บันเทิง

ทำความรู้จัก 'เฟิร์น' นางเอกของ 'ต่อ-ธนภพ'

ทำความรู้จัก 'เฟิร์น' นางเอกของ 'ต่อ-ธนภพ'

11 พ.ค. 2562

"เฟิร์น"นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล เปิดใจทุกเรื่องราวกว่าจะมาเป็นนางเอกของ "ต่อ" ธนภพ ลีรัตนขจร จนเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมากในตอนนี้


    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -  เรียกว่าเป็นนางเอกดาวรุ่งพุ่งแรงของช่วงเวลานี้ สำหรับ "เฟิร์น”นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล นางเอกสายเลือดใหม่ของ “ช่องวัน 31” กับการมาลงจอละครเรื่อง “หัวใจศิลา” ประกบ “ต่อ” ธนภพ ลีรัตนขจร จนโด่งดังเป็นพลุแตก “บันเทิง คมชัดลึก” มีโอกาสได้พูดคุยเปิดตัวของนางเอกคนนี้ว่าทำไมถึงมาเป็นนางเอกของต่อได้
 

    กระแสตอบรับละครเรื่อง “หัวใจศิลา” ดีมาก
 
   “ใช่ ดีมาก แฮปปี้ (ยิ้ม) ตอนแรกกังวลมาก สิ่งที่หลายคนถามคือการได้มาประกบพี่ต่อ อย่างแรกเลยคือพี่เขาไม่ใช่คนในบ้านเรา แล้วเขาพกดีกรีติดตัวมาเพียบ จากผลงานที่ผ่านมาๆ ของพี่เขา ที่เขาโชว์ฝีมือทางด้านการแสดงได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งตัวเราเองถือว่าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยได้โชว์ฝีมือเท่าบทเรื่องนี้มาก่อน อีกทั้งแรงกดดันไม่ได้มาแค่จากตัวงานอย่างเดียว แต่ยังมาจากคนรอบข้าง จากผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส ซึ่งเราก็กดดันเพราะว่ารู้สึกเขาค่อนข้างไว้ใจ และเชื่อใจที่เลือกเรามา จากการที่เราพัฒนาให้เขาเห็นว่าเราพร้อมกับละครเรื่องนี้ อันนี้ก็เป็นความกดดันส่วนหนึ่ง ความกดดันต่อมาคือเริ่มมีการปล่อยภาพออกสื่อ เริ่มมีคนรู้ว่าละครเรื่องนี้จะเกิดขึ้นว่าใครเป็นพระเอก ใครเป็นนางเอก ด้วยความที่พระเอกเบอร์ใหญ่ถูกไหมค่ะ เรียกว่าเบอร์ใหญ่มาก ทุกคนเชื่อมือพี่ต่ออยู่แล้ว พอเราที่เป็นนางเอกใหม่ ไม่คุ้นหน้า อาจจะเคยเห็นมาบ้าง ก็จะมีคำถามว่าได้เหรอ เหมาะเหรอ คือเป็นเสียงแบบนี้มาเยอะแยะมากมาย เหมือนเป็นแรงกดดันจากรอบข้าง จากคนอื่นที่คาดหวังกับผลงานชิ้นนี้ของเราว่าจะออกมาอย่างไง เพราะว่าเบอร์นักแสดงเรื่องนี้แต่ละคน ไม่ใช่แค่พี่ต่อเท่านั้น ทั้งพี่นุ่น (ศิรพันธ์) พี่แอน (สิเรียม) คือทุกคนเป็นที่รู้จักหมดเลย ยกเว้นเราที่ไม่เคยได้พูดถึง
 

 

