'ต่อ' เลือกวิธีไม่พูดถึงแฟนเพื่อป้องกันการถูกบูลลี่ | คมชัดลึก

 

    ทีมบันเทิง  คมชัดลึก  -  จากกรณีที่ "มีน” ชุติญา แฟนสาว "ต่อ" ธนภพ โพสต์ไอจีระบายความรู้สึกหลังจากโดนบูลลี่มานานถึง 5 ปี ว่าไม่เหมาะสมกับพระเอกหนุ่ม ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอ "ต่อ" ธนภพ ในงานเปิดคอลเล็กชั่น UNIQLO FALL/WINTER 2019  ที่ เซ็นทรัลคอร์ท ชั้น1 เซ็นทรัลเวิลด์  จึงถามถึงเรื่องนี้

 

    “จริงๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่ารับรู้เรื่องนี้มาตลอด ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเซ้นสิทีฟที่พูดค่อนข้างยากมาก พูดแล้วก็ไม่มีผลดีกับฝ่ายไหนเลย แต่วันนี้ผมก็ยังยืนยันกับแฟนคลับกลุ่มอยู่ดี ว่าจริงๆ ไม่ใช่แค่มีนที่โดน ผมเองก็โดน สุดท้ายแล้วผมยืนอยู่บนพื้นฐานที่ว่าไม่เป็นไร และยังกล้าที่จะรักพวกเขาอยู่ดี เพราะการที่จะทะเลาะกันไปมามันไม่มีประโยชน์เลย ที่สำคัญไม่มีใครห้ามให้ประเด็นดราม่าต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้นได้ ฉะนั้นเราอาจจะต้องจูนความคิดใหม่ ว่าไม่เป็นไรไม่ต้องป้องกันด้วย คงต้องใช้ชีวิตไปแบบนี้ แต่พยายามทำตัวเองอย่าให้แฟนๆ ผิดหวังมากกว่า ถามว่ามีโอกาสคุยกับมีนเรื่องนี้บ้างไหม อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มันละเอียดอ่อน  เพราะว่าแม้แต่ตัวผมยังไม่กล้าคุยตรงๆ ขนาดนั้นเลย”

 

 

 

 

 

 

 

 

    ถามว่าต่อมีโอกาสปกป้องความรู้สึกของแฟน (มีน) ไหม
    “การปกป้องมันมีหลายแบบ สิ่งที่เขาโดน มันโดนอยู่ในสื่อก็จริง แต่การปกป้องของผมอาจจะไม่ได้จำเป็นที่จะต้องออกมาปกป้องผ่านสื่อ อย่างการสัมภาษณ์วันนี้ผมก็ไม่ได้ต้องการที่จะจบตีใครต่อเหมือนกัน สุดท้ายแล้วคือผมรักคนของผม คนรอบตัวผม แม้ว่าวันนี้จะมีทั้งคนโอเคและไม่โอเค แต่สุดท้ายเราอยู่ด้วย มันน่าจะสมานฉันท์ทุกฝ่ายดีกว่า แล้วมีคำพูดนึงที่มีนเคยฝากผมมา คือเขาไม่ได้อยู่วงการนี้อย่าเอาเขามาเกี่ยวเลย ไม่ว่าจะในข่าวคืออะไรก็ตาม เพราะว่าจริงๆ แล้วทุกคนมีอาชีพของตัวเอง ที่หลังๆ ผมไม่ใช่ว่าไม่ชอบพูดถึงเขานะ แต่บางครั้งพอผมรับสารสิ่งนี้มาผมก็พยายามช่วยเขาแหละ บางครั้งถ้าผมเป็นกำลังให้ได้สักนิดในการไม่พูดถึงเขา มันอาจจะดีกว่าก็ได้”

 

    คิดว่าวิธีนี้คือการปกป้องเขาในแบบของเรา
    “ไม่มั่นใจว่านี่คือการปกป้องมั้ย แต่รู้สึกว่านี่คือวิธีที่ผมสบายใจที่สุดที่จะทำ ถามว่าตอนนี้ความรู้สึกของเขาดีขึ้นไหม ผมตอบแทนเขาไม่ได้ แต่เชื่อว่าเรื่องนั้นมันผ่านมาแล้ว และเชื่อว่าตอนนี้ทุกอย่างมันฟื้นฟูดีหรือภาพที่เห็นอยู่วันนี้รู้สึกว่าทุกอย่างกำลังกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ”

 

 

 

 

    คิดว่าเป็นเพราะความดังขึ้นของตัวเราเป็นเหตุทำให้เขาโดนแบบนี้หรือเปล่า
    “ไม่ได้อยากคิดว่ามันเกี่ยวครับ เพราะสุดท้ายแล้วผมรู้สึกว่าผมไม่ได้เปลี่ยนไป อะไรก็ตามในวันนี้ผมอยากจะพูดในมุมตัวเอง มากกว่าจะพูดในมุมที่เราไปพาดพิงรอบนอก ถามว่าวางตัวลำบากไหม ตอนแรกคิดว่าตัวเองวางตัวลำบาก แต่หลังจากที่ลองใช้สติมันไม่ยากเลยครับ วางตัวแบบนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย ในเมื่อทุกอย่างมีคำตอบในตัวอยู่แล้ว ผมว่าการนิ่งคือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ต้องเถียงกันเพิ่มด้วย ไม่บานปลาย”

 

    ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ว่าอยู่วงการนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป

    “ความที่เราเป็นเด็กคนหนึ่ง บางครั้งไม่เคยได้รับสิ่งที่เราได้ในวงการนี้ มันจะมีช่วงที่เราเหมือนเฮโลตามเพื่อน นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกว่าอาจจะอยู่ในมุมคำว่าหลง แต่โชคดีที่ผู้ใหญ่ฝั่งผมค่อนข้างดูแลดี เวลาเห็นอะไรที่ไม่ดีก็จะตักเตือน ล่าสุดก็มีผู้ใหญ่มาเตือนเรื่องนึง ซึ่งผมรู้สึกว่าอันนี้เราเข้าใจผิดก็อาจจะต้องปรับความเข้าใจกัน”

 

 

    ช่วงหลังอาจมีบางคนรู้สึกว่าต่อเปลี่ยนไป หรือยังไม่หลุดจากคาแร็กเตอร์ละครรึเปล่า?
    “หลุดคาแร็กเตอร์มั้ย ตอบไม่ได้ครับ ไม่แน่ใจด้วยเพราะเพิ่งกลับมาทำงานหลังจากไปบวชมา แต่ที่บอกได้คือผมไม่ได้เปลี่ยนไป ยังพร้อมที่จะเป็นน้องที่น่ารักของพี่ๆ ทุกคนอยู่ครับ”