"ต้อย"ดึง"บอย"แจมคอนเสิร์ตหยิบเพลงรักวันวานปรุงแต่งใหม่ | คมชัดลึก

ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน ซึ่งครั้งนี้ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการได้ บอย โกสิยพงษ์ เจ้าพ่อเพลงรักพร้อมทีมจากเลิฟอีส มารับหน้าที่นำเพลงรักในความทรงจำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อเพิ่มอรรถรสให้แฟนเพลงอีกด้วย

 "ต้อย" เศรษฐา กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นคอนเสิร์ตที่ภาคภูมิใจมากที่สุด และคิดว่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมา เพราะได้คนมีฝีมือหลายคนมาช่วยกันทำให้คอนเสิร์ตนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บอย โกสิยพงษ์ นภ พรชำนิ "ไก่" สุธี แสงเสรีชน และ วินัย พันธุรักษ์ ซึ่งทุกคนที่ซื้อบัตรเข้ามาดูจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

 "ตัวผมเองร่วมงานกับคุณบอยมาหลายครั้ง เราได้คุยกันอยู่เรื่อยๆ ผมเองก็ชักชวนให้คุณบอยมาช่วยทำคอนเสิร์ตให้ ซึ่งคุณบอยก็ยินดี ทำให้ครั้งนี้จึงได้มีโอกาสมาร่วมมือกันสร้างสรรค์คอนเสิร์ตครั้งนี้ขึ้น

 ในวันนั้นแฟนเพลงจะได้เห็นบรรยากาศของเพลงตามแต่ละยุคของเพลงที่นำมาร้อง ส่วนแขกรับเชิญ นอกจากจะมีคุณบอย คุณนภ แล้วก็จะมีคุณวินัย รวมถึงคุณไก่-สุธี ผมเองก็อาจจะชวนแกขึ้นมาบนเวทีเซอร์ไพรส์ด้วย ผมว่าบนเวทีอะไรก็เกิดขึ้นได้ ตลอดช่วงเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง-3 ชั่วโมงของโชว์ ส่วนภรรยาและลูกในรอบนี้คงไม่มีขึ้นมาแจม ครั้งนี้ขอโชว์กับน้องๆ เพื่อนๆ ก่อน"

 ถามว่าเพลงที่จะได้ฟังมีเพลงอะไรบ้าง นักร้องรุ่นใหญ่ ตอบว่า

 "บนเวทีก็จะต้องมีเพลงที่ร้องกันทุกปี เพลงฮิตที่ไม่ร้องไม่ได้ เช่น เพลงเป็นไปไม่ได้, ทะเลไม่เคยหลับ, โอ้รัก ฯลฯ แต่อารมณ์ของเพลงก็แตกต่างออกไป เป็นเพลงรักตลอดกาลที่จะถูกหยิบมาทำใหม่ ร้องใหม่ ส่วนเพลงพิเศษๆ ก็ต้องมีแน่นอน ซึ่งคุณบอยก็จะเป็นคนเลือกมา รวมแล้วประมาณ 30 เพลง ผมเองเชื่อมือคุณบอย ออกมาแล้วต้องดี เพราะผมเองก็ร่วมงานกับคุณบอยมาหลายครั้งแล้ว"

 เมื่อถามต่อว่าในทุกปีที่จัดคอนเสิร์ตแฟนเพลงให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยมรู้สึกอย่างไร "ต้อย" เศรษฐา บอกว่าสิ่งเหล่านี้คือยาอายุวัฒนะที่ทำให้มีกำลังใจที่จะอยู่ มีกำลังใจที่จะพัฒนางานต่อไป ไม่นิ่งอยู่กับที่ ทำให้ชีวิตตื่นตัว เมื่อจบคอนเสิร์ตปุ๊บก็จะมานั่งคิดคอนเสิร์ตครั้งต่อไปทันที