   ความคาดหวังเลยสูงว่าได้พระเอกอย่าง “ต่อ” ธนภพ มาแล้วนางเอกมาจากไหน เป็นใคร ทำไมถึงเลือกนางเอก ... พูดตรงๆ นางเอกหน้าบ้านๆ นางเอกหน้าเหมือนตัวประกอบ นี่คือคอมเม้นท์ที่คนพูดถึงตอนที่มีการเปิดตัวละคร มีแรงกว่านี้อีก ถามว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ตอนแรกๆ เรายังไม่รู้สึกว่ามันมีผลกระทบต่อจิตใจถึงขั้นทำให้เราเสียใจ เพราะว่าหนูเป็นคนไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดนั้น หนูมีแรงพอที่จะรับมือกับอะไรพวกนี้ได้อยู่พอสมควร แต่พออ่านเรารู้สึกว่า เดี๋ยวเราจะทำให้ดู เหมือนเราคำวิจารณ์เหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันตัวเอง ว่าสิ่งที่คุณคิดมันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้ ซึ่งระหว่างนั้นเราก็ถ่ายไป จนกระทั่งวันที่มันออนแอร์จริงๆ ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะว่าเราเองก็ไม่เห็นว่าพอถ่ายออกมาแล้ว และมาตัดต่อออกมาเป็นยังไง พอมันได้เผยแพร่ออกมาแล้วมันดีกว่าที่คิด มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีกว่าที่คิด หลายคนเริ่มเปิดใจว่านางเอกเรื่องนี้เป็นใคร จนตอนนี้ละครดำเนินไปจนใกล้จะจบแล้ว เราภูมิใจมากๆ กับผลงานชิ้นนี้ของเรา ที่หลายๆ คอมเม้นท์ให้กำลังใจเยอะมาก สนับสนุนเราและยอมรับเราในฐานะนักแสดงคนใหม่ของวงการนี้เลย มันเลยเป็นเหมือนพลังงานที่ดีที่เราจะมาพัฒนาตัวเองต่อไป”

 

    คอยเช็คกระแสอยู่ตลอดเวลา
    “การที่เราเช็คกระแสตอบรับไม่ได้หาแค่คำชม แต่เรายังดูด้วยว่ามันยังขาดอะไรไปหรือปล่า หาข้อบกพร่องจากคนอื่นที่เขามองผ่านเข้ามา เพราะการทำงานเราต้องคอยสังเกตอยู่แล้วว่าอะไรไม่ดีตรงไหน บางทีเราอาจจะพลาดเล็กๆ น้อยๆ ไป ซึ่งตรงนี้สำคัญ”
 

 

ทำความรู้จัก \'เฟิร์น\' นางเอกของ \'ต่อ-ธนภพ\'

 

 

    ในตอนแรกตั้งความหวังกับเรื่องนี้ยังไง เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างของเรื่องมาสนับสนุนเรามากขนาดนี้
    “พูดตรงๆ เราก็คาดหวังให้มันดัง ต้องยอมรับว่าเราอยากให้ละครประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ในทุกๆ เรื่องที่เราแสดงและได้ร่วมงาน แต่กับเรื่องนี้เราค่อนข้างให้ใจเกินร้อย และค่อนข้างมีความคาดหวังสูง เพราะในนักแสดงจากที่เราเห็นการทำงานของทีมงาน จากการที่เราได้อ่านบท เห็นพัฒนาการของตัวละคร เราเห็นอยู่แล้วว่าเรื่องนี้ดี และเชื่อว่าคนจะต้องดู คนจะต้องรักละครเรื่องนี้ และทุกวันนี้เรารู้สึกได้เลยว่าคนดูรักละครเรื่องนี้ อยากที่จะติดตามเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งก็รู้สึกว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จมากๆ ทีเดียวเหมือนกัน”

 

    ในตัวบท “มินตา” ในเวอร์ชั่นของเฟิร์นเสน่ห์อยู่ตรงไหน
    “ทุกตัวละครเลยนะถ้าดูจะเห็นว่าทุกตัวละครจะอยู่กับความแค้น เรื่องราวที่ผูกติดยึดติดกับเรื่องราวในอดีต และพยายามที่จะทำลายคนรอบข้างเพื่อความสุขของตัวเอง แต่มินตาเป็นตัวละครเดียวที่ไม่คิดทำร้ายใครเลย และหวังว่าทุกคนหยุดทำร้ายกันเองได้แล้ว ตัวละครของมินตาเลยเหมือนเป็นแสงสว่างท่ามกลางความืดมน โดยเฉพาะกับพระเอกที่มีแต่เรื่องราวแค้นฝังใจ คนรอบข้างที่มองดูถูกผู้อื่น และคิดว่าตัวเองอยู่เหนือคนอื่นอยู่ตลอดเวลา มินตาเหมือนเป็นคนที่คอยเตือนสติคนอื่น”

