
'แอน' ปลื้มแฟนคลับเหนียวแน่น
"แอน" สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ปลื้มแฟนคลับจับจิ้นคู่ "เชียร์" ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ จนแฮชแทคติดเทรนทวิตเตอร์ แย้มเตรียมจัดแฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 ขออุบเซอร์ไพร์ส เผยนนนี่ ลูกสาวแต่งงานแล้ว ไม่เร่งมีหลานเพราะยังไม่แก่
บันเทิง คมชัดลึก - ตั้งแต่กลับมารับงานแสดงอีกครั้งในซีรีส์ คลับฟลายเดย์ รักที่ไม่ได้ออกอากาศ ตอน รัก ล้ำเส้น ร่วมกับ “เชียร์” ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ก็ทำเอา “แอน” สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ มีกลุ่มแฟนคลับเพิ่มขึ้น แม้ละครจะจบแล้ว แต่แฟนๆ ก็ยังจับทั้งคู่เป็นคู่จิ้นอยู่ ได้สอบถามเรื่องนี้ในงานบวงสรวงละคร “พรหมพิศวาส” ที่ช่อง 7 ได้ความว่า
ไปไหนแฟนคลับก็มาให้กำลังใจหนาแน่นตลอด?
“เรารักกัน เลยได้มาเจอกัน เราส่งกำลังใจซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่ดี ช่วงเวลานี้การให้กำลังใจซึ่งกันและกันมันก็เป็นแรงพลังในการทำงาน”
มีชื่อติดอันดับต้นๆของเทรนด์ทวิตเตอร์บ่อย?
“แอนก็เลยต้องฟิตหุ่น กลายเป็นวัยรุ่นตามไปด้วย ในทวิตเตอร์เราก็เขียนๆบ่นๆไปบ้างเนอะ เราก็เหมือนได้เรียนรู้ ต้องปรับตัวให้ตามยุค ก็เป็นสิ่งที่ ทำให้เราไม่มีช่องว่างกับลูก กับครอบครัวหรือกับคนอีกวัยนึง แอบมองว่าเป็นการปรับเข้าหากันทั้งสองฝ่าย ก็เป็นประโยชน์ ถ้าว่างเราก็ตอบเมนต์ รูปไหนที่เราชอบเราก็กดไลค์ ตัวแอนเองเวลาลงรูป ลงคลิปเราก็ทำเอง ฝึกทำ ตัดต่อเอง ตอนอยู่เมืองนอกเราก็ว่างไม่ค่อยได้ทำอะไร เราก็มีเวลาได้ศึกษา”
เช็คกระแสตัวเองบ่อยไหม?
“แต่เราก็ไม่ได้จดจ่อกับตรงนั้นตลอดเวลา เพราะเราถ่ายละครแน่นเนื่องมาก ปีนี้เลยรับแค่2เรื่อง พอเราเล่นชินขึ้นแล้วเราก็สนุกไปกับมัน เป็นธรรมชาติกับมัน ไม่รู้สึกเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเราเกินไป ก็เข้าใจมากขึ้น เข้าใจสื่อโซเชียล เข้าใจวิธีการของสังคม ณ ปัจจุบันเป็นยังไง ถ้าเรามองให้เป็นเรื่องดีมันก็เป็นเรื่องดี ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับมากขึ้น ได้รู้จักวิธีคิดของคนสมัยใหม่ ตรงนี้เขาเป็นอย่างนี้ ตรงนี้เขาแค่บ่นๆ เข้าใจศัพท์ต่างๆ โซเชียลก็เป็นส่วนหนึ่งที่เราได้เข้าถึงแฟนๆ เมื่อก่อนเราก็เขียนจดหมายมาเป็นกระสอบเลย อ่านและตอบไม่ทัน พอมาสมัยนี้ก็เป็นข้อความกระชับสั้น ได้ใจความ รู้ว่าคืออะไร”
ต้องปรับลุคให้เข้ากับแฟนคลับรุ่นลูกไหม?
