'ซิลวี่' ตัดผมเพราะคุณแม่ขอร้อง

         บันเทิง คมชัดลึก - เปลี่ยนลุคเป็นสาวเท่ห์จนจำแทบไม่ได้ สำหรับนักร้องเสียงดีอย่าง “ซิลวี่” ภาวิดา มอริจจิ ซึ่งนักร้องสาวออกมาให้เหตุผลในการตัดผมในครั้งนี้ว่า  

 

 

          “ที่ตัดผมเพราะผมเสีย ไม่มีอะไรมาก และแม่อยากให้ตัด แม่ทนไม่ได้ที่ผมแตกและกร้านมาก (หัวเราะ) ซึ่งพอเราถามที่กองละครว่าตัดผมได้มั้ย เขาก็คอนเฟิร์มว่าคาแร็กเตอร์เราตัดได้ เราก็ตัดเลย และทรงนี้ต้องอยู่ถึงเดือน ธ.ค. เพื่อความต่อเนื่องของละคร เราก็ต้องเล็มเรื่อยๆ ตั้งแต่เปลี่ยนทรงผมก็ดูเหมือนลุกส์แซบขึ้น เหมือนเจอทางของตัวเอง เราแค่มั่นใจมากขึ้น ยิ่งทรงผมทรงนี้ก็ยิ่งมั่นใจแบบทุกสิ่งที่เราถึงมันจะออกมาไม่ดีแต่เราก็จะเปลี่ยนให้มั่นใจได้ขึ้น เราจะไม่เก็บอะไรที่ทำให้เราไม่มั่นใจ มาดาวน์เราแล้ว เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว จะใช้ความคิดเราเองเพื่อเปลี่ยนให้มันดีขึ้น”

@ จุดเปลี่ยนมันเริ่มเมื่อไหร่?

          “เพิ่ง 2-3 ปีนี้เอง ครั้งแรกสุดเราไปงานริปเคิร์ล ที่ภูเก็ต เป็นงานที่ต้องใส่บิกินี และเราเป็นคนเดียวเลยมั้งที่อวบ คนอื่นผอมหมด แต่เราอยากไปไง ก็เลยคิดว่าเอาว่ะ ลองดู และเพื่อนเราไป ไหนๆ ก็มีเพื่อน ก็รู้ว่าต้องใส่บิกินีนะ เราทำใจนานมาก แต่พอไปถึงตรงนั้นจริงๆ เรารีบถอดแล้ววิ่งลงน้ำเลย(หัวเราะ) จริงๆ เราต้องไม่คิดอะไร ความคิดที่ว่ามองเราไม่ดี เขาไม่ได้มาพูดกับเรา แต่เราเอาความคิดคนอื่นมาคิดแทนเอง”

@ เหมือนปลดล็อกตัวเองไหม?

          “ปลดล็อกตัวเอง ปลดล็อกความคิดทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องบิกินีด้วย เรื่องวิธีการวางตัวหรืออะไรก็ตาม คาแร็กเตอร์ที่เปลี่ยนไปก็เอามาเสริมเรา”

 

 

@ เลยได้เห็นในไอจีค่อนข้าง So Hot บิกินีรัวๆ?

          “ใช่แล้ว แต่ช่วงที่บิกินีรัวๆ นั่นอยู่ที่ภูเก็ต พอดีเราไปสอนร้องเพลงที่โรงเรียนของพี่โดม ไหนๆ อยู่ที่ทะเลแล้ว ก็แฮปปี้เลย หลังๆ เราก็ไปแนวเฮลตี้ เพราะเรารู้สึกว่าเราผอมไม่ได้แล้ว อย่างให้เราออกกำลังกายหนักๆ ทำได้ แต่ให้เลิกกินเราทำไม่ได้ คือถ้าให้กินคลีนไปเลยหรือกินมื้อเดียวต่อวัน เราทำไม่ได้ แต่ถ้าให้กินเฮลท์ตี้บ้าง บุพเฟ่ต์อาทิตย์ละครั้งบ้าง อันนี้ไม่มีปัญหา ก็จะอยู่เท่านี้แหละ แต่ยังฟิตอยู่ และน้ำหนักก็จะประมาณนี้ จะอวบๆ แต่จะผอมไปเลยไม่มีทาง”

@ เคยผอมสุด น้ำหนักอยู่ที่เท่าไหร่?