 

    ถ้าให้มองคนอาจจะมองว่า “หัวใจศิลา” ก็เหมือนละครแนวน้ำเน่าเรื่องหนึ่ง แต่สำหรับเฟิร์นว่ายังไง
    “อย่างแรกที่จะบอกว่าคือเวอร์ชั่น 2019 ปรับบทเยอะมาก เพราะมันเกิดจากการที่ผู้กำกับ นักแสดง และคนเขียนบทมาคุยกัน แล้วมาแสดงความคิดเห็นใส่กัน บทเรื่องนี้โอเคเป็นละครน้ำเน่า แต่เป็นละครน้ำเน่าที่สมัยใหม่ และเกิดขึ้นในชีวิจจริง คือเป็นละครน้ำเน่าที่สะท้อนสังคมในอีกมุมหนึ่ง มุมของการดูถูกผู้อื่น สังคมของการคิดแต่จะแก้แค้น การใช้ความรุนแรง ครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบที่เกิดจากการกระทำของผู้ใหญ่ ส่งผลกระทบกับเด็กโดยที่ผู้ใหญ่ไม่เคยรู้ และไม่ได้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เด็กเขาได้รับจากการกระทำของผู้ใหญ่ หนูว่าเพราะแบบนี้ทำให้ละครเรื่องนี้เป็นที่ยอมรับ เฟิร์นเชื่อว่าละครเรื่องนี้จะพาคนดูไปในจุดที่หลายคนคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน”

 

 

ทำความรู้จัก \'เฟิร์น\' นางเอกของ \'ต่อ-ธนภพ\'

 

 

    เป็นนางเอกที่มักจะได้รับโอกาสดีๆ ตลอด
    “หนูมองว่าโอกาสที่ได้รับไม่ได้เกิดจากโชคช่วยหรือโชคดีอย่างเดียว บทหัวใจศิลาวันนี้จะไม่ตกเป็นของหนู เพราะว่าหนูไม่ได้ถูกเลือกมาให้เล่น มันเป็นการแคส การแข่งขัน เพื่อให้ได้มันมา เพราะฉะนั้นหนูคิดว่าที่ได้รับโอกาสมาตลอด มันก็เกิดจากหนูด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่เลยที่ทำให้ผู้ใหญ่เห็นว่า นอกจากเรามีความตั้งใจที่ดีแล้ว ยังมีความพยายามพัฒนาในทุกๆ วัน โปรเจ็คก่อนๆ ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้สร้างชื่อเสียง หรือเป็นที่ยอมรับมากนัก แต่ก็ไม่รู้สึกเสียใจ เพราะถ้าไม่มีเรื่องก่อนๆ ที่เล่นมา เราก็จะไม่ได้ฝึกฝนตัวเอง เรื่องนี้ก็เหมือนเป็นการลงสนามแข่งที่เป็นการวัด และมีเดิมพันค่อนข้างสูงมากเหมือนกัน เพราะจากโปรดักชั่น จากตัวนักแสดง ส่งมาขนาดนี้ ถ้ายังดันตัวเองไม่ได้ อันนี้ต้องคิดหนักแล้ว มันเหมือนเป็นปมอยู่ในใจหนูว่า ถ้ามาขนาดนี้แล้ว ยังไม่ได้รับการยอมรับ คือก็ต้องพิจารณาตัวเองแล้ว”

    ต้องทำการบ้านหนักแค่ไหน
    “หนูไปเรียนแอคติ้งเดี่ยว ปรึกษาครูที่สอน เพื่อสร้างตัวละครตัวมินตาขึ้นมาเลย ไม่ได้คิดเองคนเดียว เพราะว่าเรารู้สึกว่าไม่พอ เพราะด้วยประสบการณ์ของเรา การมองโลกอย่างที่บอกว่าเนื้อเรื่อง เรื่องนี้มันดาร์กมาก แล้วหนูกับมินตาเป็นอะไรที่ตรงข้ามกัน มีบางอย่างคล้ายกัน บางทีมีความรู้สึกเวลาอ่านบทว่ามินตาทนได้ยังไง มีคนแบบนี้ได้ยังไง รับเรื่องราวพวกนี้ได้ยังไง ทำไมถึงคิดได้แบบ แต่ถ้าเราลองค่อยๆ แกะเราจะรู้ว่ามันมีเหตุผลที่เป็นแบบนี้ แต่อยากจะบอกว่าให้ดูต่อไป ตัวละครตัวนี้จะมีการพัฒนาของตัวละครไปสุดเหมือนกัน”

