'ปูเป้' นางเอกคลื่นลูกใหม่ เพิ่มศักยภาพ สายบู๊

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เปล่งประกายเสน่ห์น่าค้นหา ผ่านบทบาทคุณแป๋ว นางเอกในละครเรื่อง “ร้อยป่า” ค่ายทรัพย์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ทางช่อง 7HD กับลุคน่ารัก คุณหนูสายบู๊ของ “ปูเป้-เกศรินทร์ น้อยผึ้ง” ยิ่งมาประกบคู่ ปะทะคารม กับพระเอกหล่อละมุนอย่าง “บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ บุตรพรม” งานนี้เจ้าตัวยอมรับทำการบ้านหนักในการรับบทบู๊เต็มซีน แถมยิงปืนครั้งแรก ถ้ามีโอกาสขอลองเล่นบทคอมเมดี้

บทบู๊เต็มซีนและการยิงปืนครั้งแรกในละครเรื่อง “ร้อยป่า

   “ดีใจ เป็นบทบาทที่ไม่เคยเล่นมาได้เล่นอะไรใหม่ๆ เล่นบู๊ ไม่เคยมาก่อนที่จะได้เล่นบู๊เต็มซีน ฉายเดี่ยวคนเดียว ถามว่าเหนื่อยมั้ย มันเหนื่อยอยู่แล้ว เป็นปกติของการใช้แรง ด้วยการที่เราได้รู้ขั้นตอนการถ่ายทำ มีเจาะนั่น เจาะนี่ ละเอียดยิบมากๆ และเชื่อว่าละครออนแอร์ออกมาเนี่ย จะต้องคุ้มค่ามากๆ ที่เราทุ่มเททั้งแรงกาย และแรงใจลงไป ไม่ใช่แค่ปูเป้เหนื่อยคนเดียว ผู้กำกับ ช่างภาพ ตากล้อง ทีมงานทุกคนทุ่มเทมากๆเลยเพื่อจะได้ซีนสวยๆ ซีนงามๆ แล้วรวมเป็นซีนที่น่าดูเพื่อคุณผู้ชมค่ะ บทที่ใหม่อีกอย่างคือ การยิงปืน ได้ยิงปืนครั้งแรกในชีวิตเลย ไม่เคยได้ยิงมาก่อน แต่โดยส่วนตัว คือมีความกล้าทางด้านนี้อยู่แล้ว คือชอบอะไรที่มันเสียงดังอยู่แล้ว พอได้หัดลองยิง ก็รู้สึกว่าชอบ สักวันหนึ่งคงจะได้มีโอกาสไปหัดยิงจริงจัง ให้มันเก่งและเซียนมากยิ่งขึ้นค่ะ”

ละครเรื่อง “ร้อยป่า” ได้เพิ่มศักยภาพในการทำงานให้กับตัวเอง

   “อีกเรื่องคือได้ทำงานกับผู้กำกับ อาหมี (โชติรัตน์ รักเริ่มวงษ์) เป็นผู้กำกับคนหนึ่งที่ปูเป้จะจดจำไปตลอดเลย เป็นคนหนึ่งที่สร้างเด็ก ที่มันยังเด็กอยู่ยังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่พอ อย่างความตั้งใจในการทำงาน   ปูเป้รู้ตัวอยู่ว่าปูเป้ตั้งใจแต่ว่าสมาธิในการทำงานและการทุ่มเทให้กับงาน อาหมีเป็นตัวอย่างในการที่ทำให้ปูเป้ต้องดึงศักยภาพตัวเองและ ดึงสมาธิ ดึงความตั้งใจ และเพิ่มทุกๆอย่าง ที่ตัวเองมีให้มันมากกกว่าเดิม ดูจากอาหมีเป็นตัวอย่างเลย อาหมีคือผู้กำกับดีเด่นเลย ยกรางวัลให้เลยเพราะอาหมีใส่ใจทุกๆคน ใส่ใจนักแสดงทุกๆคน ใส่ใจจริงๆ และใส่ใจรายละเอียดทุกๆอย่าง ทั้งพร็อบ ทั้งความสวยงาม เสื้อผ้า หน้าตา เป็นผู้กำกับที่ละเอียดมาก อาหมีทำให้หนูโตขึ้นเยอะมากๆ และทำให้หนูเก่งขึ้น บอกเลยว่าหนูเก่งขึ้นเพราะอาหมีด้วย  หนูเชื่อว่าทุกๆครั้งที่หนูออกไปทำงาน หรือว่าไปเจองานใหม่ๆ ที่มันท้าทาย ที่มันยาก หนูจะนึกถึงอาหมีก่อนเลย เพราะอาหมีคือกำลังใจของหนู”

