
มองผ่านเลนส์คม - 3 ปี "บิ๊ก ดีทูบี"
วันที่ 9 ธันวาคมนี้ เป็นอีกวันที่ ครอบครัว "กิตติกรเจริญ" และแฟนคลับจะได้ร่วมทำบุญใหญ่
เป็นวันครอบรอบการเสียชีวิตของ อดีตนักร้องบอยแบนด์ชื่อดังแห่งยุค "บิ๊ก ดีทูบี " หรือปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ
แม้เขาจะจากไปเป็นปีที่ 3 แล้ว ทว่า "แฟนคลับ" ยังไปมาหาสู่พ่อแม่ของบิ๊กที่บ้านย่านเทพารักษ์อย่างสม่ำเสมอ
วันที่ 9 ธันวาคม เวลา 09.00 น. พวกเขายังตระเตรียมทำของชำร่วย เป็นเส้นผมของบิ๊กบรรจุในห่อน้อยๆ เพื่อมอบให้คนที่มาร่วมทำบุญอุทิศส่วนกุศล ที่วัดหนามแดง
นึกภาพเด็กๆ ช่วยพ่อแม่บิ๊กทำเครื่องสังฆทาน นั่งทำของชำร่วยแล้วรู้สึกอุ่นๆ
จากที่มีลูกชายเพียงคนเดียว ตอนนี้พ่ออุดม แม่ยุพา กลับมีลูกๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายคน... น่าชื่นใจแทน
ความรักความห่วงใย ที่เปลี่ยนมาสู่พ่อแม่ของคนที่พวกเขารัก ไม่ได้จืดจางตามวันเวลา
วันว่างก็หอบหิ้วขนมนมเนย มานั่งกินที่บ้าน ช่วยคลายเหงาดีทีเดียว
เด็กๆ ที่มา มีทั้งนักเรียนผูกคอซอง นักศึกษามหาวิทยาลัย ไปถึงหนุ่มสาววัยทำงาน
หลายคนชื่นชอบบิ๊ก ตั้งแต่เรียนมัธยม คนหนึ่งบอกว่าบิ๊กเป็นแรงบันดาลใจให้เธอสอบเอนทรานซ์ติด และเธอก็ตั้งใจเรียนตามที่เคยบอกกับบิ๊กไว้
"ความรัก" มีอานุภาพไม่น้อย
ขอย้อนกลับไปภาพเก่าๆ อีกครั้ง...
นับแต่ปี 2546 ที่บิ๊กขับรถตกคูน้ำ วันที่เขาถูกหามเข้าโรงพยาบาล เกิดปรากฏการณ์ในสังคมที่เหลือเชื่อ
ผู้คนแห่แหนไปที่โรงพยาบาล เพื่อส่งใจเยี่ยมคนป่วย กองทัพนักข่าวรายงานความเคลื่อนไหว และอาการของนักร้องหนุ่ม ชนิดวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมง กระทั่งนาทีต่อนาที
วันที่หมอแถลงอาการว่า โอกาสที่บิ๊กจะรอดเหลือเพียง 0.01 เปอร์เซ็นต์ เราได้ยินเสียงร้องไห้ระงมไปทั่ว
เราเห็นภาพการร่วมสวดมนต์ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองเขา
ภาพที่พวกเขาตั้งใจพับนกกระดาษ พร้อมคำอธิษฐานให้คนที่รักรอดปลอดภัย
สารพัดวิธีการที่จะช่วยให้นักร้องหนุ่มดีขึ้น
จนเมื่อรู้ว่ายังมีลมหายใจ หากแต่ไม่มีโอกาสรับรู้ หรือตอบสนองใดๆ ได้ พวกเขาก็ยังแวะเวียนไปที่บ้านเขาตลอด 3 ปี
พวกเขาทำเสื้อ พวงกุญแจ สายรัดข้อมือ เพื่อนำรายได้ไปซื้อหาของใช้จำเป็นสำหรับคนไข้มอบให้พ่อแม่
ความผูกพันนี้ใช่มีแต่น้องๆ มานั่งนึกดู ดิฉันเองก็เขียนถึงบิ๊กมาร่วม 7 ปีแล้วเหมือนกัน
น่าสนใจว่า เพราะเหตุใดที่ถึงวันนี้แล้ว "บิ๊ก" ยังไม่หายไปไหน ...
นักร้องที่น่ารัก ทั้งภาพลักษณ์และตัวจริง ไม่ได้เป็นกันได้ทุกคน
หากจะครองใจคนจำนวนมากได้ ไม่เพียงแค่รูปร่างหน้าตาอย่างเดียว หากแต่อยู่ที่ความดี กตัญญูรู้คุณ ที่ปฏิบัติมาตลอดชีวิตด้วย
นี่คือ "ของจริง" และคงไม่มีคำตอบให้กับคนที่ถามว่า...จะอะไรกันนักหนากับคนที่ตายไปแล้ว
แค่อยากถามกลับว่า เท่าที่เห็นเวลานี้...มีใครเป็นได้อย่างเขาบ้างล่ะ!?
"นันทพร ไวศยะสุวรรณ์"