 

    การมาแสดงเรื่องนี้ให้อะไร “เฟิร์น” บ้าง
    “เรื่องนี้ไม่ได้สอนแค่จากตัวละคร แต่จากการทำงานจากเรื่องนี้ สอนให้หนูอดทนมาก (ลากเสียง) อดทนและมองโลกในแง่ดีสุดๆ ปลงกับทุกสิ่งอย่าง เพราะว่ามันเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง อย่างแรกที่หนูต้องรับคือคอมเม้นท์คำวิจารณ์ และยังต้องทำงาน พร้อมกับแรงกดดันพวกนี้ คือออกจากบ้านปุ๊บต้องปล่อยวางทุกอย่าง ทุกความเครียด ความกดดัน และก็เป็นตัวละคร สิ่งที่อดทนคือ อดทนกับสภาพแวดล้อมต่างๆ อดทนกับตัวเอง สู้กับตัวเองว่าอย่ายอมแพ้ อย่าเพิ่งถอดใจนะ และอีกอย่างคือตัวละครสอนหนู ในหลายๆ ครั้งที่อ่านบทแล้วคิดว่า เออ...ทำไมเวลาเกิดเรื่องนี้ทำไมไม่เอาตรงนี้มาลองคิดดู เราสามารถเอาสิ่งนี้มาปรับกับชีวิตจริงได้ อย่างหนูกับมินตาต่างกันตรงที่ เพราะหนูก่อนหน้านี้ หนูไม่ได้เป็นสายยอมคน ยอมคนไม่ได้ ถ้าหนูไม่ผิด ถ้าหนูรู้สึกว่าหนูทำดีมากที่สุดแล้ว ถ้าใครมาว่าหนูจะรู้สึกโมโหมาก โกรธมาก แต่พอมาอยู่กับมินตามา 8-9 เดือน หนูซึมซับเขามาว่า หลายๆ ครั้งต้องมีสติ หลายๆ ครั้งต้องใจเย็นๆ แล้วลองพิจารณาทั้งหมดให้ดีๆ วันนี้ถ้าเราอยู่ท่ามกลางปัญหา แล้วเรายังมองไม่เห็นทางออก ให้เราลองเดินออกมา แล้วลองมองจากมุมกว้างๆ ว่าถ้าเราเป็นคนนอกของเรื่องนี้ จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ยังไง จะมีวิธียังไงที่ทำให้มันดีขึ้น หลายๆ ครั้งที่เราจะต้องอยู่กับปัญหา เราไม่สามารถออกจากปัญหาได้ทันที จะทำยังไงให้อย่างน้อยเรายังมีความสุขอยู่ท่ามกลางปัญหา อันนี้คือตัวละครสอนหนูค่อนข้างมาก”

 

 

ทำความรู้จัก \'เฟิร์น\' นางเอกของ \'ต่อ-ธนภพ\'

 

 

