'ฟิล์ม' ยันถ่านไฟเก่าไม่คุร่วมทริปรักเก่า

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  ก่อนหน้านี้ขึ้นแท่นหนุ่มโสดในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งประเทศ จนดาราหนุ่ม “ฟิล์ม” ธนภัทร ออกมาประกาศว่าโสด หลังมีภาพหลุดกับสาวนอกวงการชื่อ “พราว” ออกมา เรื่องราวก็เงียบหายไป จนกระทั่งล่าสุดหนุ่มฟิล์มไปเที่ยวญี่ปุ่น ในช่วงเวลาเดียวกับสาวพราว หลายคนเลยจับโป๊ะว่าคู่นี้ยังคบกัน แล้วหลอกแฟนคลับหรือเปล่า งานนี้มีโอกาสเจอหนุ่มฟิล์มจึงถามถึงเรื่องนี้
 

    ทริปญี่ปุ่นล่าสุดเป็นยังไงบ้าง
    “สนุกดีครับ ไปกับเพื่อนๆครับ”
    หลายคนจับตามองว่า “พราว” ไปด้วย 
    “อ๋อ ก็ไปกัน 7 คนครับ ผมกับพราวก็เป็นเพื่อนกันครับ ก็ไปด้วยกันได้ (รีเทิร์นมั้ย?) ไม่ๆก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ไม่มีอะไรสปาร์คตั้งแต่แรก ผมโสดจริงๆ ไม่ได้โกหกใคร แต่เราก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะ คือถ้าวันนึงถ้าจะสปาร์คกับใคร จะรู้สึกดีกับใครก็จะไม่ปิดกั้นตัวเอง ผมแค่รู้สึกว่าอยากทำงานก่อน ผมทำงาน 7 วัน ผมอยู่บ้าน 3 วันไม่เจอหน้าแม่ผมเลย ผมออกจากบ้านก่อนที่แม่ตื่น ผมกลับบ้านหลังจากที่แม่หลับแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปอะไรกับคนอื่น” 

 

    กับ “พราว” อาจจะถูกจับตาพิเศษเพราะเคยสนิทกันมาก่อน 
    “ก็สนิทกัน แต่สถานะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็โอเคกว่า ไม่ว่ากับใครก็ตามนะ ถ้าเราพัฒนาไปตอนนี้แล้วเรารู้สึกว่า ไม่พร้อมที่จะดูแลเขา เรายังทำงานเยอะ ผมว่ามันก็ไม่แฟร์กับตัวเขาด้วย” 
    แสดงว่ากับ “พราว” ก็ยังคุยกันมาตลอด แม้สถานะจะเปลี่ยนไป 
    “ก็ยังเหมือนเดิมนะ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอด” 

 

 

 

 

 

 

    คุยกันมันไม่กลับมาอะไรเลยเหรอ
    “ผมว่าสถานะที่เป็นอยู่มันดีอยู่แล้วนะ แล้วเราไม่รู้ว่าตอนนี้จะเอาใครเข้ามาในชีวิตตัวเองทำไม เรารู้สึกว่าเราแฮปปี้กับชีวิตตอนนี้ ก็ไปเที่ยวเป็นเพื่อนกัน เรามีความสุขกับการที่ไปเที่ยวเป็นเพื่อน เป็นอะไรแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว” 

 

    กลัวไหมที่กลับมาถูกจับตามอง เพราะตอนนั้นอาจจะมีแฟนๆไม่ค่อยโอเค  
    “ไม่กลัวๆ เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานานแล้ว ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันต่อไป ถ้าวันนึงจะพัฒนาก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้วเรารู้สึกว่าเราแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้ เราแฮปปี้กับชีวิตโสด แฮปปี้กับการทำงาน แค่นี้เรายังมีเวลาให้แม่ได้ไม่เต็มที่ แล้วเราไม่อยากแบ่งเวลาไปให้คนอื่น” 

 

 

 

 