     กับบทเข้าพระเข้านางกับพระเอกสายหล่อละมุน “บิ๊กเอ็ม”

“พี่บิ๊กเอ็มเป็นพี่ชายคนหนึ่งที่น่ารัก ดีกับปูเป้ด้วย ใส่ใจกับการแสดงเวลาเล่นร่วมกัน มันคลิ๊กกันมากๆ พี่บิ๊กเอ็มก็จะออกความคิดของเขาว่า พี่จะเล่นแบบนี้นะปูเป้ แบบนี้ๆ มันทำให้เราสองคนเข้าใจกันมาก แล้วเล่นออกมาด้วยกัน ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี แล้วต่างคนต่างรู้สึกเหมือนกัน ระหว่างกองพี่บิ๊กเอ็มก็น่ารัก ไม่หยิ่งกับน้อง มีการเทคแคร์ซื้อขนมมาให้ แบ่งกันกิน แบ่งบทอ่าน แล้วเป็นพี่ชายที่น่ารัก ไม่ได้น่ารักกับปูเป้คนเดียว แต่น่ารักกับนักแสดงทุกคนด้วยค่ะ รวมถึงนักแสดงทุกคน ก็คือมีความน่ารัก เป็นกันเองมากๆ ฉากเลิฟซีนไม่เขิน แต่เขินที่ว่าเขาเป็นรุ่นพี่ แล้วเขาดังนะ เขามีชื่อเสียงนะ คือเขินที่ว่าเราจะเป็นตัวถ่วงเขามั้ย เรายังใหม่นะไม่อยากให้พี่บิ๊กเอ็มคิดว่าเราทำงานผิดพลาด มันก็เลยทำให้ปูเป้ต้องทำการบ้าน และไม่เป็นตัวถ่วงของพี่บิ๊กเอ็ม นักแสดงทุกคน และก็ทีมงานด้วยค่ะ ก่อนเข้าฉากเลิฟซีน พี่บิ๊กเอ็มสุภาพค่ะ มีการขอโทษก่อน มีการละลายพฤติกรรม มีการพูดคุยด้วย เป็นการร่วมงานและเป็นการทำงานที่ดีค่ะ”

ไม่หวั่นถ้ารับบทแอคชั่นอีกพร้อมอยากลองบท “คอมมาดี้”

               “ถ้ามีอีกไม่หวั่นแล้วค่ะ เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ทรมานในการเล่น มันรู้สึกว่าเออ..พอมันจับหลักได้ พอมันเล่น พอมันเหนื่อย ทุ่มเททุกอย่างปุ๊บ มันก็หัวเราะ มันก็แฮ็ปปี้ ไม่ได้รู้สึกว่าพอเล่นแล้วกลับบ้านรู้สึกมันเศร้า มันเหนื่อย ไม่อยากเล่น มันไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้น เพราะฉะนั้นการที่จะได้เจออีก หรือจะต้องเล่นอีก แน่นอน ไม่มีปัญหาเลย พร้อมค่ะ ถ้าอยากเล่นบทแบบไหนอีก อยากเล่นคอมมาดี้ ที่ยังไม่ได้เล่น ก็คือเป็นบทตลก เป็นสายฮา สายตลก ชอบค่ะ (หัวเราะ) รู้สึกว่าอยากเล่นแนวนี้บ้าง อยากสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนบ้าง เพราะส่วนใหญ่เล่นดราม่าอย่างเดียว คือปูเป้เป็นคนตลกอยู่แล้ว ชอบทำให้ทุกคนหัวเราะ ยิ่งกับคุณแม่หนูชอบเล่นชอบทำอะไรตลกๆให้คุณแม่หัวเราะ พอเราทำให้คนดูเขาหัวเราะบ้างเนี่ย มันจะเป็นยังไง อยากเห็นโมเม้นท์นั้นค่ะ เห็นหลายๆคนบอกว่าบทคอมมาดี้มันยาก มันหลายอย่าง ทั้งพรสวรรค์ ทั้งจังหวะ ปูเป้ก็อยากลอง เพราะชีวิตประจำวันก็ค่อนข้างเป็นคนตลก กระเปิ๊บกระป๊าบ”