สัมผัสตัวตนของ 'แน็ค-ชาลี'  

 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  กำลังเป็นกระแสทางโซเชียลสำหรับ “แน็ค” ชาลี ไตรรัตน์ กับความติสต์ที่น่ารักไม่เหมือนใคร ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสคุยแบบเปิดอกกับหนุ่มแน็ค ในวันที่ถ่ายเอ็มวีเพลง "พ่ายแพ้” ของวง The Raven Doll ที่บ้านในซอยลาดพร้าว 41 เลยได้รับรู้อีกมุมหนึ่งของนักแสดงหนุ่ม

 

    @@ ตอนนี้โด่งดังมากรู้สึกยังไงบ้าง
    “คิดอยู่ว่านี่ผมไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่าเนี่ย พี่ๆ มากันเต็มเลย (หัวเราะ) ยอดฟอลโลว์ก็ไม่ได้ขึ้นมาเยอะมากมาย แค่ขึ้นมาเร็วหน่อยแล้วก็หยุดแค่นั้น ผมตกใจมาก จนเรารู้สึกเกรงใจ ตกใจที่มีคนอยากเจอเราจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร วันนั้นที่เราลุกไม่ขึ้นเราปวดตูดมาก แล้วมีคนวิ่งมาหาเรา มาจากเตาปูน เอาเยลลี่มาให้ มันน่ารักมาก ทุกคนเอาของมาให้เราจนเราไม่กล้าลุก ผมมองว่าการทำแบบนี้มันดูเหมือนสร้างภาพ แต่ที่ผมทำเพราะผมอยากตลกจริงๆ วันนั้นผมหลบฝนจริงๆ โดนแท็กซี่ไล่ลงมา พอเราจะลุกก็มีคนมา เขาวิ่งหาเราตั้งแต่ชั้นบนจนชั้นล่าง ผมขอบคุณเขาจริงๆ จนผมตัดสินใจนั่งอยู่นั่นแหละ นั่งอยู่หลายชั่วโมง จนเราไม่ไหวแล้วต้องขอตัวลุกแล้วไปนั่งข้างบนที่ไม่มีคน”

 

    @@คนมองว่าเหตุการณ์นี้มันอาจจะทำให้เรากลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้ง ทำไมเราไม่ไขว่คว้าตรงนี้ไว้
    “ไม่หรอก ผมเชื่อว่าไม่ ผมรู้ว่ากระแสมันคือกระแสและมันไวมาก แต่ครั้งนี้ผมถือว่ามันก็นานมากแล้วนะ อยู่มาเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เนี่ย จริงๆ มันควรจะสามสี่วันก็เงียบไป หรือต่อจากนี้อีกสักอาทิตย์ผมว่าก็คงเงียบแล้วล่ะ แต่สิ่งที่ผมจะทำออกมาคืองานที่ดีของผม อย่างเพลงตอนนี้ผมเปลี่ยนแนวเพลงของผมแล้วมาทำแนวที่รับรองว่าฟังได้แน่นอน 100% เดี๋ยวคอยดู ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้ผมทำคนเดียวแล้วไง เมื่อก่อนเรามีวงเราทำตามใจไม่ได้ แต่ตอนนี้เราทำคนเดียวเราก็ทำตามที่กระแสเขาเป็น แล้วเพลงเราน่ารัก ผมรับประกันว่าเพลงผมไม่น่าเกลียดทุกคนฟังได้จริงๆ”

 

    @@ไม่ได้ขี้เกียจทำงานใช่ไหม
    “ขี้เกียจทำงานไหม มันเหมือนเลือกงานที่เราอยากทำมากกว่า เราเลือกทำอันไหนแล้วเราทำเต็มที่ไม่เคยบ่น แต่ถ้าเรารับงานไหนแล้วเราไม่ชอบ เราก็ทำเต็มที่แต่มันเหนื่อย ถ้าเป็นดาราคนอื่นเล่นละคร แล้วเขาไม่มีภาระ หรือมีแต่คนละอย่างกับเรา เขาไม่ได้จำเป็นว่า 3 ชั่วโมงต้องมาเลี้ยงสัตว์ พวกเขาพร้อมที่จะตื่นตี 5 อ่านบท ทำงานจนถึง 4 ทุ่ม แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้เรามีสัตว์เลี้ยงที่ให้คนอื่นมาเลี้ยงไม่ได้”