“ตอนนี้เราก็ทันสมัยขึ้นนะ เราก็ทำต้องคิดนิดนึง ทำที่กำลังดี เราไม่ได้เป็นเด็กแล้ว มากไปมันก็จะดู ปญอ ไปก็ต้องคีฟลุกส์ให้กำลังพอดี แต่เขสเข้าถึงได้ เขาก็จะได้ให้ความเกรงใจเราในระดับนึงด้วย ก็เป็นอะไรก็ได้สำหรับเธอ(หัวเราะ) แต่ก็จะมีหลุดๆบ้าง ด้วยตัวเราจริงๆแล้วเป็นคนที่ทะเล้นๆหน่อย แต่ที่ผ่านมาพยายามสำรวม พยายามวางตัวให้พอดี เล่นมากก็ไม่ได้เดี๋ยวแฟนคลับรุ่นใหญ่เขาจะมองว่าไม่งาม เขาก็จะมีติงบ้าง บางคนเขาจะไม่ชอบ เขาอยากให้เราทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ แต่งโป๊ไปเขาว่าไม่งาม เราก็เอากลางๆ เอาที่เราชอบบ้าง ไม่เกินงามเกินไป คนทั่วไปที่จะ50เขาก็ยังใส่กางเกงยีนส์กันได้เนอะ มันก็เป็นส่วนตัว เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล เอาที่เราสะดวก เราไม่ได้ไปพูดจาไม่สุภาพ แอนมองเรื่องมารยาทตรงนี้มากกว่า ก็พยายาททำตัวให้เข้าใจวัยรุ่นว่าเขาคิดยังไง ต้องการอะไร ส่วนมากทุกคนเขาต้องการกำลังใจกันนะ ตอนแรกเขินนะมีน้องๆมากัน หลังๆเราก็เข้าใจไม่ว่าจะวัยไหน ช่วงอายุเท่าไหร่ทุกคนต้องการกำลังใจ ทุกคนต้องการความรัก ต้องการใครซักคนที่รับฟังเรื่องราว”
พอเห็นแฟนคลับรุ่นลูกหนาแน่นขนาดนี้เรารู้สึกยังไงบ้าง?
“ดีใจจริงๆนะ เราอายุจะ50ปีแล้ว มันเหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เราเองก็ได้รับพลังบวกจากเขา ได้ความสนุกสนาน บางทีชีวิตเราเจออะไรเครียดๆ พอได้มาเจอพลังบวก นอกจากเราจะได้รับพลังบวกจากเขาแล้ว เราก็ส่งพลังบวกกลับคืนเขาได้ด้วย”
แฟนคลับแต่งรูปให้เราสวยเหมือนสาวเกาหลี?
“แต่งให้แม่สวยเกินจริง แม่เลยเครียด(หัวเราะ)”
เรื่องรักล้ำเส้นทำให้กระแสแฟนคลับเราเกิด แถมยังได้คู่จิ้นใหม่ คือ เชียร์?
“จิ๊นจิ้น เขาอาจจะรู้จักเราจากรักล้ำเส้น จากหัวใจศิลาบ้าง แล้วเขาก็ย้อนไปดูผลงานในอดีตของเรา”
พอเป็นแอน-เชียร์มีคู่รัก หญิง-หญิง ตามเยอะไหม?
“ก็ไม่นะ ไม่ว่าจะชาย-ชาย หรือหญิง-หญิง เราไม่ได้โฟกัส แอนเปิดโลกทัศน์ สมัยนี้มันคิดแบบนั้นไม่ได้”
มีคนแบบมาชอบเราแบบนั้นไหม?
“แอนก็ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง(หัวเราะ) คนที่ตามแอนส่วนใหญ่จะเป็นเด็กผู้หญิงนะ ก็ไม่เห็นจะมีอะไร แต่ถ้าจะลึกซึ้งกว่านั้นเราไม่รู้ เขาบอกชอบที่เราน่ารัก เป็นแม่ แม่เป็นทุกอย่าง แต่บางมีแม่ก็ไม่ได้แปลว่าแม่ก็ได้สำหรับบางคน”
ปลื้มไหมมีแฮชแทคติดเทรนด์ทวิตเตอร์?
“ปลื้มด้วย เขินด้วย น้องๆเขาบอกว่าปั้นกันจนมือหงิกเลย ก็ปลื้มใจมากๆ จะพยายามทำให้ดีที่สุด แอนไม่ใช่นักร้อง เราเลยไม่มีงานอีเว้นต์”
เดี๋ยวจะมีแฟนมิตติ้ง แอน-เชียร์ ครั้งนี้2แล้ว?
“จะฟินขนาดไหนเขาไม่ให้บอก ก็เตรียมอะไรสนุกๆให้แฟนๆได้กรี๊ด ได้เซอร์ไพรส์กัน จะพยายามทำให้สุดความสามารถของหญิงวัยจะ50ปีทำได้นะ นี่ยังไม่ได้คุยกับเชียร์เลย แต่ก็เดี๋ยวจะได้เจอกันแล้ว เพราะต้องเตรียมตัวซ้อมกัน”
น้องนนนี่ ลูกสาว เรียนจบปริญญาโทแล้ว?