    ด้วยความสนิทกันมีโอกาสรีเทิร์นมั้ย 
    “ให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆดีกว่า ส่วนเรื่องอนาคตเราตอบไม่ได้จริงๆ” 
    “ฟิล์ม” ไม่สามารถแบ่งเวลางานกับการมีชีวิตส่วนตัวได้ใช่มั้ย 
    “ถ่ายละคร 7 โมงเลิกเที่ยงคืน วันนึงถ่ายตี5 จะเอาเวลาที่ไหน คือถ้าทุกคนที่เห็นชีวิตการทำงานของผมจริงๆจะเข้าใจ คือไม่ได้ซีเรียสเลย แต่จะเข้าใจว่าทำไมผมถึงยังเป็นแบบนี้ ผมถึงยังแฮปปี้กับชีวิตการทำงาน ทำไมถึงยังแฮปปี้กับชีวิตโสด บางวันที่เป็นวันหยุดเรากลับบ้านมานอนตื่นเที่ยง เราก็ใช้ชีวิตกับแม่ แค่เวลาแบบนั้นยังหาให้แม่ไม่ได้เลย เราเอาตรงนี้ ทำหน้าที่ของลูกให้ดีก่อน ถ้าเราจะมีใครสักคนก็ตาม ถ้ามันถึงเวลาของมัน มันมีของมันเอง ไม่ปิดกั้น” 

 

    อย่างกับ “พราว” แสดงว่า ”ฟิล์ม” ก็ไม่ปิดกั้นใช่มั้ย 
    “ไม่ปิดกั้นครับ แต่ว่าตอนนี้ผมยังแฮอปี้กับชีวิตโสด และกับสถานะเพื่อน พี่ น้อง กับทุกๆคน” 
    หลายปีที่ผ่านมาทำงานตลอด ไม่กลัวว่าจะโสดตลอดชีวิตเหรอ 
    “ไม่เคยคิด อันนี้ไม่เคยคิด ถ้ามันจะโสด ผมว่ามันคงถูกลิขิตมาแล้วมั้ง ถามว่ามีมั้ย ก็อยาก แต่ไม่พร้อมจริงๆ”

 

 

 

 

 

    คือถ้าเรามีใครสักคนเราจะใส่ใจเขามาก    
    “ผมเป็นคนทุ่มเทเรื่องความรักนะ ถ้าผมเลือกใครสักคนเป็นแฟนแล้ว เรารู้สึกว่าเราจริงจังกับเรื่องความรัก แล้วเราอยากให้ทุกอย่างเต็มที่” 
    เรียกว่ามุ่งแต่งาน ไม่เอาเรื่องแฟนเลย    
    “(หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าไม่เอา แต่ว่าเราแค่ปล่อยให้มันเป็นไป ถ้ามันจะใช่ มันจะถึงเวลาที่เรารู้สึกส่าเราควรมี แต่มันยังไม่ถึงเวลา”

 

    เคยมองมั้ยว่าจะลองบาลานซ์ชีวิต เพราะอย่าง “ฟิล์ม” น่าจะมีคนเข้ามาบ้าง    
    “มี ก็ไม่ปฏิเสธ แต่ก็ยังยืนยันสถานะว่าโสด ก็มีเข้ามาแต่เรายังไม่อยากเอาใครเข้ามา เรารู้สึกว่าเราทำร้ายเขา” 
    คุยหลายคนมั้ย 
    “เวลาคุยจริงๆ ถ้าเราเลือกที่จะคุยพัฒนาความสัมพันธ์เราคุยทีละคนอยู่แล้ว คือถ้าเข้ามาเราจะบอกอยู่แล้วว่าถ้าเข้ามาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่านี้เรายังไม่พร้อม”

 

    บอกทุกคนใช่มั้ย ไม่มีกั๊กใช่มั้ย 
    “ใช่ครับ ไม่มีกั๊ก ถ้าเขารู้สึกว่าเขาเข้ามาแล้วอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเรา ณ วันนึงเขารู้สึกว่าเขารอไม่ได้ เขามีความสุขกับชีวิตแบบอื่นมากกว่า ผมว่าเราควรยินดีที่เราได้เห็นคนที่เรารู้จักแฮปปี้” 
    มีที่ชูป้ายว่าจะรอเราบ้างมั้ย 
    “ไม่มีครับ คือไม่มีใครเข้ามาแบบชัดเจน ซึ่งผมเองก็ชัดเจนว่าผมต้องการทำงานเป็นหลักมากกว่า ถ้าใครเข้ามาแล้วรู้สึกอยากพัฒนาความสัมพันธ์คือผมยังไม่พร้อม”