    มาพูดถึงการร่วมงานกับ “ต่อ” ธนภพ สามีแห่งชาติคนนี้หน่อย
    “สมกับฉายาค่ะ (หัวเราะ) พี่ต่อเขาจะมีวิธีเล่นออกมาให้คนดูไม่ทันรู้ตัวว่า ความร้ายของเขา แอบซ่อนความรักใส่เข้าไป คนดูเลยหลงรักเขาไง (หัวเราะ) เขาตั้งใจใส่ลูกเล่นพวกนี้เข้าไป การทำงานกับพี่ต่อ เขาเป็นคนน่ารัก แวบแรกที่ได้ร่วมงานกัน คือเรารู้จักเขาอยู่แล้ว เขาคือต่อ-ธนภพ พอรู้ว่าต้องร่วมงานกัน ร้องฮูววว!! เลยว่าเราจะทำงานกับเขายังไง เพราะเราไม่เคยต้องมาใช้เวลาร่วมกับเขามาก่อน จะจูนกันอย่างไง มีแอบคิดว่าพี่เขาจะดุไหม พี่เขาจะเครียดไหม ซีเรียสไหม โลกส่วนตัวสูงไหม เราจัดเข้าหาเขายังไง แต่ตรงกันข้ามเลย เพราะคุณธนภพเป็นคนที่เข้าหาคนอื่นเสมอ คุยกับคนอื่น แชร์ให้คำแนะนำกับคนอื่นเสมอ คือเขาไม่ใช่คนที่ว่าตัวเองเก่งแล้ว ก็จะทำของฉันคนเดียว แต่เขาแคร์ละครทั้งเรื่อง เขาอยากให้ทุกตัวละครมันดี อยากให้เรื่องทั้งหมดมันดีไปด้วยกัน เพราะเขาไม่ใช่คนที่เชื่อว่าเขาคนเดียวจะทำให้ละครดีได้ เขาเชื่อว่าเกิดจากทุกๆ ส่วนทุกๆ ฝ่าย ทำให้การทำงานด้วยกันมันแฮปปี้ หนูว่าการที่คนเห็นว่าเคมีได้ เพราะว่าเราไม่เกิดความเครียดที่ได้ทำงานร่วมกับเขา มีฉากอยู่ฉากหนึ่งคือพี่ต่อเล่นไปแบบลึกและไกลมา พอจบฉากหนูหันไปขอบคุณเขาเลย หนูบอกเขาว่าหนูขอบคุณ และขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เจอและได้มาร่วมงานกับพี่”

 

    เรื่องนี้เลิฟซีนเยอะมากด้วย
    “เยอะ หนูก็ไม่เคยเจอเลิฟซีนเยอะขนาดนี้มาก่อน แต่พอทำงานจริงๆ เราไม่ได้ไปโฟกัสว่า อุ้ย!! เลิฟซีนเยอะ มันไม่ได้ไปโฟกัสตรงนั้นอยู่แล้ว เพราะเรารุ้สึกว่าด้วยบท ด้วยการดำเนินเรื่องมันมีเหตุผลรองรับมากพอ แล้วเวลาเราเล่นเราก็ไม่ได้โฟกัสว่ามันเป็นเรา มันเป็นตัวละคร แล้วมันไม่ได้เป็นเลิฟซีนแบบกุ๊กกิ๊ก มันเป็นดราม่า เลยไม่ได้รู้สึกว่าเขินหรืออะไร คือเราก็เคารพซึ่งกันและกัน พี่เขาให้เกียรติเรา เราก็ให้เกียรติเขา”

 

 

 

ทำความรู้จัก \'เฟิร์น\' นางเอกของ \'ต่อ-ธนภพ\'

    นิสัยส่วนตัว “เฟิร์น” เป็นไง
    “หนูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ คุยได้กับทุกคน เป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ ไม่ใช่คนใจเย็น แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นคนใจร้อนมาก โตขึ้นมีสติมากขึ้น ยิ่งเราทำงานอยู่ตรงนี้เวลาทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีๆ เวลาโมโหก็ต้องตั้งสติดีๆ แล้วกัน ก็ค่อยๆ คิดว่าถ้าเราเผลอทำอะไรลงไปมันจะมีผลกระทบต่อเรายังไง เวลาทำอะไรหนูจะคิดถึงงาน คิดถึงสิ่งที่เราสร้างมา สิ่งที่เราอดทนมา อย่ามาพังกับแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนูเป็นคนที่แอบดื้อเหมือนกัน ด้วยความที่พื้นเพที่เราโตมา หรือเรียนมา เราอยู่กับสังคมวิศวะ แมนๆ กับเพื่อน คุยง่ายๆ ไม่จุกจิก ไม่เล็กๆ น้อยๆ ไม่เก็บให้รำคาญ

