
หัวอก 'แม่หวาย' เมื่อรู้ว่าลูกเป็นโรคแพนิค
"แม่หน่อง" ปัญชนิตย์ เธียรประสิทธิ์ คุณแม่ของ "หวาย" ปัญญริสา เปิดใจหลังลูกสาวออกรายการยอมรับว่าป่วยเป็นแพนิค จากการถูกบูลลี่ในวัยเด็ก
ทีมบันเทิง คมชัดลึก - หลังจากอดีตนักร้องสาว "หวาย" ปัญญริสา ออกรายการ "คุยแซ่บSHOW" ทางช่อง ONE31 รับว่าป่วยเป็นโรคแพนิค ที่เกิดจากปมถูกเพื่อนๆ แกล้งตอนวัยเด็ก
ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ "แม่หน่อง" ปัญชนิตย์ เธียรประสิทธิ์ คุณแม่ของ "หวาย" ปัญญริสา ถึงอาการของลูกสาวในตอนนี้
ถามถึงเรื่องที่หวายไปออกรายการหนึ่งแล้วเล่าว่าเคยโดนบูลลี่
“เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟมาก แต่จริงๆคนก็รู้แล้วนานแล้วนะ มันพักหนึ่งแล้วนะ ถ้าเป็นแฟนคลับก็น่าจะรู้นะ (หัวเราะ)”
คุณแม่เป็นห่วงน้องไหม
“ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ยังหาหมออยู่”
ณ ตอนนั้นน้องเป็นอย่างไรบ้าง
“ตอนนั้นไม่ค่อยดี (หัวเราะ) ก็ต้องดูแลเยอะเหมือนกันค่ะ ให้กำลังใจเยอะค่ะ ก็อยากจะบอกพ่อแม่ทุกคนให้ดูแลลูกดีๆแค่นั้นเอง”
พอเราทราบว่าน้องเป็นแบบนี้ แม่ดูแลน้องอย่างไรบ้าง
“อ๋อ ก็หาหมอเลย (หัวเราะ) เพราะจริงๆแล้วเนี่ยเราก็ดูได้แค่ขั้นตอนหนึ่ง เพราะจริงๆเราก็ยังไม่รู้แน่ชัด ว่าเกิดจากอะไร เรามารู้มีหลัง ก็ต้องมาให้คุณหมอดู แบบนั้นจะดีกว่า เพราะเราฟันธงไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะฉะนั้นให้ผู้เชี่ยวชาญดีที่สุด เขาจะสามารถทำได้ดีกว่าเรา”
มันรุนแรงขนาดไหน เราถึงพาไปหาหมอ
“ก็มีเป็นลมไปเลย ตอนนั้นอยู่กามิกาเซ่นะ ตอนนั้นเราก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็งงๆเหมือนกัน ตอนที่ถ่ายเอ็มวีก็ต้องมีพักแล้วก็กลับมาถ่ายใหม่อีกรอบในอีกวันหนึ่ง แต่ที่กองก็เข้าใจนะ”
ตอนนั้นเรามีถามลูกไหม ว่าเกิดจากอะไร
“ก็นิดๆหน่อยๆค่ะ แต่ก็หาหมอดีกว่า”
พอคุณหมอบอกว่าเรื่องเกิดจากตอนเด็กๆ คุณแม่รู้สึกอย่างไร เพราะเราไม่เคยรู้เรื่องเลย
“ตอนนั้นยังเดาไม่ได้ แต่ตอนหลังนี่พอรู้ แต่จริงๆแม่ว่าแม่รู้ก่อนหมอนะ คือมารู้ทีหลัง เพราะตอนนั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน คือรู้ว่าต้องมีอะไรที่ทำให้เขาเครียด แต่ยังไม่รู้สาเหตุเกิดจากอะไร ณ จุดนั้น แต่เราเป็นแม่ เราก็สังเกต”
ตอนเด็กๆน้องโดนเยอะขนาดไหน ที่เขามาเล่าให้แม่ฟัง