 

 

 

 

 

 

 

    @@ งานละครกับงานแสดงมีเข้ามาบ้างหรือเปล่าช่วงนี้ 
    “ช่วงนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ ถึงผมจะอยากเล่น แต่ผมไม่ไหวจริงๆ เพราะมันใช้เวลานาน ก็คือถ้าเมื่อไหร่เห็นผมลงเล่นละคร นั่นก็คือช่วงที่ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่เหลือแม้แต่มอเตอร์ไซค์คันจิ๋ว ไม่เหลืออะไรแล้ว (หัวเราะ) ส่วนภาพยนตร์ก็มีเยอะเหมือนกัน ซึ่งผมชอบภาพยนตร์มากกว่า จะภาพยนตร์ดีหรือไม่ดีผมเล่นหมดครับ และตอนนี้ก็มีจะถ่ายอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เอาจริงๆ ชีวิตผมตอนนี้ผมเครียดเรื่องการทำเพลงมากกว่า เพราะผมอยากปล่อยเพลง”

 

    @@ ณ วันนี้เรายังสนุกกับการใช้ชีวิตแบบนี้ แต่อนาคตเรากลัวไหมว่าจะลำบาก
    “ผมอายุ 26 แล้ว คือโคแล้วแหละ ผมพร้อมที่จะนอนข้างถนนนะ นี่เรื่องจริงนะ ผมไม่เครียด ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว ถามว่าห่วงพ่อแม่ไหม ผมก็ห่วงนะ แต่ถ้าเราทำให้เขาสบายได้แล้ว เราก็ไม่เครียดผมไม่กลัวเลยนะ ไม่กลัวการหมดตัว ถ้าผมกลัวผมต้องระวังถูกไหม มีคนเตือนผมเยอะมาก นิยามคำว่า “นอนข้างถนน” ของผมคือผมเห็นคนที่สภาพเป็นแบบผมตอนนี้สุดท้ายเป็นแบบนั้นทุกคนเลย ตัวอย่างที่ผมเห็นมานะ แถวบ้านผมก็มีเยอะ”

 

 

    @@บางคนถ้าจะเจอสภาพแบบนั้นต้องมีความกลัว เราไม่มีเลยเหรอ
    “ไม่กลัวๆ เพราะผมไม่มีแฟน ไม่มีลูก อย่างครอบครัวผม ผมมีพี่น้องเยอะ ยังมีอีกหลายคนที่ดูแลครอบครัวได้ ผมก็ดูแลนะ ผมรักพ่อแม่ผมมาก รักเป็นที่หนึ่ง”

 

    @@ เรื่องความรักล่ะเป็นยังไงบ้างตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว 
    “ตอนนี้ไม่มี กับคนที่เคยคุยเขาไปดีแล้ว เราจบกันด้วยดีมาก ดีที่สุดในโลกเลย เอาจริงๆ ผมก็สงสารเขาเหมือนกันนะ คือผมเข้าใจเลยว่าคนเราที่รักกันมาก เรามีทุกอย่างพร้อม แต่ว่าสุดท้ายเราต้องแยกกัน ความรู้สึกมันเป็นรู้สึกยังไง แต่ก็อย่างที่บอกครับเราจบกันด้วยดีจริงๆ ซึ้งเลยได้ไหมครับตอนนี้ เอ่อ...การจบกันด้วยดี มันมีข้อเสียเพราะจะทำให้เราต้องคิดถึงเขาทุกวัน ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดถึงเขาตลอด"

 

