"ฟิล์ม รัฐภูมิ" เคลียร์ปมในใจ หลังโดนด่าอกตัญญูเฮียฮ้อ | คมชัดลึก

เรียกได้ว่าเป็นดาราอีกหนึ่งคนที่เจอดราม่าหนักหน่วงในชีวิตมาไม่น้อย สำหรับ ฟิล์ม รัฐภูมิ ล่าสุดมีดราม่าหลังออกจากค่ายอาร์เอส ว่าอกตัญญูผู้มีพระคุณอย่างเฮียฮ้อ โดยรายการคุยแซ่บโชว์ ได้เปิดใจสัมภาณ์เรื่องราวดังกล่าวเอาไว้ดังนี้ 

เรื่องหมดสัญญาจากค่ายเดิม ไม่โพสต์ขอบคุณ เหมือนอกตัญญู ?

จริงๆแล้วเรามีเหตุผลของเรา คำว่าขอบคุณเฮียฮ้อ ชาตินี้ มันขอบคุณไม่หมด ทำไมเราจะต้องป่าวประกาศด้วย ผมมีชีวิตที่ดีขึ้น ก็เพระาเฮียฮ้อทั้งนั้น

ได้คุยกับเฮียฮ้อบ้างมั้ย ? 

ได้คุยกันตลอด แต่เฮียฮ้อน่าจะยุ่งจริงๆแล้ว มันไม่จำเป็นที่เราต้องป่าวประกาศว่าเราอิสระแล้วด้วย  

แล้วในความรู้สึกอยู่ค่ายเดิมมาเป็นไง ?

มันมีความสุขมาก ได้รับโอกาส จากคนธรรมดาคนหนึ่ง จนคนได้รู้จักทั่วประเทศ ไปอยู่อาร์เอส ผู้ใหญ่มอบโอกาส ให้ผมมาเสมอ นักร้อง ดารา เล่นละครต่างๆ

อยากจะบอกคนที่พูดในแง่ไม่ดีอย่างไรบ้าง ?

อยากจะขอบคุณมากกว่า เขาก็คงรักเราแหล่ะ เขาก็อยากให้เราน่ารักตลอด แต่อยากให้เคารพความคิดของเราด้วย

เป็นหนึ่งเหตุผลมั้ยว่าว่างงานมา 3 ปี ?

ไม่เกี่ยว กระดาษมันก็คือกระดาษ ผมก็เคารพเฮียเหมือนเดิมตอนนี้เรามีธุรกิจที่เปลี่ยน แต่เราอยากทำงาน อยากร้องเพลง เราโตขึ้น เราเลยตัดสินใจได้มากกว่าเดิม เลยออกมาทำอะไรที่เรารักมากขึ้้น 

หลายคนสงสัยไม่ต่อสัญญา เพราะจะเข้าสู่การเมือง ?

การเมืองเข้าเส้นมาตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว ปัจจุบันวัยรุ่นขยับตัวออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น มีการวิเคราะห์ว่ารุ่นใหม่เก่งกว่ารุ่นเก่าแต่ต้องขอรุ่นเก่าให้มาช่วย ผมชอบการเมืองเพราะถ้ากลุ่มวัยรุ่นมาปรับเปลี่ยนอะไรได้จะดี ถ้าได้มีกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาประเทศเราจะเจริญขึ้น 

พอเล่นการเมือง ไม่กลัวดราม่าหรอ ?

ก็โดนมาตลอด ผมอยากบอกให้ดูความคิดผมก่อน เราก็มีความรู้ความสามารถในเรื่องที่เราถนัดเหมือนกัน อยากให้ช่วยกันส่งเสริม ไม่ให้ช่วยกันสกัดกั้น

มรสุมที่เจอ ก็คือเรื่อง ที่ทุกคนรู้กันดี ?

ตอนนั้นเป็นมรสุมใหญ่มากในชีวิต จนถึงขั้นไปบวช ตอนนั้นก็ไปเรียนต่อเมืองนอกด้วย ก็เป็นการเปิดโลกใหม่ 

ก่อนหน้านั้นที่เราเจอมรสุม เราผ่านมันมาได้ยังไง ?

พื้นฐานทางความคิดและครอบครัวอบอุ่นมากๆ ทำให้เราผ่านเรื่องราวตรงนั้นมาได้ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเราเอง
 

ตอนนั้นเสียศูนย์ไหม?

มันมีบ้างครับ ทำไมไม่มีใครเข้าใจ แต่ผมโชคดีตรงที่เราเป็นสื่อ เวลาที่เราเป็นสื่อคนก็อยากจะฟังทั้งสองด้าน ฟังด้านนั้นแล้วก็มาฟังด้านเรา พอเขามาฟังด้านเรา เราก็พยายามคิด วิเคราะห์ คำนวณในสิ่งที่เราอยากจะพูด คือผมเป็นสไตล์ที่ว่าไม่พูดพาดพิงถึงใคร จะพูดแต่ในมุมของเรา

CR.คุยแซ่บโชว์