บันเทิง

หนังจอกว้าง-32 ธันวา

หนังจอกว้าง-32 ธันวา

07 ม.ค. 2553

ในบรรดาผลงานหนัง 4 เรื่องที่ผ่านมาของผู้กำกับ ‘ยอร์ช’ ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ไม่ว่าจะเป็นหนังตระกูลส่ายหน้าอย่าง ‘พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า’ ‘แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า’ ‘โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า’ รวมทั้งหนังแอ็กชั่นคอมเมดี้อย่าง ‘โหดหน้าเหี่ยว 966’

จนมาถึงเรื่องล่าสุด “32 ธันวา” ดูเหมือนว่า เนื้อหาเรื่องราวต่างๆ ที่ผู้กำกับมักจะยัดลงไปในหนังของเขาเสียจนมากมายเหมือนในงานที่ผ่านๆ มา ดูจะคลี่คลาย ลดลงไปพอสมควรทีเดียว หนังรักเรื่องหลังสุดของเขานั้นมีพล็อตไม่เยอะ ความทะเยอทะยานไม่มาก ตัดตัวละครเหลือน้อยลง เน้นเฉพาะที่สำคัญจริงๆ และค่อยๆ เล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ใส่ใจความรู้สึก มากกว่าอารมณ์ขัน แต่ถึงกระนั้นก็ตาม สำหรับ “32 ธันวา” แล้ว ถือว่าผู้กำกับฤกษ์ชัย ยังรักษามาตรฐานของตัวงานเอาไว้ได้ในระดับใกล้เคียงกับผลงานหนังก่อนหน้าอย่าง “แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า” เลยทีเดียว

 ทีมนักแสดงชุดเดิมจาก ‘แสบสนิท’ กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง (ถึงแม้ส่วนใหญ่จะมาในบทรับเชิญ ไม่ว่าจะเป็น ค่อม-จิ้ม ชวนชื่น, จาตุรงค์ มกจ๊ก และ โก๊ะตี๋ อารามบอย) โดยบทนำนั้นตกเป็นของ ‘แดน’ วรเวช ดานุวงศ์ ในบทของ ‘โน้ต’ เจ้าของร้านทำผมที่กิจการร่อแร่ ซวนซัดโซเซ ใกล้ล้มละลายเต็มที (ซึ่งตัวเขาบอกเองว่า จริงๆ แล้วกิจการร้านเสริมสวย เจ๊งมาตั้งแต่รุ่นแม่แล้ว) เรื่องวุ่นๆ นั้นเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันฟุตบอล เมื่อ ‘โน้ต’ บังเอิญประสบอุบัติเหตุหัวโขกเสาประตู จนมีอาการปวดหัวและตัวเขาเองคิดว่าสูญเสียความทรงจำบางอย่างไป จนต้องเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์ที่แนะนำว่าอาจต้องมีการผ่าตัดสมอง และในระหว่างเข้ารับคำปรึกษาครั้งนี้เอง เขามีโอกาสรู้จักกับ ‘โจ’ ชายหนุ่มที่มีปัญหากับอาการเกร็งกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว อันเนื่องมาจากปมในวัยเด็ก ที่มักถูกเพื่อนๆ ล้อว่า ‘อุจจาระใส่กางเกง’ เสมอ ทำให้ชอบอั้นอุจจาระ จนมีอาการท้องผูกและมีปัญหาเรื่องลำไส้ตามมา ที่สำคัญ ‘โจ’ ยังมีปัญหาทางจิตตรงที่เขาไม่เคยมีเพื่อนสนิท เพราะหากคบกับใครแล้วกลัวถูกล้อ จึงหาทางออกด้วยการพูดคุยกับคนแปลกหน้า สุดท้ายหมอได้แนะนำให้ ‘โจ’ ลองคบหากับ ‘โน้ต’ ในฐานะเพื่อนดูบ้าง เวลาเดียวกัน ‘โน้ต’ ก็เริ่มต้นออกตามหาสิ่งที่ตัวเองรู้สึกว่าหลงลืมไป รวมถึงกลับมาทบทวนความรัก และตามหาคนที่ตัวเองคิดว่ารักอย่างแท้จริง ส่วน ‘โจ’ ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคู่หู ‘โน้ต’ ก็สนุกกับการจดคำคมระหว่างภาระกิจการตามหาความรักและคนรักของ ‘โน้ต’ ครั้งนี้เช่นกัน

 พล็อตหลักของหนังมีแค่นี้ครับ ที่เหลือคือรายละเอียดรายล้อมตัวละครที่พาเราไปพบเจอกับเรื่องราวต่างๆ ทั้งการออกตามหาเพื่อนสาวของ ‘โน้ต’ ที่เขาคิดว่ารักเธออย่างแท้จริง หรือแฟนของ ‘โน้ต’ ที่เขาเองไม่แน่ใจว่าเขารักเธอหรือเปล่า เวลาเดียวกันก็ต้องคอยดูแลความรู้สึกที่มีต่อ ‘เมย์’ น้องสาวต่างพ่อต่างแม่ ผู้คอยดูแลเรื่องส่วนตัวให้ ‘โน้ต’ มาโดยตลอด ซึ่งเธอกำลังจะหมั้นกับแฟนหนุ่มและเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศเร็วๆ นี้ ก่อนจะพบว่า ‘รักแท้’ ที่เขาตามหา ไม่ใช่คนที่ ‘ดีพอ’ แต่เป็นคนที่ ‘พอดี’ กับเขาต่างหาก

