
คลิกฯ กลืน "คลื่นเสี่ยแหบ" กลายร่าง "คลื่นลูกทุ่งอินเตอร์"
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน ตลาดโฆษณาซบเซา สื่อทีวี วิทยุ และสิ่งพิมพ์ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า ซึ่งในกลุ่มสื่อปรากฏว่า "วิทยุ" รายได้หดหายเป็นประวัติการณ์ แม้จะย่างเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 เม็ดเงินโฆษณาในสื่อวิทยุก็ยังไม่กระเตื้อง
คลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม 94.5 เป็นคลื่นแรกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในท้าย พ.ศ.นี้ หลังจาก "เสี่ยติ๊ก" วีรวัฒน์ ยมจินดา บอสใหญ่บริษัทแมคซิม่าฯ ผู้ผลิตรายการ "สถานีสนามเป้า" ทางช่อง 5 ได้ร่วมมือกับ "เสี่ยแหบ" วิทยา ศุภพรโอภาส นำคลื่น "ลูกทุ่งเอฟเอ็ม" กลับมาบนหน้าปัดวิทยุอีกครั้งเมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา
ปรากฏว่า ไม่ประสบความสำเร็จด้านการตลาด แม้แบรนด์ "ลูกทุ่งเอฟเอ็ม" ยังครองใจแฟนเพลงอยู่ก็ตาม ส่งผลให้ "เสี่ยติ๊ก" ถอดใจ และขอทำรายการทีวีอย่างเดียว จึงมีการเจรจาหาผู้ร่วมทุนรายใหม่มาตลอด โดย "เสี่ยแหบ" เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งก็มี บริษัทเวิร์คพอยท์ ของปัญญา นิรันดร์กุล รวมอยู่ด้วย แต่ติดปัญหาเรื่องตัวบุคลากร ทุกอย่างจึงตกลงกันไม่ได้
ในที่สุด บริษัทคลิกเรดิโอ ก็ตกลงมาร่วมทุนกับบริษัทแมคซิม่าฯ เจ้าของสัมปทานคลื่นเอฟเอ็ม 94.5 โดยมีการพูดคุยกันในเบื้องต้นว่า ผู้ที่จะมานั่งดูแลคือ วาสนพงศ์ วิชัยยะ โดย "เสี่ยแหบ" เป็นประธานบริหารที่คอยให้คำแนะนำปรึกษา
ล่าสุด ผู้บริหารใหม่ได้เปลี่ยนชื่อคลื่นเป็น "ลูกทุ่งอินเตอร์" และวางคอนเซ็ปต์เป็นคลื่นเพลงลูกทุ่งสไตล์คนเมือง โดยมีอดีตนักจัดรายการคนหนึ่งนั่งดูโปรแกรมเพลงอยู่เบื้องหลัง ซึ่งความชัดเจนของคลื่นคงจะมีหลังวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้
จากการรื้อแบรนด์เก่าทิ้ง และหันมาสร้างแบรนด์ใหม่เช่นนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่า "เสี่ยแหบ" วิทยา ศุภพรโอภาส อาจจะถอนตัวจากคลื่นแห่งนี้
สำหรับบริษัทคลิกเรดิโอ ปัจจุบันมีคลื่นวิทยุ 4 คลื่น คือ คลื่นข่าว FM.101, คลื่นเพลงสากล FM.102.5, คลื่นเพลงไทยสากล FM.103.5, คลื่นเพลงอินดี้ FM.104.5 และคลื่นที่ 5 ก็คือคลื่นเพลงลูกทุ่ง ถือว่าเป็นเจ้าแรกที่มีคลื่นครบวงจรเพลงไทย
นักวิเคราะห์การตลาดประเมินว่า ความล้มเหลวของ "ลูกทุ่งเอฟเอ็ม" ที่เน้น "สถานีลูกทุ่งต้นฉบับตัวจริง" นั้น เป็นเรื่องของแบรนด์ที่ไม่สอดรับกับกระแสความนิยมของผู้ฟังเพลง ซึ่งพิจารณาจากความสำเร็จของ "คลื่นมหานครแฟมิลี่" และ "คลื่นลูกทุ่งไทยแลนด์" ที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ฟังรุ่นใหม่
คลื่นมหานครแฟมิลี่นั้น มีการปรับตัวขยายฐานผู้ฟังจาก "กลุ่มลูกทุ่ง" ไปสู่กลุ่มคนฟังเพลงลูกกรุง เพลงเพื่อชีวิต และเพลงสตริง เช่นเดียวกับคลื่นลูกทุ่งไทยแลนด์ ที่มีจุดขายเป็น "คลื่นอารมณ์ดี" ซึ่งตอบโจทย์คนฟังเพลงยุคบ้านเมืองมีแต่เรื่องเครียดๆ จึงมีแฟนเพลงหนาแน่นในทุกกลุ่ม ตั้งแต่สาวโรงงานยันพนักงานออฟฟิศ
ด้วยความพยายามจะคงเอกลักษณ์เดิมของคลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็ม จึงทำให้การกลับมาของเสี่ยแหบไม่โดนใจคนรุ่นใหม่ อีกอย่างหนึ่ง "คลื่นวิทยุชุมชน" ได้ทำหน้าที่เปิดเพลงลูกทุ่งเก่า-กลางเก่ากลางใหม่ จนมีฐานผู้ฟังที่แน่นอน ในช่วงเวลาที่คลื่นลูกทุ่งเอฟเอ็มหายไปจากหน้าปัด
ส่วนทางด้านรายการ "ลูกทุ่ง ททบ.5" แมคซิม่าฯ ได้บรรลุข้อตกลงการร่วมทุนกับ บริษัทกันตนา เรียบร้อยแล้วโดยมี วิทยา ศุภพรโอภาส บริหารเหมือนเดิม และจะกลับไปถ่ายทอดสดที่สวนลุมไนท์บาซาร์อีกครั้ง โดยจะเริ่มในวันที่ 13 ธันวาคม โดยมีหมอลำซิ่งวงดัง บัวผัน ทังโส-ศรีจันทร์ วีสี มาประเดิมเรียกมิตรหมอแคนแฟนหมอลำอีกครั้ง
จะว่าไปแล้วสายสัมพันธ์ของกันตนา กับ "เสี่ยแหบ " ดูจะแนบแน่นมากเพราะจาฤก กัลย์จาฤก เป็นนายกสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ โดยมีวิทยา เป็นอุปนายกสมาคม ทำให้การเจรจาร่วมทุนเป็นไปอย่างราบรื่น
อีกทั้งกันตนา ส่องกล้องมองแล้วว่า "เรตติ้ง" ของลูกทุ่ง ททบ.5 ที่อยู่ 3.8 นั้นสามารถแข่งขันกับ "เวทีไท" ได้ และที่สำคัญ มันมีอยู่แค่สองเจ้า แถมอยู่ช่องเดียวกัน ก็พอจะหาโฆษณาได้ไม่ยาก