    แต่ถ้าเจออะไรที่ล้ำเส้นเรา หนูเป็นคนที่อดทนกับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ หนุจะรู้สึกว่าถ้าหนูป้องกันตัวเองแล้ว และป้องกันรอบข้างแล้ว หนูทำอย่างนี้ไม่เดือดร้อนคนอื่นนะ ทำอย่างนี้ดีกับคนอื่นนะ แต่ว่ามีคนมาล้ำเส้นพวกนี้ของหนู หนุจะค่อนข้างจะไม่ได้ หนูจะรู้สึกว่าคนเราจะต้องมีสิทธิของกันและกัน คนเราจะต้องรู้จักให้ความสำคัญของคำว่าเกรงใจ และการเคารพสิทธิของผู้อื่นให้มาก ถ้าเป็นเรื่องนี้หนูไม่ได้เลย ถ้ามาล้ำเส้นอะไรที่หนูรู้สึกว่าเกินไปแหละ จะมาอ้างว่าอยู่ตรงนี้ต้องรับได้ อันนี้ไม่ใช่แหละ คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติไหม แต่ถ้าหนูมองว่าคนแบบนี้เขาไม่สามารถเปลี่ยนทัศนคติตัวเองได้ ก็จบที่ตัวเรา ก็คือตัดว่าไม่เอา ไม่สนใจ ไม่ให้ค่าเลย หนูจะไม่ใช่สายโวยวายไปปะทะ ยกเว้นถ้ามาวุ่นวายกับชีวิตหนูเกินไป หนูก็จะไม่ยอม หนูไม่ใช่คนที่มีโลกส่วนตัว ไม่ได้หวงโลกส่วนตัว แต่สิ่งที่หนูหวงคือสิทธิส่วนตัว สิทธิที่มนุษย์ทั่วไปควรพึ่งมีแก่กันและกัน ไม่ล้ำเส้นกัน เช่น หนูว่าต้องเลิกได้แล้วกับการจะวิจารณ์รูปร่าง หน้าตาคนอื่น เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างหนูจะเจอบ่อยว่าเบ้าหน้าแบบนี้มาเป็นนางเอกได้ไง ทำบุญด้วยอะไรแบบนี้”

 

    แต่ก็ต้องยอมรับว่าการที่เราอยู่ตรงนี้ การถูกวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ
    “ใช่ มันจะมีความย้อนแย้ง แต่ว่าพอเราโตขึ้นเราก็จะรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เมื่อก่อนถ้าเราเจอคนแบบนี้ เราก็อาจจะเดินเข้าจัดการเขาเลยว่า มีปัญหาอะไรกับเราหรือเปล่า แต่พอเรามาทำงานตรงนี้ เราก็ต้องยอมรับที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ คือหนูเป็นคนที่รับคำวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่อะไรที่หนูรู้สึกว่ามันเป็นสิทธิพื้นฐานของคนเราที่เราไม่ควรทำ หรือไม่ควรที่ใครจะมาทำให้เกิดขึ้น เราก็จะมีอารมณ์ แต่เราก็จะไม่ไปแบบ... คือเราจะไปเสียเวลากับตรงนั้นทำไม มาอยู่ตรงนี้ผู้จัดการก็สอน คุณพ่อก็สอน ถ้าเขาสอนแล้วเราไม่ฟัง อันตราย เราก็มีวิธีการระบายด้วยการบ่นกับเพื่อน แต่มันจะมีจุดที่เสียใจ ร้องไห้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาเจอคำพูดโหดร้าย แรงกดดันอะไรขนาดนี้ อย่างตอนที่มาเล่นละครเรื่องนี้ เราเจอคำพูดที่แบบรู้สึกเลยว่า มันผิดมากเหรอที่นางเอกเรื่องนี้คือเรา ต้องสวยมากขนาดไหน ถึงจะมีสิทธิเล่นกับพี่ต่อได้ คำพูดพวกนั้นทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่า ว่าเราไม่มีค่าเหรอ เราผิดตรงไหน มันก็มีอ่อนแอ จนร้องไห้บ้าง”

 

 

ทำความรู้จัก \'เฟิร์น\' นางเอกของ \'ต่อ-ธนภพ\'

 

 