 “32 ธันวา” ถือเป็นก้าวที่กล้าของตัวผู้กำกับ ที่ครั้งนี้หันมาเล่าเรื่องด้วยการใส่ใจรายละเอียดและอารมณ์ของตัวละคร โดยพยายามลดมุกตลกลง ซึ่งเดิมทีมักจะยัดใส่อย่างสะเปะสะปะ จนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา หนังถึงขั้นจับต้นชนปลายไม่ถูก หรือบางทีก็จบลงดื้อๆ โดยทิ้งประเด็นที่หนังสร้างขึ้นมาเป็นเงื่อนไขไปเสียเฉยๆ และบทหนังของ “32 ธันวา” ก็เช่นกัน แม้เงื่อนไขของการออกตามหาความทรงจำที่หายไปกับรักแท้ในใจของตัวละคร ดูจะย้อนแย้งไปกันไม่ค่อยได้ แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนทำใส่เข้ามา ทั้งความสัมพันธ์ของตัวละครพี่น้องที่เล่าคู่ขนานไปกับการออกตามหารักแท้ ลูกจ้างหนุ่มประจำร้านที่ตามตื๊ออย่างไม่ลดละ และความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่กลายเป็นเพื่อนสนิท จากการเจอกันระหว่างไปหาหมอโรคจิต ทำให้ข้อบกพร่องที่ว่าถูกมองข้ามไป แม้ตลอดเวลาที่เรื่องราวดำเนินไปจะพยายามสอดแทรกมุกตลกเข้าไประหว่างทางบ้าง แต่ก็อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะพอดี ไม่จงใจยัดเยียดจนเกินงามหรือที่เรียกว่า ‘หว่านมุก’ เหมือนกับเรื่องที่ผ่านๆ มา ดังนั้น หลายๆ มุกที่เลือกใช้จึงไปกันได้กับหนัง ไม่เฝือ ไม่ฝืด ไม่เลอะเทอะ และตัวหนังดูมีเรื่องมีราว มีสาระให้จับต้อง มากกว่าเป็นแค่การร้อยเรียงมุกตลกให้หนังจบๆ ไป และดูเหมือนว่า “32 ธันวา” จะเป็นมากกว่าหนังตลกธรรมดา เพราะหนังให้น้ำหนักกับเนื้อหาสาระอันเกี่ยวข้องกับความรัก ที่ดูจะเข้มแข็ง เข้มข้น จนทำได้น่าสนใจเลยทีเดียว ส่งผลให้ความสนุกของหนังไม่ได้เกิดจากมุกตลกแพรวพราว หากเกิดจากเรื่องราวที่สอดรับ สืบเนื่องอย่างเป็นเหตุ เป็นผลต่อกัน รวมทั้งการใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อันนำมาซึ่งความประทับใจในที่สุด (ฉากหนึ่งที่น่ารักเอามากๆ คือตอนท้ายเรื่องที่เฉลยให้เห็นว่า ‘โน้ต’ เก็บรักษาสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีค่าของคนที่เขารักเอาไว้ทุกชิ้น) นอกจากนี้งานโปรดักชั่นดีไซน์ในหนังยังทำได้ค่อนข้างดี หลายๆ ฉากถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงามลงตัว ตั้งแต่ร้านทำผมของ ‘โน้ต’ โรงเรียนสอนร้องเพลงของ ‘นุ่น’ แฟนสาว  หลายครั้งที่มุกตลกถูกนำมาใช้รองรับเนื้อหา และได้ผลทุกครั้งที่ปรากฏในหนัง (โดยเฉพาะมุกล้อ ‘โน้ต’ กับ ‘เมย์’ ที่ว่า เข้าแก๊งไหน พ่อแม่ตายหมด)

 การหันมาเล่าเรื่องน้อยๆ มีพล็อตไม่เยอะ ลดความชุลมุนวุ่นวายของเหตุการณ์ลง ใส่ใจกับพฤติกรรมและการแสดงของตัวละครมากขึ้น ที่สำคัญหนังแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำของคนทำที่สามารถวางจังหวะของมุกตลกได้กลมกลืนไปกับเนื้อหาเรื่องราว มากกว่าปล่อยให้มันโดดเด้งขึ้นมาโดยไม่สนใจว่าจะไปกันได้กับเหตุการณ์ในฉากนั้นๆ หรือไม่ และเมื่อเส้นเรื่องที่ถือเป็นแกนหลักของหนังแข็งแรงแล้ว “32 ธันวา” จะตลกน้อยลงหรือไม่ ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะสุดท้ายหนังก็กลมกล่อม ลงตัว อย่างที่ควรจะเป็นที่สุดแล้ว

ชื่อเรื่อง : 32 ธันวา

ผู้เขียนบท-กำกับ : ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์
นักแสดง : วรเวช ดานุวงศ์, อภิญญา สกุลเจริญสุข, โหน่ง ชะชะช่า, แจ๊ส ชวนชื่น, รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์
เรตติ้ง : น.15+ ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
วันที่เข้าฉาย : 30 ธันวาคม 2552

 ณัฐพงษ์ โอฆะพนม