"บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์"  พระเอกเรตติ้งแรง เปิดหัวใจงานรุ่ง แต่รักยังต้องลุ้น

          ถือเป็นพระเอกเบอร์ต้น ๆ ของช่อง 7HD  ที่ลงละครเมื่อไหร่ เรียกเรตติ้งให้กับช่องได้ทุกครั้ง เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บิ๊กเอ็ม - กฤตฤทธิ์ บุตรพรม ก็รั้งตำแหน่งพระเอกเรตติ้งแรงอันดับ 1 ของช่องไปเรียบร้อย กับละครเรื่อง ร้อยป่า ในบทบาท เสือ กลิ่นสัก ที่สามารถทำเรตติ้งตอนจบสูงถึง  10.7  ถือเป็นเลข  2  หลัก เรื่องแรกและเรื่องเดียวของปีนี้ และยังสร้างกระแสให้คนหันมาใส่ใจในการอนุรักษ์ป่าไม้ของไทยมากขึ้นอีกด้วย วันนี้พระเอกหนุ่ม กำลังมีละคร ปีกหงส์ ที่เพิ่งลงจอ ฉายไปตอนแรกก็ฟาดเรตติ้งสูงเลยทีเดียว จากความสำเร็จนี้ สร้างความกดดัน รวมถึงทำให้ชีวิตของผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไปขนาดไหน เรามาสัมผัสตัวตนของพระเอกคนนี้กันเลย

          ตอนนี้ละคร ปีกหงส์ กำลังออกอากาศ ฟีดแบ็กเป็นอย่างไรบ้างคะ
          “ดีใจครับ ที่ทุก ๆ คนชอบ ฟีดแบ็กดีครับตั้งแต่นำเสนอไปตอนแรกเลย ผมอยากขอขอบคุณทุก ๆ คน ที่ติดตามผลงานกันมาตลอดจนมาถึงเรื่องนี้นะครับ สำหรับ ปีกหงส์ เป็นละครที่สนุกมาก รวมถึงบทที่ได้รับ ก็จะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเลยกับตัวละคร เสือ กลิ่นสัก ที่ผมเล่นในละครเรื่องร้อยป่า ตัวทินภัทร ในเรื่องเป็นตัวละครที่มีมิติให้เล่นเยอะ บทอารมณ์ซับซ้อนมาก ไม่ใช่คนที่แสดงอารมณ์ตรง ๆ คือในความเสียใจ อาจจะมีอารมณ์สะใจ ดีใจผสมอยู่ในเวลาเดียวกัน เหมือนไบโพล่าร์ (หัวเราะ) คล้าย ๆ อย่างนั้นครับ ตัวละครจะชัดเจนตรงที่ไม่ชอบผู้หญิงเจ้าชู้ เราคิดว่านางเอกเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาวเรา เราเลยแก้แค้น แต่ลึก ๆ เราก็รักเขานะครับ การแสดงออกมันเลยค่อนข้างยาก ที่จะสื่อสารความรู้สึกของตัวละครออกมาให้คนดูเข้าใจ”

          ได้กลับมาร่วมงานกับเปรี้ยว (ทัศนียา การสมนุช) อีกครั้ง
          “สนุกครับ เราสนิทสนมกันอยู่แล้ว ทำงานง่ายครับ เพราะเราเป็นมืออาชีพกันอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ มีหลายฉากที่จะต้องทำร้ายเขา แม้กระทั่งฉากเลิฟซีนมันก็ไม่ใช่เลิฟซีนแบบปกติ แต่จะมีความรุนแรง โชคดีครับที่เปรี้ยวเองก็เข้าใจ และพร้อมจะทำงานเต็มที่ เขาก็จะบอกว่าไม่ต้องห่วงเล่นเลยนะ ตัวผมเองก็จะขอโทษเปรี้ยวทุกครั้งก่อนจะเล่น  เพราะจะเลิฟซีนที มีทั้งฉุด กระชาก แรงที่สุด คือจิกผมเขาแล้วลาก อยากจะขอโทษคุณแม่เปรี้ยวด้วยเลยเพราะว่าเรื่องนี้ เปรี้ยวจะได้แผล เขียว ช้ำตลอด อย่างที่บอกครับว่าผมนับถือในเรื่องของความตั้งใจของเปรี้ยวจริง ๆ ซึ่งภาพที่ออกมา มันก็จะสมจริงทุกฉาก เพราะเราเล่นกันจริงทุกฉากครับ”

 

          เลิฟซีนที่ว่าดุเดือด ทำเอาปากเปื่อยไหม เพราะแว่วว่าจูบจริงหมดเลย
          “(หัวเราะ) ก็ไม่ขนาดนั้นครับ ฉากที่มีเราก็ถ่ายกันจริงทุกฉาก แต่ระหว่างถ่ายก็จะมีหลุด ๆ เหมือนกัน คือความที่เปรี้ยวเป็นคนบ้าจี้ หนวดของผมนี่ล่ะ ทำให้เขาจั๊กจี้ บางฉากที่เราต้องนอนกอดกัน แล้วหนวดผมจะต้องไปโดนคอเขา หรือฉากที่เราจูบเขา พอหนวดไปทิ่มปากเขา หรือแม้กระทั่งเวลาเขานอนซบอกเรา แล้วลมหายใจเรามันแรง เขาก็จะจั๊กจี้ ขนลุก หัวเราะบอกหนูเล่นไม่ได้ (หัวเราะ) คือก็ขำ ตัวผมก็หลุดเหมือนกัน ต้องสั่งคัทแล้วถ่ายใหม่”
 

