้นบาตร เมื่อเรียนชั้นมัธยมก็ได้ทำงานรับจ้างหลากหลาย และหัดชกมวยจนเป็น “นักชกเหรียญทองรุ่นไลท์เวท” ในที่สุดก็สอบเข้า “โรงเรียนจ่าอากาศ” ที่จังหวัดนครราชสีมา สำเร็จการศึกษาในปี 2497

ต่อมา รุ่นพี่ซึ่งเห็นหน่วยก้านของ “มิตร” ได้แนะนำให้รู้จักกับผู้กำกับภาพยนตร์จนได้เล่นหนังเรื่องแรก “ชาติเสือ” พร้อมกับได้ชื่อใหม่ว่า “มิตร ชัยบัญชา” ก่อนจะเริ่มมีชื่อเสียงในปี 2502 จากบท “โรม ฤทธิไกร” หรือ “อินทรีแดง” ในภาพยนตร์เรื่อง “จ้าวนักเลง” ในปี 2504 ได้เล่นหนังคู่กับ “เพชรา เชาวราษฎร์” เรื่อง “บันทึกรักพิมพ์ฉวี”

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่ก็ได้เล่นหนังในบทพระ - นางเอก คู่กันมาอีกกว่า 100 เรื่อง จนแฟนภาพยนตร์เรียกว่า “มิตร - เพชรา” เนื่องจากการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “ครุฑดำ” ที่ “มิตร” ถูกกล่าวหาว่านำสัญลักษณ์ตราครุฑมาใช้อย่างไม่เหมาะสม “มิตร” ลาออกจากราชการในปี 2506 จากนั้นก็แสดงหนังออกมาอีกจำนวนมาก จนสามารถทำเงินเข้าบัญชีสัปดาห์ละนับแสนบาท

ในปี 2511 ขณะที่กำลังมีชื่อเสียงดังเป็นพลุแตก “มิตร ชัยบัญชา” ลงเล่นการเมือง โดยลงสมัครรับเลือกตั้ง “สมาชิกสภาเทศบาล” แต่ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง ปีต่อมาก็ทดลองสมัครรับเลือกตั้งเป็น “สมาชิกเขตพระนคร” แต่ก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง “มิตร” ต้องสูญเสียเงินทองจากการหาเสียงไปไม่น้อย จนเงินในบัญชีร่อยหรอ ต้องจำนองบ้าน มรสุมชีวิตครั้งนี้ทำให้ “มิตร” ต้องหลบความผิดหวังเข้าไปพักในป่า ก่อนจะออกมารับคิวแสดงภาพยนตร์ “มิตร ชัยบัญชา” กลับมามีชื่อเสียงฟีเวอร์อีกครั้งจนกระทั่งเรื่อง “อินทรีทอง” เขาก็ประสบอุบัติเหตุตกจากการโหนเฮลิคอปเตอร์

 

ทำไม “มิตร ชัยบัญชา” จึงไปตายคากล้องกองถ่ายหนังเรื่อง “อินทรีทอง” ?

วันสุดท้ายของการทำงานหนักของ “มิตร” คือ วันธรรมดาๆ วันหนึ่ง คือ วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2513 กองถ่ายอยู่ที่หาดดงตาล พัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี มีการถ่ายทำหนังกันมาตั้งแต่เช้า จนมาถึงบ่ายสามโมงเย็นกว่าๆ แล้ว เหลือแค่คิวง่ายๆ ถ่ายพระเอกกระโดดเกาะเชือกที่ผูกติดไว้กับตัวเฮลิคอปเตอร์ ให้นักบินบินข้ามกล้องถ่ายหนังแล้วลงจอด ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที “เรียกว่าจบคัทที่หนึ่ง” ซึ่งตัวพระเอกคือ “มิตร ชัยบัญชา” ต้องการแสดงเอง เพื่อให้ผู้ชมเห็นชัดๆ ว่าเป็นตัวเขาโหน

 

แล้วจึงถ่ายใหม่อีกครั้ง เปลี่ยนมุมกล้อง เปลี่ยนตัวแสดงมาเป็น “สตั๊นท์แมน” ที่มีเซฟตี้พร้อม ถ่ายตอนเครื่องเฮลิคอปเตอร์บินสูงขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว “เรียกว่าคัทที่สอง”

เมื่อนำฟิล์มมาเข้าห้องตัดต่อรวมภาพจาก “คัทที่หนึ่ง” และ “คัทที่สอง” แล้วเราก็จะเห็นภาพยนตร์ที่ “มิตร ชัยบัญชา” วิ่งไปกระโดดโหนเชือก แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็ยกตัวบินพาเขาไปบนอากาศ เป็นภาพฉากจบของภาพยนตร์ “อินทรีย์ทอง” ที่ตัวเขาเป็นทั้ง “ผู้กำกับการแสดง” และเป็น “นักแสดงนำ” หรือ “พระเอกของเรื่อง” รวมทั้งเป็นผู้ “ครีเอทีฟฉาก” นี้ ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องเบสิคของการถ่ายทำภาพยนตร์ ไม่มีอะไรซับซ้อนให้ต้องกังวลใจ

