'กันต์' ยันไม่ได้โมโห ปัดชิ่งสื่อในงานอีเว้นท์

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เป็นประเด็นสดๆ ร้อนๆ ในงานอีเว้นท์ วันก่อน (25 ต.ค. 62) หลัง "กันต์" กันตถาวร ไปทำงานในฐานะพิธีกร แต่กลับไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ไปร่วมงาน ซึ่งเรื่องนี้ หนุ่มกันต์ อธิบายให้ฟังว่า

    "จริงๆ แล้วกันต์ไปเป็นพิธีกรและกำลังจะกลับบ้านแล้ว ทีมงานเลยมาบอกว่าถ้างั้นขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม ผมก็บอกว่าได้สิ ถ่ายตรงไหน ไปเลยได้ เลยพาผมไปถ่ายรูป ถ่ายรูปเสร็จบังเอิญว่าผู้บริหารกำลังจะสัมภาษณ์ ผมและน้องซานิ เอเอฟ ก็ยืนข้างๆ โดยที่ไม่ได้สัมภาษณ์ เหมือนยืนร่วมเฟรมที่เขาสัมภาษณ์ ไม่ได้มีการดีลอะไรกันไว้ว่าต้องสัมภาษณ์อะไรอยู่แล้ว คือจริงๆ ผมต้องกลับบ้านแล้ว เนื่องจากว่าผมต้องสแตนบายมางานนี้เท่านั้นเอง ถามว่าสื่อสารกันไม่เข้าใจหรือเปล่า จริงๆ เป็นการไม่ได้สื่อสาร ต้องพูดแบบนี้จะได้เข้าใจตรงกัน เพราะไม่ได้บอกผมว่าจะมีสัมภาษณ์ จริงๆ การสัมภาษณ์ผมก็ยินดี คือบอกสิสัมภาษณ์ ผมไม่มีปัญหาเลย คือเนี่ยผมขึ้นมาเพื่อให้ถ่ายรูป สาเหตุที่ผมขึ้นไป เนื่องจากว่าผมจะถ่ายรูปกับพนักงาน กฟผ.ที่มารอถ่ายรูป ไม่ได้มาถ่ายรูปที่แบล็กดร็อปด้วยซ้ำ แต่ไหนๆ เขามา ก็ได้สิ แต่ไปๆ มาๆ ทำไมอยู่ดีๆ มาสัมภาษณ์ ได้ แล้วเดี๋ยวจะถ่ายคลิปนี้ต่อนะ คือเดี๋ยวก่อนๆ ผมขึ้นมาเพื่อให้พนักงานของพี่ๆ ถ่ายรูปนะ ผมไม่ได้ขึ้นมาเพื่อจะสัมภาษณ์อะไรนะ ผมเลยคิดว่าคุณคงไม่ได้สื่อสารกันมาก่อน ซึ่งซานิก็แบบเดียวกัน ไม่ได้บอกซานิไว้ว่าจะต้องมาสัมภาษณ์นะ เพราะซานิเดินลงไปจะถึงรถแล้วด้วย ไปเรียกเขากลับมาเพื่อถ่ายรูป ปรากฏว่าก็เป็นอย่างที่ได้อธิบายไป ผมไม่มีน้ำโหครับ แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้แฮปปี้ พูดกันตรงๆ ผมยินดี ผมขึ้นมาถ่ายรูปกับพวกคุณนะ ที่มารอถ่ายรูปด้วยกัน ยินดีเสมอ กลายเป็นว่าทำไมอยู่ดีๆ เดี๋ยวขอสัมภาษณ์อันนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวขอเก็บคลิปนี้เพิ่มนะ ผมว่าอันนี้มันไม่ใช่ ผมมาถ่ายรูปกับพวกคุณนี่แหละ คือรูปส่วนตัวที่จะได้รู้สึกว่าเป็นกันเอง ที่ไม่ใช่มาถึงเดี๋ยวสัมภาษณ์นี้ก่อน เดี๋ยวบรีฟอย่างนี้ คุณพูดประมาณนี้ มันไม่ใช่ เพราะผมทำพิธีกรเสร็จแล้ว ผมก็จะกลับแล้ว แต่ว่าขึ้นมาอยากถ่ายรูปกับพวกคุณ ถามผมนะ พูดตรงนี้ได้เลย ผมไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ผมขึ้นไปเพื่อที่จะถ่ายรูปกับพวกคุณเลย อันนี้ผมพูดตรงนี้ได้เลย ไม่ได้ต้องการจะหนี ผมไม่ได้มีประเด็นอะไรที่จะต้องหนีนักข่าวอยู่แล้ว แต่ผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นการไม่สื่อสาร สำหรับผมนะ จริงๆ แล้วมันไม่น่ารักนิดหนึ่ง ผมมาถ่ายรูปด้วยไง ต่อแถวถ่ายรูปกันไม่มีปัญหาเลย แต่กลายเป็นว่าเดี๋ยวสัมภาษณ์อันนี้นะ เดี๋ยวเก็บคลิปนี้นะ เดี๋ยวจะโปรโมตนี่ด้วย ซึ่งไม่ได้มีการคุยไว้ก่อนล่วงหน้าครับ หลังงานเขาก็ไม่ได้โทรมาเคลียร์อะไร แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแต่ว่าเราอยากรู้สึกดีๆ กลับบ้าน ผมต้องใช้คำว่าผมเดินขึ้นมา มันไม่ใช่ทางผ่านที่ผมจะกลับบ้านด้วย ผมลงไปแล้ว แต่โอเคถ่ายรูปข้างบนใช่ไหม ได้ ไปขึ้นไปด้วยกัน ผมเดินขึ้นมาด้วยการนี้เลย เพื่อการถ่ายรูปกับพวกพี่ๆ ทั้งหลาย"
 