    มองอนาคตของตัวเองในวงการนี้ไว้อย่างไง
    “หนูอยากได้คำว่า “นักแสดง” เป็นอาชีพ อยากมีอาชีพเป็นนักแสดง ไม่ได้อยากมีอาชีพเป็นดารา สิ่งที่หนูคาดหวังกับตัวเองต่อจากนี้คือ เป็นนพจิราที่ดีขึ้น เป็นนพจิราที่คนแฮปปี้ขึ้น อยากจะส่งต่อความสุขให้คนดูต่อไป เพราะหนูเชื่อว่าสิ่งที่หนูทำอยู่มันเป็นการให้ เราทำให้คนดูมีความสุข นั่นคือสิ่งที่หนูมีความสุข ขั้นต่อไปที่ใหญ่กว่านี้ ก็หวังว่าตัวเองจะพัฒนาตัวเองต่อไป เป็นคนที่ดีขึ้น เก่งขึ้น และก็ได้รับโอกาสดีๆ ที่จะได้พัฒนาตัวเองต่อไป ฝันเล็กๆ ของคนเป็นนักแสดงคือจุดหนึ่งที่เราได้อยู่ในจุดที่เราได้รับรางวัล
    เอาจริงๆ นะหนูไม่เคยพูดที่ไหนเลย อาม่าหนูเสีย โดยครบรอบ 1 ปีที่เสียไปเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา หนูรักเขามาก ช่วงสุดท้ายของเขา เราไม่ได้อยู่ ตอนเด็กอยู่ด้วยกัน แล้วโตมาหนูย้ายไปอยู่กับพ่อ ก็มีความผูกพัน รักเขาเหมือนแม่ มีช่วงหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้เจอกัน แล้วหนูเริ่มเข้าวงการแล้ว เริ่มมีละครให้เขาเห็น และเป็นช่วงที่เขาเข้าโรงพยาบาล เขาดูละครหนู (น้ำตาไหล) มันเหมือนเขาได้เห็นเราโดยที่เราไม่ได้ไปหาเขาเลย (น้ำเสียงสั่นเครือ) แต่คุณอามาบอกว่า อาม่าดูละครเราตลอดดเลย ชอบมากที่ได้เห็นเราในทีวี ทุกวันนี้ถึงแม้เขาเสียไปแล้ว เหมือนลึกๆ ของหนูรู้สึกว่า (ร้องไห้) หวังให้เขาได้เห็นสิ่งที่เราทำตรงนี้ ทุกวันนี้ก่อนออกจากบ้าน ก็จะบอกเขาว่าไปทำงานแล้วนะ บางทีว่างๆ ก็คุยกับรูปเขา บอกเล่าสิ่งที่เราเจอ และอยากที่จะให้เขาได้เห็น เขาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้หนูต่อสู้กับทุกปัญหาที่เข้ามา เพราะอาม่าหนูเป็นคนอดทนมาก และก็สอนหนูเรื่องนี้ (ร้องไห้)”

 

 

ทำความรู้จัก \'เฟิร์น\' นางเอกของ \'ต่อ-ธนภพ\'

 

 


    เรื่องหัวใจกันบ้าง มีแฟนหรือยัง
    “ตรงมาก (หัวเราะ) เรื่องหัวใจตอนนี้ จริงๆ ไม่ได้อยากจะตอบเหมือนคนทั่วไป แต่ว่าตอนนี้หนูทุ่มเทให้กับสิ่งที่อยู่ตรงนี้มาก และก็ยังต้องแบ่งเวลาไปเรียนปริญญาโท เพราะฉะนั้นหนูไม่ไดโฟกัสกับเรื่องความรักมากขนาดนั้น แต่ถามว่ามีเพื่อนมีคนคุยไหม มันมี เพราะหนูคิดว่าถ้าเรามีเพื่อนดีๆ สักคนที่เขาคอยซัพพอร์ตเรา มันเป็นเรื่องที่ดี ใครๆ ก็อยากที่จะมีเพื่อนที่ดี คือหนูอยากเป็นนักแสดง หนูเลยอยากให้คนโฟกัสกับงานของหนูก่อนที่จะเป็นเรื่องอื่นๆ ใดของหนูมากกว่า หนูอยากให้คนโฟกัสกับผลงาน และอยากให้คนยอมรับในผลงานมากกว่า เพราะฉะนั้นก็อยากพิสูจน์ตัวเองให้ได้ก่อนมากกว่า ก่อนที่จะมีแฟน หรือตกลงปลงใจที่จะเปิดตัว หนูว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่หนูจะมาพูดถึงเรื่องนี้ อยากให้คนเสพหนูที่ผลงาน ยอมรับเราได้ ถ้าถึงวันนั้นมีคนที่เข้ามา อยู่และเข้าใจกับการทำงานตรงนี้ของเรา ค่อยว่ากัน”