“น้องนนนี่จบปริญญาโทแล้ว แต่ว่าแม่ไม่ได้ไปร่วมแสดงความยินดี ลูกก็โทรมา เราก็ให้พรลูกไป ที่แอนไม่ได้ไปเพราะทางมหาวิทยาลัยเขาบอกวันช้าไป เขาเรียนจบแล้วล่ะค่ะ แต่เขาต้องทดลองทำงานก่อนปีหนึ่ง เขาถึงจะบอกวันในการรับปริญญามา มันกะทันหันไป แอนเคลียร์งานไม่ได้ แล้วเราก็ไม่ได้เป็นนางเอกเนาะ เราต้องตามคิวพระนางเขา ถ้าเราบินไปบ่อยๆเดี๋ยวเขาไม่ให้คิวแล้วเขียนบทให้ตายไป (หัวเราะ) เราก็ให้ของขวัญลูกไป เพราะเขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแม่จะเรียนให้จบปริญญาโท เขาคงไม่ต่อปริญญาเอกแล้วล่ะ ถ้าจะเรียนคงต้องจ่ายค่าเรียนเองนะ ตอนนี้เขาทำงานแล้วซึ่งเขาทำตั้งแต่เรียนปริญญาตรีแล้วล่ะ เขาอยู่ที่โน่นเขาชอบ ปีนี้แอนคงจะไม่ค่อยได้บินไปเท่าไหร่ เขาบอกว่าถ้าไม่ผิดพลาดอะไรเขาจะบินมาหา ประมาณเดือน เมษายนค่ะ”
ลูกสาวแต่งงานแล้ว?
“น้องแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่มีบุตรนะ เราก็แล้วแต่เขาเลย เพราะว่าเราก็ทำงานตรงนี้ เขาก็อยากจะมีบ้านก่อนเพราะตอนนี้เช่าแฟลตอยู่ ให้เขารันไปตามสเต็ปชีวิต เขาบอกตอนเด็กๆ เขาเฮี้ยวมาก เขาก็กลัวเหมือนกัน กลัวว่ากรรมจะตามสนอง (หัวเราะ)”
มีแนะนำเรื่องชีวิตคู่กับเขายังไงบ้าง?
“แอนพูดกับลูกอยู่เสมอ เราเป็นแม่ แอนเชื่อว่ามนุษย์แม่ทุกคนจะกังวลจะห่วงตลอด ด้วยความที่สามีเราเป็นคนอังกฤษ จะพูดเสมอว่าใจเย็นๆ ให้เขาได้เดินทางใช้ชีวิตของเขาในแบบที่เขาชอบ แล้ววันหนึ่งที่เขาต้องการอยากให้เราช่วยเหลือ เขาก็จะเดินมาหาเราเองดีกว่าซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาพร้อมจะฟังเรา แฟนก็จะคอยแตะเบรกแอนตลอด เพราะว่าแอนจะคอยเหยียบคันเร่งตลอด (หัวเราะ) ก็เลยดีขึ้น เลยทำให้แม่ลูกมีความเข้าใจกันมากขึ้น พอเราไม่ได้ไปจู้จี้จุกจิกกับเขามาก เขาก็จะเป็นฝ่ายโทรมาเล่าให้เราฟัง แอนก็ปรับทัศนคติในการเลี้ยงลูกค่อนข้างเยอะ”
ไม่ได้เร่งว่าอยากอุ้มหลาน?
“ก็ไม่เร่งนะ แอนยังไม่แก่มาก แอนยังออกกำลังกายทุกวันรักษาสุขภาพอยู่ เขาก็ไม่ได้บอกว่าอยากมีลูกแล้ว เขาบอกแต่ว่าจะไปเที่ยว ด้วยความที่แอนทำงานตั้งแต่เด็กไม่มีโอกาสไปเที่ยวที่ไหนมาก ดังนั้นแอนถึงพูดกับลูกว่า ถ้ามีโอกาสเดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวหรูหรามากมาย แต่เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เราได้เห็นว่าโลกนี้กว้างใหญ่ให้เราได้เรียนรู้อีกเยอะแยะมากมาย”
ในฐานะแม่สบายใจแล้วที่ส่งลูกถึงฝั่ง เรียนจบมีงานทำ แต่งงานแล้ว?
“แม่กับลูกไม่มีทางจะหย่ากันได้ อยู่กันไปตลอดชีวิตก็คงต้องดูแลกันไป เราก็หวังว่าเดี๋ยวตอนแม่แก่ลูกก็ดูแลแม่บ้าง”