 "ผมก็จะมานั่งคิดว่าคนให้การตอบรับขนาดนี้ ปีหน้าเราจะทำอะไรให้คนดูอีก จะคิดตลอด ทำให้ชีวิตมีความสุขมาก ตอนนี้คอนเสิร์ตหน้าก็เริ่มมีไอเดียบ้างแล้ว เป็นความพยายามอย่างยิ่งที่จะตอบแทนความมีพระคุณของแฟนเพลงทุกคนที่ทุกปีก็ยังมาดูกัน ไม่อยากให้ดูอะไรที่ซ้ำซาก จำเจมากเกินไป

 ครั้งนี้พวกท่านจะได้มาฟังเพลงที่ผมร้องนั่นแหละแต่จะแปลกใหม่กว่ามาให้ทุกท่านได้ฟัง ถามว่ากังวลไหมที่คนดูอาจจะรู้สึกว่าเพลงเปลี่ยนไปจากที่เคยได้ยิน เรื่องนี้ตอนแรกผมก็มีกังวลบ้าง ก็คุยกับคุณบอยแล้ว ซึ่งเพลงที่ฮิตจริงๆก็จะคงความออริจินัลไว้ เพียงแค่เพิ่มเครื่องดนตรีเข้าไปให้ดูดนตรีแน่นขึ้น คนฟังๆแล้วแทบจะไม่รู้สึกเลย"

 ด้าน บอย โกสิยพงษ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมทำคอนเสิร์ตครั้งนี้ ว่าทีมงานทุกคนมีความตื่นเต้นมากที่จะได้ทำโชว์นี้ ซึ่งถามว่ายากไหม ตอบได้เลยว่าไม่ยาก เพราะไม่ว่า "ต้อย" เศรษฐา จะร้องเพลงอะไร อย่างไรย่อมเพราะอยู่แล้ว

 "ผมมีความรู้สึกว่าไม่ว่าพี่ต้อยจะร้องเพลงแบบไหนก็ดูเท่อยู่ดี ฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำก็คือเราจะทำดนตรีออกมาให้เท่สมกับที่เป็นพี่ต้อยให้มากที่สุด ในส่วนของเพลงก็จะมีหลายรูปแบบ ตามคอนเซ็ปต์เดอะ เลิฟ ซอง อีส ฟอร์เอฟเวอร์ จะมีเพลงตั้งแต่ยุค 70-80-90 จนถึง 2000 ที่ดังๆ คนรู้จักมาร้อยเรียงกัน จะมีหลายรูปแบบทั้งแบบออริจินัล บอสซาโนว่า ดิสโก้ ฯลฯ พวกเรามีความคิดตรงกันว่าจะจัดวางโชว์งานครั้งนี้ให้ออกมาแล้วได้ความรู้สึกถึงการย้อนอดีต บางเพลงก็จะเป็นเพลงปัจจุบันมาทำในแบบย้อนอดีตใส่เสียงพี่ต้อยเพราะๆ ลงไป"

 ส่วนว่าในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะมีเพลงพิเศษที่แต่งขึ้นใหม่หรือไม่ นักแต่งเพลงคนดัง ตอบว่าไม่มี เพราะ "ต้อย" เศรษฐา ยังไม่อยากให้ทำเพลงใหม่ จากคอนเซ็ปต์และชื่อคอนเสิร์ตจึงอยากที่จะให้เลือกนำเพลงที่อมตะมาทำอย่างเดียว

 "พวกเรารู้สึกว่าพี่ต้อยเหมือนเป็นแฟรงค์ ซินาต้า เมืองไทย เรารู้สึกยิ่งใหญ่อย่างนั้นก็เลยอยากทำโชว์ออกมา ด้วยดนตรีที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก อยากให้ไปเห็นสิ่งที่เราพยายามทำในวันนั้น" บอย กล่าวทิ้งท้ายอย่างชี้ชวน

 แฟนเพลงที่สนใจ หาซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา