บันเทิง

อีสานบ้านเฮา-งึกๆ งักๆ...แชมป์อีสานตัวจริง!

อีสานบ้านเฮา-งึกๆ งักๆ...แชมป์อีสานตัวจริง!

04 ม.ค. 2553

ไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่า เพลงโคตรฮิตแห่งปี 2552 คือ "มันต้องถอน" หรือ "งึกๆ งักๆ" ที่ชาวบ้านร้านตลาดเรียกขาน

 งึกๆ งักๆ มันเป็นงึกๆ งักๆ มันเป็นโสงโหลงเสงเหลง...เพลงบ่เป็นตาดัง ก็ดังเป็นตางึดแม่นบ่พี่น้อง?

 ด้วยลีลาการร้องแบบ ปอยฝ้าย มาลัยพร บวกดนตรีที่แปลกหู มันจึงทำให้เพลงมันต้องถอน ดังระเบิดชนิดคาดไม่ถึง

 "แม่นก" นกน้อย อุไรพร แม่ทัพหญิงแห่ง "เสียงอิสาน" หน้าบานปานกระด้ง "เฮียช้วง" นายใหญ่ท็อปไลน์ ถูกหวยอีกปี

 สรุปว่ามันเป็นการกลับมาของ "เสียงอิสาน" อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากปีก่อนหน้านี้ ทัพลูกทุ่งอีสานแห่ง "บ้านเลขที่ 555" ดูแผ่วลงไป

 มิหนำซ้ำ ลูกวงเก่าที่แยกตัวออกไปอย่าง ไหมไทย ใจตะวัน กลับโด่งดัง ทั้งงานเพลง และงานโชว์

 เริ่มต้น พ.ศ.ใหม่ ค่ายท็อปไลน์ ไม่รอให้เสียงอิสานเหี่ยวตาย จึงประสานผ่านรายการ "ตีสิบ" วาไรตี้ทอล์กโชว์ที่ดังที่สุด นำเสนอเรื่องราว "คณะเสียงอิสาน" อย่างจุใจ

 โดยทีมงานตีสิบบุกถึงบ้านเลขที่ 555 เมืองอุดรฯ เพื่อชมเบื้องหลังชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกเกือบ 400 คน และเก็บภาพรถตู้คอนเทนเนอร์ รถบัสนับ 30 คัน ซึ่งรวมกันอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 49 ไร่

 นี่คืออาณาจักรของแม่นก และทิดหลอด ผู้ก่อร่างสร้างวงเสียงอิสานมานานนับสิบๆ ปีแล้ว

 ที่พิเศษคือ ผู้ชมได้เห็น "เรือนไทย" สร้างด้วยไม้มะค่า ราคาร้อยล้านของแม่นกเป็นครั้งแรก ซึ่งใครที่ได้ชมก็อดทึ่งไม่ได้ว่า หัวหน้าคณะหมอลำคนหนึ่ง จะมั่งมีศรีสุขราวมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศไทย

 จะว่าไปแล้ว มีรายการทีวีหลายช่อง ที่ได้นำเสนอเรื่องราวของวงเสียงอิสาน แต่การได้โชว์บ้านหลังใหญ่โอฬาร ผ่านรายการ "ตีสิบ" ที่เรตติ้งสูงของช่อง 3 ถือว่าเป็นการใช้สื่ออย่างได้ผล

 เข้าใจว่า เฮียช้วงต้องการเรียกความมั่นใจให้ชาวเสียงอิสาน เพราะตลอดปี 2550-2551 ชาวเสียงอิสาน ไม่มีเพลงดังแบบ "โคตรฮิต" เลยแม้แต่เพลงเดียว

 แถมตลกที่เป็นจุดขายของวง ก็เริ่มอิ่มตัว ไม่ว่าจะเป็น ยายจื้น, ปอยฝ้าย, คำมอด, อาวชาลี และ ยายแหลม  

 แม้แม่นกจะพยายามดันหลานชาย ลูกแพร อุไรพร ขึ้นมาแทน "ไหมไทย" แต่ก็สายไปแล้ว

 สุดท้ายก็ต้องมาลงตัวที่ "ปอยฝ้าย" กับเพลงสนุกๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว และรายการ "ที่นี่หมอชิต" ทางช่อง 7 สี ก็ได้เปิดบ้านปอยฝ้ายไปแล้ว หลังจากมันต้องถอนดังสะท้านแผ่นดิน

 นอกจากการกลับมาของเสียงอิสาน "เฮียช้วง" ยังถูกหวยเบิ้ล เมื่อจับเอา "ลำซิ่ง" มาปัดฝุ่น ขายกันแบบเงียบๆ แต่มีกระแสตอบรับแรงเกิดคาดเช่นกัน

 ปลายปี 2552 ไม่มีใครไม่รู้จักคณะลำซิ่งโคโยตี้ "บัวผัน จันทร์ศรี" จาก อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี

 เฉพาะอัลบั้มบันทึกการแสดงสด "บัวผัน จันทร์ศรี ปะทะ ศรีจันทร์ วีสี" หลายๆ ชุด ก็ขายดิบขายดีสวนกระแสเศรษฐกิจถดถอย

 งานแสดงของลำซิ่งบัวผัน ก็มีมากมาย ป้ายโฆษณาเชิญชมลำซิ่งบัวผัน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นเครื่องการันตีความดังได้อย่างดี

 แต่มีข้อน่าสังเกตประการหนึ่ง ลำซิ่งบัวผันโด่งดังก็จริง แต่ก็ไม่ทำให้เกิดกระแส "ลำซิ่งฟีเวอร์" เหมือนยุคลำซิ่งแม่ราตรี ศรีวิไล เมื่อ 15 ปีที่แล้ว

 จึงสันนิษฐานว่า คงเป็นกระแสชั่วคราว เพราะลำซิ่งมันก็ทำได้แค่นี้แหละ เพราะไม่ได้ขายกลอนลำ หากขายเนื้อหนังมังสา และความมันเท่านั้น

 ถ้าใครคิดจะทำให้แปลกแตกต่างไปกว่านี้ ก็คงต้องแก้ผ้าเต้น ซึ่งไม่มีใครคิดทำเรื่องชั่วๆ แบบนี้แน่

 สรุปว่า ปีวัวเป็นปีทองของท็อปไลน์ และเสียงอิสาน ที่ยังรักษาตลาดรากหญ้าเอาไว้ได้ แต่ปีเสือผยอง จะครองแชมป์เพลงฮิตไว้ได้อีกหรือไม่? ต้องติดตามชมกันต่อไป

 สงสัยต้องพึ่งปอยฝ้ายคือเก่า...แม่นบ่แม่ใหญ่นก! 

ทอมมี่ กึ่ม