    @@ พอเราโสดแบบนี้มีผู้หญิงเข้ามาให้จีบบ้างหรือเปล่า 
    “ผมคิดว่าเขาน่าจะกลัวผม ผมสามารถพูดเรื่องจริงได้เลยเรื่องหนึ่ง ก็คือเรื่องที่มีคนทักผมเข้ามาเยอะสุดๆ ตอนแรกผมก็ดีใจมากนะที่ได้อ่านข้อความ ทั้งจากคอมเมนต์ และมีคนส่งเข้ามาส่วนตัว แต่บอกตรงๆ ตอนนี้ผมตอบไม่ไหวจริงๆ ครับ เพราะมันเยอะมาก มีเข้ามาเป็นพันเป็นหมื่นข้อความ มีส่งเข้ามากันทุกเช้า บางคนก็ไปเจอจิ้งจกถูกประตูหนีบ บางคนก็เจอนกตกลงมาจากที่นั่นที่นี่ คือมีคนมาปรึกษาผมเกี่ยวกับสัตว์ทุกชนิดบนโลกใบนี้เลย ตอนนี้ผมอยากอยู่กับแม่ผมก่อน ผมติดแม่ ติดหลานมาก ผมรักหลานรักครอบครัวผมสุดๆ แถมผมก็ยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบด้วย ไม่สามารถไปไหนได้หรอก”

 

 

 

 

 

    @@ สเปกผู้หญิงในอุดมคติเราต้องเป็นคนแบบไหน 
    “ผมชอบผู้หญิงแก่ ชอบผู้หญิงอายุเยอะๆ ชอบผู้หญิงที่อายุเยอะแล้วยังดูสวย เพราะเวลามองแล้วผมรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์ ส่วนเรื่องการพูดคุย ถามว่าต้องคุยรู้เรื่องไหม เอ่อ...จริงๆ จะเป็นทางผมมากกว่าที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่พอถึงเวลาที่ผมเข้าไปจีบจริงๆ บางครั้งเราก็คบกันไม่ได้ เพราะอายุเราห่างกันเยอะเกิน ที่ผ่านมาพอผมมีแฟนจริงๆ ก็จะเป็นแฟนเด็กทุกคน ยิ่งใครที่เป็นคนรักสัตว์นี้ผมจะชอบมากเป็นพิเศษ ซึ่งคนที่ผมเพิ่งจะเลิกไปคือคนที่รักสัตว์มากเช่นกัน เขาไม่เคยรังเกียจอะไรเลย น่ารักมาก"

 

    @@ แผนอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้าว่าอย่างไรบ้าง 
“ผมก็อยากรวยอยากมีเงินเหมือนกันนะ เพราะอายุผมก็จะ 30 แล้ว แต่มันทำไม่ได้สักที ดังนั้นถ้าถามผม ณ ตอนนี้ ผมก็อยากจะใช้ชีวิตให้มีความสุข อยู่กับครอบครัวให้พ่อแม่มีความสุขแค่นั้นก็โอเคแล้ว

 

    @@ คิดว่าอนาคตความคิดเราจะเปลี่ยนไปไหม
    “วันที่จะเปลี่ยนอาจจะเป็นวันที่ครอบครัว มีลูกก็ได้ แต่ผมก็ไม่อยากมีลูกนะ (หัวเราะ) ผมไม่กลัวว่ามันจะสายเกินไปนะที่ตัดสินใจแบบนี้ ถ้ามว่าเสียดายไหม ก็เสียดาย”

 

    @@ อยากบอกหรือขอบคุณอะไรคนที่สนับสนุนเรา
    “ผมอยากขอบคุณทุกคน และอยากขอบคุณที่ผมนิสัยแบบนี่ แต่ก็ยังมีคนให้งาน ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมกล้าพูดเลยว่า ผมรับงานแล้วไม่มีปัญหา ผมตั้งใจทำงานมาก รับผิดชอบ บางคนมองว่สผมขี้เกียจ ก็ขี้เกียจแหละ แต่ผมก็มีความรับผิดชอบนะ ตอนนี้ผมกำลังสนุกและมีความสุข กับอะไรที่เขียนไปแล้วตลกๆแล้วมีคนเข้ามาอ่าน คือบางทีผมยังไม่อ่านของคนอื่นเลย แต่รู้ไหมผมมีถูกเอาคืนด้วยนะ เป็นการเอาคืนที่คอมเมนต์มาในข้อความซึ่งเขียนยาวกว่าที่ผมเคยเขียน ผมก็อ่านนะ”

    นี่แหละ!! คนติสต์จริง 2019