“ก็ตามที่ในรายการนะคะว่า เขาต้องไปกินข้าวในห้องน้ำ ก็น่าสงสารเนาะ”
น้องมาเล่าให้แม่ฟังตลอดไหม
“ไม่ๆ อันนี้คือทีหลังเลย ตอนนั้นไม่เลย”
พอเราทราบว่าลูกเป็นแบบนี้ เราเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูไหม
“ไม่เราเลี้ยงเหมือนเดิม เราก็ว่าเราเลี้ยงดีนะ (หัวเราะ)”
ในฐานะที่เป็นแม่ เราเครียดขนาดไหน
“แม่เป็นคนไม่เครียดนะ มันก็เลยเหมือนกับว่าเครียดกับไม่เครียดน่ะ”
เวลาโดนสังคมคอมเมนต์เยอะ เราให้กำลังใจลูกอย่างไร
“อย่าไปดูสิ อย่าไปดู แต่มันก็เป็นทุกคนนะ ไม่ใช่แค่น้อง แต่ดูแล้วก็เสียใจเวลาเจอคอมเมนต์ไม่ดี แต่ก็ห้ามให้ดูไม่ได้ ใครว่าอะไรก็ชอบดู”
เวลาน้องใส่ชุดว่ายน้ำ คนก็เข้าไปคอมเมนต์เยอะ
“อันนี้โตแล้ว ก็ยังโอเคหน่อย รับได้เพราะเขาโตแล้วไง แต่สมัยก่อนเด็กๆมันก็เนอะ”
แม่ไม่มีให้น้องเบรกเซ็กซี่ลงใช่ไหม
“ไม่มี เพราะเขาก็ไม่ได้ไปไหนแล้ว มีแต่ว่ายน้ำอยู่ที่ภูเก็ต ก็ปกตินะ ไม่มีส่งมาให้แม่สกรีนก่อน แต่แม่เห็นในไอจีแม่กดไลค์ (ยกมือทำท่ากดไลค์ หัวเราะ) แล้วก็บอกว่ารูปนี้ดีกว่านะ อะไรอย่างนี้ๆ เอารูปนี้โอเค แล้วก็สวยมาก (หัวเราะ)”
เรากดดันไหมเวลาลูกเจอคำวิจารณ์ในแง่ลบ ว่าลูกเราจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป
“ไม่อะ เขาโอเคๆ”
ตอนนี้ยังต้องดูแลเขาอย่างใกล้ชิดไหม
“ปกติค่ะ ปกติ (สามารถรับแรงปะทะจากกระแสต่างๆได้?) ก็จากนักข่าวมะกี้นี้ไง (หัวเราะ) มะกี้เขาก็ตกใจ เขาเป็นแพนิค เราก็ไม่มีอะไรนักข่าวเข้าใจ แต่ตอนนี้เขาก็มีทานยาด้วย แต่ก็ต้องดูว่าถ้าเจออะไรที่มันแรงไป ก็ต้องให้เขาถอยออกมา อย่างมะกี้ไง(หัวเราะ) “
แบบนี้ต้องรักษาอย่างไร
“ก็หาหมอค่ะ อย่างเดียวเลย หาตลอด ตอนนี้ก็ทำงานได้เหมือนเดิม”
มีข่าวมาว่าน้องจะแต่งงานแล้ว
“ยังๆ มีแต่พี่ศรีริต้าไงจะแต่งงาน พี่แหวนก็ไม่แต่ง อยู่กับพี่แหวน กับพี่อั้ม (หัวเราะ)”
มองเรื่องการแต่งงานของลูกกับแฟนคนนี้อย่างไรบ้าง
“ก็ไม่ได้มองถึงไหนเลย ยังไงก็ได้ ชิวๆ แบบว่าไม่ต้องจัดงานก็ได้ จัดเล็กๆน่ารักๆ เอาให้เขามีความสุข มีแค่คนใกล้ชิดพอ”
กับแฟนลูกคนนี้ แม่โอเคไหม
“โอเคค่ะ นิสัยดี แต่เราก็แล้วแต่เขา แต่แม่ก็ยังอยากให้เขาแก่กว่านี้”
แม่ห่วงไหม เพราะเวลาหวายมีแฟนก็ดูจะทุ่มสุดๆไปเลย
“ไม่อะ ก็ปกติทุกอย่าง แม่ชอบแฟนเขาทุกคนด้วย ก็จะเข้าใจอารมณ์ของเด็กๆ (ถ้าเขาแต่งตอนนี้แม่พร้อมไหม?) ไม่พร้อม (หัวเราะ) แต่จริงๆก็ได้แหละ แต่รออีกนิดก็ดีค่ะ”