 

และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ดั่งใจเขา เพียงแต่ในความเป็นจริง มันไม่มีการเปลี่ยนตัว ไม่มีมีคัทที่สอง !! เฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ลงจอดเพื่อเปลี่ยนมุมกล้อง และเปลี่ยนตัวแสดงเป็น “สตั๊นท์แมน” ที่รออยู่ เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นสูงและลากตัว “มิตร ชัยบัญชา” ปลิว !! ไปบนอากาศ ความสูงระดับ 300 ฟุต (ต้นตาล 2 ต้นมาต่อกัน) ชนิดว่าเลนส์ของกล้องถ่ายหนังก็ไม่สามารถหาภาพความคมชัดได้ โดยที่ตัวเขามือเปล่าๆ เท้าไม่ได้เหยียบอะไรไว้เลย

ดังนั้น ในที่สุดเขาก็หมดแรง มือ (มีแผล) หลุดจากการเกาะกุม แล้วร่างก็ปลิวลงมากระแทกจอมปลวก ขาดใจตายทันที ร่างแหลกยับเยิน !! เหลือทิ้งไว้แต่ความตกใจ เสียดาย เสียใจ ...

 

ความผิดพลาดของทีมงานไม่มีใครยืดอกรับผิดชอบ ทุกฝ่ายโยนให้คนตายเพื่อเอาตัวรอด และคดีความก็ยุติลงเพียงเท่านี้ คือ “มิตร ชัยบัญชา” ออกไปเอง เหมือนกับเมื่อครั้ง “มิตร” มีชีวิตอยู่ “มิตร” ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ ทุกคน ให้พ้นจากความเดือดร้อน ใครมีปัญหาอะไรให้บอก “มิตร” ช่วยเต็มที่ มีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก และในที่สุด “มิตร” ให้เพื่อนๆ ด้วยชีวิต “มิตร ชัยบัญชา” ตายฟรี โดยทีมงานที่เกี่ยวข้องรอดพ้นคุกไปได้แบบลอยนวล !!

ศพของ “มิตร ชัยบัญชา” ตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ “วัดแคนางเลิ้ง” แต่มีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานหลายหมื่นคนจนพื้นที่ไม่เพียงพอ ต้องย้ายไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ “วัดเทพศิรินทร์” มีประชาชนมาร่วมงานกว่าสามแสนคน

 

“ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช” ถึงกับออกปากว่า “เป็นงานศพของสามัญชนที่มีคนมาร่วมงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์” ตลอดชีวิต “มิตร ชัยบัญชา” แสดงหนังทั้งหมด 266 เรื่อง แต่ “มิตร” ไม่เคยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่เป็นหนังขนาด 16 มม. มีขนาด 35 มม. เสียงในฟิล์มเพียง 16 เรื่อง แสดงคู่กับนางเอกมากกว่า 29 คน โดยแสดงคู่กับ “เพชรา เชาวราษฎร์” มากที่สุดถึง 172 เรื่อง

การจากไปของ “มิตร” ยังความเศร้าโศกเสียใจต่อแฟนหนังไทยเป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นมีการถอดเรื่องราวชีวิต “มิตร” ผ่านบทละครวิทยุ เรื่อง “ดาวดินปาฏิหาร์ยแห่งรัก ลิขิตแห่งหัวใจ” ความยาว 38 ตอน มีการจัดประกวดแฟนพันธุ์แท้ ฮือฮาสุดเมื่อครั้งครบรอบ 38 ปี ของการจากไปของพระเอกหล่อขั้นเทพแต่งตัวเนี๊ยบ !! คนนี้ และเกิดการรวมตัวกันในนาม “คนรักมิตร ชัยบัญชา” จัดกิจกรรมรำลึกขึ้นทุกๆ ปี

 

หุ่น “มิตร ชัยบัญชา” ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าประดิษฐานไว้ที่แห่งใดบ้าง แต่ที่คนไทยค่อนประเทศนิยม ศรัทธา กราบไหว้บูชาขอพรด้วย กล้วยน้ำหว้า , ไข่เจียวใส่มะเขือเทศ , ข้าวมันไก่ , โอเลี้ยง ฯลฯ มีอยู่ด้วยกันหลายแห่ง อาทิ ศาลมิตร ชัยบัญชา ที่ หาดดงตาล อ่าวพัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี สถานที่เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต , ที่ วัดแคนางเลิ้ง กรุงเทพฯ , ที่ วัดท่ากระเทียม และ ที่ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ศาลายา จังหวัดนครปฐม ฯลฯ

 

CR : ข้อมูลทั้งหมด คนรักมิตร ชัยบัญชา

 

#ช้อปเลย10.10DOUBLESALEลาซาด้าลดสูงสุด90%

 

ครบรอบ 50 ปี มิตร ชัยบัญชา ย้อนรอยการจากไปของพระเอกยอดนิยมของคนไทย

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