          “60 กก. แต่ตอนนี้ประมาณ 68 กก. แต่เราพอใจตรงนี้ เราเลิกคิดเรื่องน้ำหนักไปสักพักแล้ว เพราะตอนที่ประกดเดอะสตาร์ เราหนัก 80 กก. ก็โดนสั่งลดน้ำหนัก จนเหลือ 60 กก. แต่เราไม่มีความสุขเลย เหมือนลืมไปเลยว่าเป็นใคร จนมาช่วงอายุ 18-19 ก็เข้าสู่ช่วงดาร์กของชีวิต ทำอะไรก็ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง เครียดทุกอย่าง เรียนด้วย ทำงานด้วย พอเหนื่อยก็ไปลงที่ปาร์ตี้แบบเสียคน หลงผิด เลยรู้สึกว่ามันทำให้เราไม่มีความสุข”

 

(ช่วงซิลวี่ ผอม)

@ แต่พอสวยแซบแบบนี้ มีหนุ่มๆ เข้ามาไหม?

          “ไม่มีเลย ฝรั่งก็ไม่มี แต่ถ้าเจอตามที่เที่ยวก็มีบ้าง แต่คุยขำๆ ไม่ได้ยุ่งกับเขา ภาพที่อัพลงโซเชียล คอมเมนต์ดีๆ มีเยอะ คอมเมนต์ไม่ดีก็มีเยอะ แต่เราทำใจแล้ว เพราะเวลาเราลงเรารู้อยู่แล้วว่า ไม่มีใครมาคิดเหมือนเราหรอก สมมติเรารู้สึกว่าสิ่งนี้เราแฮปปี้ของเราแล้ว แต่ก็จะมีคนที่คิดว่าสิ่งนี้แรงเกินไป เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับใครหรือเปล่า ก็ถูกของเขา เขามีสิทธิ์คิดได้ เราก็มีสิทธิ์คิดได้ แต่เราแค่อยากยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจของตัวเราเอง”

@ คำพูดบางคำ ที่เราได้อ่าน ทำให้เราดาวน์หรือนอยด์บ้างไหม?

          “ตอนแรกๆ ที่ลงรูปเลยจะมีคอมเมนต์เยอะมาก กับช่วงที่ไปเสม็ด อันนั้นรูปค่แนข้างแรง คนอาจจะหมั้นไส้ได้(หัวเราะ) แต่ส่วนมากเขาไม่ได้ติที่รูปร่างเราอ้วนนะ เขาจะเข้ามาบอกว่า นมแบน ตูดลาย คือพอเขาติเรื่องรูปร่างเราไม่ได้เพราะเรามั่นใจมาก เขาก็พยายามจะหาเรื่องอื่นมาพูด ซึ่งเราก็จะขำ แต่เราไม่ได้ใช้แอพมันคือธรรมชาติ”

 

 

@ ไม่รู้สึกเสียความมั่นใจ?

          “ไม่ค่ะ แรกๆ อาจจะเสีย แต่หลังๆ เราเปลี่ยนความคิดไปแล้ว ว่าเราไม่ได้ใช้แอพเพื่อไปลบ เห็นก็ถูกแล้ว ก็ยอมรับได้ เขาก็เข้าใจซูมนะ อุตส่าห์ซูมจนเห็นได้ แต่ไม่เป็นไร มันคือธรรมชาติ”

@ แต่ดาราบางคนมองว่าการใช้แอพตบรูปมันคือเรื่องปกตินะ?

          “อาจจะสำหรับคนที่ชอบแต่งภาพ แต่สำหรับเรา ไม่ชอบ ยิ่งพุงเป็นชั้นยิ่งชอบ มีอยู่นึงที่พุงเป็นชั้น แล้วมีคนเข้ามาบอกชอบเยอะมาก ที่เรากล้ายอมรับในตัวเอง และเราไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องไปเก็บชั้นพุงเพราะองค์ประกอบรูปมันสวยมาก ธรรมชาติ ส่วนความคิดแบบนี้เราได้มาจากการที่เราไปติดตามไอจีของนางแบบต่างประเทศ ที่เขามียิ่งกว่าเราอีก บางทีพุง 4-5 ชั้น แต่เขามั่นใจ แคปชั่นของเขาก็ยิ่งเสริม พอเราอ่านแล้วรู้สึกได้แรงบัลดาลใจนะ มันช่วยได้เยอะมาก เราก็อยากเป็นแบบเขาในด้านคนไทย”