
พาตะลุยแดน"กิมจิ"เกาะติดกองถ่าย"ใต้ฟ้าตะวันเดียว"
เกาะกระแสละครเกาหลีในบ้านเรา ล่าสุดผู้จัดละครป้ายแดง "กึ้ง" เฉลิมชัย มหากิจศิริ จับมือกับ "เอ" ศุภชัย ศรีวิจิตร สร้างละครเชื่อมความสัมพันธ์ไทยกับเกาหลี เรื่อง ใต้ฟ้าตะวันเดียว มีนักแสดงทั้งจากฝั่งไทยและเกาหลีร่วมแสดงคับคั่ง
ไม่ว่าจะเป็น มาริโอ เมาเร่อ ที่รับเล่นละครเป็นเรื่องแรก ประกบคู่กับ คิมคิบอม, ไรอัน พารัน, ลีแฮวู มีนางเอกหน้าใส "ฉัตร" ปริยฉัตร และ "พลอย" ภัสสร คงมีสุข กำกับการแสดงโดย ผิน เกรียงไกรสกุล โดยทั้งหมดหอบหิ้วกันไปถ่ายทำกันถึงแดนกิมจิเป็นเดือนๆ เชียว
และเพื่อให้เห็นการทำงานของเหล่านักแสดงไทยที่ต้องไปแสดงร่วมกับนักแสดงเกาหลีว่าจะเป็นอย่างไร การท่องเที่ยวเกาหลี จังหวัดชลลาบุกโด และ เมืองเจินจู เลยเทียบเชิญนักข่าวตะลุยไปถึงแดนกิมจิให้เห็นกันจะจะ
นั่งเครื่องบินมากว่า 5 ชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงสนามบินอินชอย กรุงโซล ที่มีอุณหภูมิ 8 องศาเซลเซียส ทำเอาเย็นยะเยือก นั่งรถต่ออีก 3 ชั่วโมงจนเดินทางมาถึง "เซมันกึม" เขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศเกาหลี เดินดูทะเลซะเมื่อย ก็ได้เวลาอาหารมื้อแรก ประเดิมด้วยซุปหอยท้องถิ่น หน้าตาคล้ายหอยลายบ้านเรา พร้อมกับกิมจิสารพัดอย่าง จัดการกันอิ่มเรียบร้อย ว้าว...ได้เวลาบุกกองถ่าย ละครใต้ฟ้าตะวันเดียว
ลงจากรถมาก็เห็น มาริโอ พระเอกสุดหล่อยืนอ่านบทอย่างขะมักเขม้น ก่อนหันมาทักทาย "สวัสดีครับ ก็อยู่ที่นี่โอ้ มีคิวถ่ายแน่น ทุกวันเลย เหงา คิดถึงอาหารไทย มาอยู่เกือบเดือนแล้วน่ะ" พูดเป็นชุด ก่อนที่จะยืนโพสท่าให้ถ่ายรูปกันหนำใจ
ฉากที่ถ่ายทำวันนี้เป็นฉาก กัว ซึ่งเป็นตัวโกง ขับรถชนนางเอง แล้ว คิมคิบอม กับ มาริโอ ขับรถมาเจอจึงเข้าช่วยนางเอก ระหว่างที่พูดคุยถึงฉากที่เหล่านักแสดงจะถ่ายทำกันอยู่ เราหันไปเจอคิมคิบอม พ่อหนุ่มเลยได้โอกาสทักกลับมา "สวัสดีครับ ผมรักคุณ" ว้าววว...พระเอกเกาหลีบอกรัก
จากนั้นเรามีนัดกับ "พลอย" ภัสสร ที่เมืองโบรานของเจินจูต่อ ซึ่งนางเอกตัวน้อยถึงกับออกปากถึงการมาเล่นละครเรื่องนี้ว่า "ยากเพราะว่าน้องพลอยอายุแค่ 13 ปี แต่ต้องรับบทเป็นคนอายุ 20 ปี ก็จะมีปัญหาเรื่องการส่งสายตา การส่งอารมณ์ หนูก็ยังไม่เคยมีความรักเรื่องโรแมนติกเลยด้วย"
โดยวันนี้พลอยมีคิวถ่ายภาพที่จะใช้ในงานแต่งงานในเรื่องกับมินโฮ แต่พ่อหนุ่มไม่ว่าง ทำให้ อิไล (เพื่อนมินโฮ) ต้องเป็นฝ่ายไปเป็นเพื่อนแทน ระหว่างที่พลอย กับ อิไล กำลังซ้อมบท เราก็ได้มีโอกาศคุยกับผู้กำกับ ซึ่งบอกว่าปัญหาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของภาษาที่ทำให้สื่อสารกันลำบากนั่นเอง ทำให้ต้องใช้เวลาในการถ่ายทำมากกว่าเดิม เพราะต้องแปลกัน
ป่วนกองถ่ายได้สักพัก เราก็ปล่อยให้แต่ละคนเดินหน้าทำงานกันต่อ ส่วนชาวคณะก็ได้เวลาอาหารมื้อดึกพอดี และแล้วในที่สุดก็ได้กินหมูย่างเกาหลีของแท้สักที แต่กว่าหมูจะสุขทำเอาน้ำลายไหลกันเลยทีเดียว อิ่มท้องแล้วก็ถึงเวลากลับเข้าที่พัก
วันรุ่งขึ้นเรามีนัดกับพลอยไปเที่ยวภูเขา "เนมัลกึม" ที่คนเกาหลีนิยมมาปีนเขากันมาก ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเป็นส้มๆ เขียวๆ แดงๆ พลอยเลยโพสท่าให้ถ่ายรูป แหม...สวยเข้ากันพอดี พอถึงมื้อเที่ยงวันนี้ได้กินข้าวยำแท้ๆๆ ของเกาหลี "บีบิมบับ" ผักสดๆ บวกกับข้าวอร่อยมากๆ
กินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางต่อไปเยี่ยมกองถ่ายกันอีกครั้งที่ภูเขา ฉากนี้เป็นฉากที่ ลีแฮวู ต้องเข้าฉากด้วยอากาศ หนาวมากควันออกปากเลยนักแสดงทุกคนตั้งใจท่องบทถ่ายทำกันอย่างเต็มที่ท้าความหนาวกันเลยทีเดียว หมดเวลาเยี่ยมกองถ่ายกลับที่พักอีกวัน
มาถึงวันสุดท้ายพวกเรามีโอกาสไปจิบน้ำชาบ๊วยกับรองผู้ว่าฯ เมืองเจินจูกันด้วย ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปช็อปปิ้งกันที่เมียงดง โดยใช้เวลาเดินทางร่วม 3 ชั่วโมง และแล้วก็ได้เวลาโบกมือลากลับกรุงเทพฯ แล้วไว้รอดูกันว่าละครเสร็จสมบูรณ์จะออกมาเป็นอย่างไร ทางโมเดิร์นไนน์ทีวีจ้า...