          สำหรับบิ๊กเอ็ม ที่ผ่านประสบการณ์มาพอสมควร หากให้เลือกระหว่างฉาก บู๊ ดราม่า และ เลิฟซีน เรามองว่าอะไรยากที่สุด
          “ผมคิดว่าบู๊นะครับ ถึงผมจะเล่นละครบู๊มาค่อนข้างเยอะ แต่ผมก็มองว่ามันแตกต่างกันหมด การบู๊มันจำเป็นที่เราจะต้องจำทุกบล็อกกิ้งให้ได้ จะต้องแสดงท่าทางตามที่ผู้กำกับต้องการให้ได้ มันเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่แตกต่างกัน ดังนั้นสำหรับผม ผมมองว่าฉากบู๊ คืองานที่ยาก และเราต้องมีสมาธิกับมันมากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงได้ภาพที่สวยงาม”

          ถ้าจะบอกว่าตอนนี้ บิ๊กเอ็ม คือพระเอกยืนหนึ่ง นำเรตติ้งวิ่งฉิว กับละครทุกเรื่องที่แสดง
          “ขอบคุณครับ จริง ๆ ต้องขอบคุณแฟน ๆ ละครครับ ที่ติดตามชมผลงานกัน ทำให้ละครแต่ละเรื่องนั้นมีเรตติ้งที่สูง แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้มาจากตัวผมแค่คนเดียว ยังมีนักแสดงท่านอื่น ๆ ทีมงาน รวมถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือบทละครนั้น ๆ สามารถดึงความสนใจของผู้ชมมาได้มากน้อยขนาดไหน ถามว่าสร้างความกดดันไหม  ก็กดดันนะครับ ยิ่งละครที่ผ่านมาเรตติ้งสูง เรื่องต่อ ๆ ไปเรายิ่งต้องทำการบ้านให้หนัก เพราะมันเป็นมาตราฐาน  ยิ่งละครมีกระแสดีเท่าไหร่ เราก็จะมีความรู้สึกว่า เราไม่อยากทำงานแล้วคนดูผิดหวัง ดังนั้นเราจะต้องเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ที่ต้องพัฒนาตัวเองเพิ่มมากขึ้นไปอีก ผมมองว่าอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่หยุดการเรียนรู้ไม่ได้ คิดว่าเราเก่งไม่ได้ เป็นอาชีพที่ต้องนอกจากจะต้องมีสมาธิกับการทำงานแล้ว ยังต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดอีกด้วยครับ”

          ถือว่าลักกี้อินเกม แล้วความรักล่ะ ดีเหมือนกับงานไหม
          “(หัวเราะ) พักก่อนครับ พอเรากลายเป็นคนบ้างานปุ๊บ มันจะทำให้เรายังเหงา แต่ผมก็ไม่ได้ปิดตัวเองนะครับ แต่ไม่มีโอกาสได้เจอใคร ไม่ได้เข้าสังคมเยอะ วัน ๆ อยู่แต่กองละคร แล้วก็กลับบ้าน แทบจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน แถมเที่ยวก็ชอบแบบเข้าป่า ขึ้นเขา ถามว่ากลัวจะโสดยาว ๆ ไหม ไม่หรอกครับ ผมมองว่าผู้ชายถ้าเราดูแลร่างกายดี ๆ อายุมากกว่านี้ก็ยังมีแฟนได้นะ จริง ๆ ผมก็เปิดอยู่แล้วนะ ถ้าผมชอบใครผมก็จะชัดเจนนะ แสดงออกให้เขารู้ชัดเจนล่ะแบบเป็นเอฟซีเขาเลย  ขึ้นอยู่ที่ว่าเมื่อเขารู้แล้วเขาจะไปต่อกับผมหรือเปล่า  แต่ถ้าเขามีคนอื่นแล้วผมก็จะไม่ยุ่ง แต่ถ้าเขาพร้อมจะลองทำความรู้จักกัน ผมก็จะเต็มที่นะครับ”

          บิ๊กเอ็ม วางแผนในชีวิตไว้อย่างไรบ้างคะ
          “ถ้าเรื่องงานในวงการ ก็อยากทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีคนจ้างแล้วครับ ผมเองอยากทำงานเบื้องหลัง เหมือนกับพี่วี (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) ที่เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดง แล้วก็ขยับขึ้นมาเป็นผู้จัดละคร รวมถึงอยากทำธุรกิจ พร้อมไปกับการเล่นละครไปด้วย ผมมองว่าตัวผมก็จะเดินตามเป้าหมายแบบนี้  ผมรักวงการนี้ครับ คนอื่น หรือน้อง ๆ ที่เข้ามาใหม่ ๆ อาจจะมองว่าอาชีพนี้ทำรายได้สูง แต่มันก็มีความเสี่ยงที่ว่า หากคุณวางตัวไม่ดี  โอกาสที่ดีมันอาจจะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  ดังนั้นเราต้องพัฒนาตัวเอง วินัย และความสามารถจะทำให้เราอยู่ตรงนี้ได้นานที่สุด แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องรักอาชีพของคุณจริง ๆ เหมือนที่ผมรักอาชีพการแสดงครับ”