 

    โจทย์ของเฟิร์นคือใครที่เข้ามา ต้องเข้าใจกับการทำงานตรงนี้ของเราให้ได้
    “ถูก เราทำงานตรงนี้ ไม่ได้มีเวลาเป็นเวล่ำเวลา สมมติว่าอยู่ๆ เราจะว่างเราก็ว่าง อยู่ๆ เราทำงาน ก็ทำทุกวัน ถ้าสมมติว่าเราไปโฟกัสกับเขาตรงนั้น คือเหมือนหนูก็ต้องมานั่งวางแผนเวลาว่าทำยังไง ให้ไปเจอ มันวุ่นวายเกินไป ตอนนี้อันดับหนึ่งคือเรื่องของงานและเรียน ถ้าสิ่งที่เข้ามา มาขวางทางเรื่องของงานและเรื่องของเรียน เราก็จะไม่ให้มาขวางทางเรา คือเราก็เป็นคนธรรมดานี่แหละ มันดีอยู่แล้วถ้ามีคนเข้ามาคุย แต่แค่ว่าเราไม่เอามาเป็นอันดับหนึ่งมากกว่า เพราะมันจะหลุดโฟกัส จะเสียโฟกัสที่เราตั้งใจไว้ เพราะเรามีเป้าหมายของตัวเอง”

 

    แต่ด้วยอายุของเรา ถ้าจะไม่มองตรงนี้เลย มันก็ดูเชื่อยาก
    “ใช่ มันดูไม่จริง พูดไปก็เหมือนโกหก หนูเข้าใจ คือเรามีคนที่มาเป็นกำลังใจ หนูเป็นคนมีเพื่อนเยอะ มันก็เหมือนเรามีเพื่อนที่ดี ทุกคนที่เข้ามาก็เหมือนเป็นเพื่อนที่คอยพูดคุยถามไถ่มากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเอาเรื่องนี้คิดเป็นอันดับหนึ่งว่า จะคบคนนี้ เปิดตัวคนนี้ เลือกคนนั้น หนูไม่ใช่คนที่คุยไปเรื่อย เพราะเป็นคนไม่ชอบคุยกับคนสุ่มสี่สุ่มห้า เลยทำให้คนที่คุยเลยเป็นเพื่อน ถ้าจะรู้จักกันก็จากการเป็นเพื่อนมากกว่า ประเภทที่จะมาจีบตรงๆ ตัดทิ้งไปได้เลย ไม่มีทางได้เข้ามา”

 

    สมมติแบบเดินมาบอกชอบ ส่งดอกไม้มาให้ทุกวันล่ะ
    “ไม่ค่ะทันที ไม่ค่ะ มันเป็นเพราะว่าหนูไม่อยากมานั่งรู้สึกว่า แค่มาทำดีแรกๆ คือคนที่จะเข้ามาคือต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อนกัน และรู้จักกันมาก่อน แต่ถ้าเข้ามาบอกว่าชอบครับ น่ารักจังครับ ไปเลยๆ กลัว ไม่รู้ทำไม กลัวไม่ชอบแบบนี้ คือจะมาส่งดอกไม้ หนูว่ามันเลี่ยน ดูเล่นใหญ่ไปหน่อย มีความกลัวนิดหนึ่ง (หัวเราะ)”
    เปิดบัญชีขึ้นชื่อนางเอกน่าจับตามองให้ “เฟิร์น” นพจิรา ได้เลย

 

 

ทำความรู้จัก \'เฟิร์น\' นางเอกของ \'ต่อ-ธนภพ\'