ถามต่อเรื่องทายาท เมื่อไหร่จะได้เห็น เบบี๋ 

   "ครอบครัวอยู่ในขั้นตอนการผลิตครับ ผลผลิตยังไม่ออกมายังอยู่ในสายพานอยู่ (หัวเราะ) ไปเที่ยวเมืองนอกถามว่าตั้งใจมีลูกไหม ก็ยอมรับว่าตั้งใจ เพื่อพักผ่อนเขาก็จะได้ไม่เครียด แพลนว่าจะมีน้อง ก็เผื่อจะได้ปุ๊บปั๊บรับโชค ตอนนี้คุณพลอยไม่ได้ทำงานครับ หนักไปทางเรียนคอร์สต่างๆ เขาจะมีกิจกรรมเยอะแยะ ก็พยายามบอกเขาว่าไม่ต้องเยอะมากก็ได้ มีกิจกรรมเยอะเขาจะเหนื่อย กลับบ้านนอนก็ดึก ช่วงนี้ก็ตั้งใจทำทุกครั้งนะครับ(หัวเราะ) ก็ยังไม่มา แต่ก็ผลิตโดยละเอียดทุกครั้ง เราก็เอาทุกสูตรมาแล้วปั่นรวมกัน ลองดูว่าสูตรไหนดี นับวันก็แล้ว ก็มีหลายวิธี ก็ลองกันไปหลายวิธี แต่งานละเอียดครับ(หัวเราะ) จริงๆ ปรึกษาคุณหมอเป็นการตรวจสุขภาพ เพราะด้วยอายุของผมกับพลอยอายุใกล้เคียงกัน 33-34 ก็ตรวจว่าสุขภาพของเราและของเขาแข็งแรงดีไหม พร้อมจะมีน้องไหม ก็พร้อมทั้งคู่ แต่ปล่อยธรรมชาติก่อน ถ้าปีนี้ ปีหน้าน้องเขายังไม่มาค่อยว่ากัน เป็นเรื่องของทางการแพทย์อีกทีหนึ่ง เดินสายขอลูก ก็มีบ้าง เขาก็บอกว่าอยากให้เขามา จริงๆ ที่อยากมีเลยเพราะไม่อยากอายุเยอะกว่านี้แล้วค่อยมี ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าเราจะเล่นกับเขาไม่ไหว ก็อยากให้โตไปด้วยกันเลยครับ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นตะเวนขนาดนั้นครับ อยู่บ้านดีกว่า(หัวเราะ) ก็มีทานยาตามที่คุณผู้หญิงต้องทานครับ เคยคิดเหมือนกันว่าตั้งใจแล้วจะไม่มา ก็ปล่อยตัวสบายๆ ไม่ต้องไปเกร็ง ไปนับ อย่าไปเกร็ง เรื่องถือเคล็ดไม่ค่อยได้ถืออะไรครับ จริงๆ ก็อยากให้เขามาแล้ว รอวันที่เขาจะมา จริงๆ แล้วผมกับพลอยอยากได้แฝด เนื่องจากว่าจะได้เลี้ยงเขาไปพร้อมๆ กันเลย เพราะการเลี้ยงลูกคนหนึ่งจะใช้เวลาจากเราไปค่อนข้างจะเยอะ คือมันไม่ใช่ภาระหรอก คือเลี้ยงไปพร้อมกันก็เหมือนประหยัดเวลาไป แทนที่จะกลายเป็น 10 ปี มันก็จะลดเหลือ 5 ปี เพราะเราจะเลี้ยงเขาไปพร้อมกันเลย เลี้ยงเขาไปเหมือนเพื่อนในวัยเดียวกัน ครอบครัวก็ไม่ได้รีบครับ ก็บอกว่าปล่อยสบายๆ (หัวเราะ) ค่อยๆ ปล่อย"