'ลุลา' โพสต์ระบาย ยันไม่ได้เป็น 'ไบโพลาร์' 

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ทำเอานักร้องชื่อดัง “ลุลา" กันยารัตน์ สุดทนได้โพสต์ข้อความระบายความในใจผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังโดนชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เสียงการร้องเพลงมาตลอด 10 ปี จนเจ้าตัวคิดอยากจะเลิกร้องเพลงเลยทีเดียว ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอสาวลุลาเลยถามถึงเรื่องนี้

 

    "ไม่ได้อะไรค่ะ คือตั้งแต่ตุ๊กตาหน้ารถจนถึงทุกวันนี้ ยังมีคนที่พูดถึงเสียง เรารู้สึกว่ายังไม่ชินอีกเหรอ ก็เลยรู้สึกว่า 10 ปีแล้วไม่เป็นไร ขอสักครั้งหนึ่งแล้วกัน คือเราน่าจะเครียดจนไม่สามารถเก็บเอาไว้ ก็เลยคิดว่าบอกให้เขาเข้าใจดีกว่า เราร้องเดือนหนึ่ง 20-30 คอนเสิร์ต มันบั่นทอน เพราะว่าเราก็ใช้ชีวิตเหนื่อยอยู่แล้ว"

    รู้สึกยังไงที่คนยังมองว่า 10 ปีแล้ว เรายังดัดเสียงอยู่เลย
    "ตอนแรกเรารู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอก คนอื่นไม่รู้ ก็ไม่เป็นไร แต่มัน 10 ปีแล้วก็น่าจะชินได้แล้ว มันกดดันนะ ซึ่งเราเป็นคนที่อยู่ในภาวะกดดันได้ไม่ค่อยดี เลยอยากจะบอกเขา"

    คำไหนที่เรารู้สึกว่ามันทำให้เราหมดความอดทนแล้ว
    "เวลาเราออกเพลงใหม่ๆ มาก็มีคอมเม้นท์ว่าถ้าเกิดให้คนอื่นร้องน่าจะเพราะ เราก็เลยรู้สึกว่าก็มันเป็นเพลงของเราไง ก็เลยเครียดนิดหนึ่ง แต่มันก็ไม่ทำให้เราหยุด แต่มันทำให้ไม่ค่อยมีกำลังใจเท่านั้นเอง เลยบอกให้เขารู้ เพราะเราไม่ค่อยพูด เลยคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจมากขึ้น"

    ท้อไหม เจอแบบนี้
    "จริงๆ มันท้อมานานแล้ว หนึ่งคือเพราะว่าเดี๋ยวนี้ทำเพลงใหม่ก็ทำยาก สองแล้วเราเป็นศิลปินหญิงมันก็ยาก สามก็คือเวลาเราเล่นคอนเสิร์ตมันก็มีโจทย์เพราะคนดูสมัยนี้มันยากขึ้นทุกวัน เราก็เลยเครียด"
 

 

 

 

   ก่อนหน้านี้เรารับมือกับเรื่องนี้ยังไง
    “คิดว่ามันโตแล้ว ก็ควรจะเข้าใจได้ว่ามันเป็นแค่เรื่องหนึ่งที่ผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เวลาจะเป็นตัวบอกเลยว่าเราอยู่ที่นี่ได้นานเพราะอะไร แต่ว่าถ้ามันถึงจุดหนึ่ง แล้วเรารู้สึกแบบ 10 ปีแล้ว ไม่เป็นไรหรอก โพสต์ไปเถอะ เราก็อยู่ตรงนี้มานานพอที่จะเหมือนมันไม่ควรที่จะต้องอดทน มันอยากระบายบางเรื่องสักที”

    อยากบอกอะไรคนที่ไม่เข้าใจไหม?
    “เราคิดว่าถ้าเขาไม่ได้ติดตาม ไม่ได้รู้ลึก เขาคงยังไม่เข้าใจ แต่ว่าเราว่าน่าจะเป็นเรื่องของโซเชียลบูลลี่มากกว่า ที่เรารู้สึกว่าถ้าเราโดนหนักๆ น้องหลายๆ คนเราคงแย่กว่านี้ เราโดนแค่นี้เรายังเครียดหนัก ถ้าเราไม่ไหว เราก็บอกไม่ไหว แค่นั้นเอง แต่ว่าจากนี้ไป ก็คงต้องทำใจให้มากขึ้น เราก็ยังทำเพลงต่อไปเรื่อยๆ”

 

    หลังจากที่เราโพสต์ฟีดแบคกลับมายังไงบ้าง?
    “เหมือนเขาก็ไม่อยากให้เราสนใจ ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่เคยสนใจ เพียงแต่ว่าอายุงานเรามากพอที่อยากจะบอกอะไร ก็บอกให้ชัดเจนมากขึ้น”

    มีท้ายประโยคที่บอกว่าเราไบโพร์ล่า?
    “อ๋อ อันนั้นเราพูดคุยกับชมรมเรียบร้อยแล้วว่า ถ้าเกิดเรารู้สึกไม่สบายใจ ให้หาทางออกให้หาคนช่วยก็จบค่ะ”

    เรามีการบำบัดเรื่องนี้เหรอ?
    “ไม่ค่ะ แค่พูดคุยเพราะว่าเราบอกเขาว่าไม่สบายใจ ซึ่งเขาก็เข้าใจ เราก็เลยเหมือนให้กำลังใจกัน ถ้าเราเครียดก็โอเคเหมือนระบายออก ถ้าเขารู้สึกไม่สบาย เป็นโรคที่ไม่โอเคก็ให้หาคนช่วย เอาเป็นว่าเหมือนมีคนเป็นห่วงเราแค่นั้นเอง”

 

    เป็นชมรมที่เราเข้าไปเหรอ?
    “ไม่ๆ ค่ะ ใครก็ไม่รู้ เหมือนเขาห่วงว่าเราจะไม่สบาย เขาก็เลยเข้ามาถามว่าโอเคไหม เราก็บอกว่า เราโอเค เพียงแต่ว่าไปเขียนแล้วโดนใครเราก็ขอโทษ เพราะว่าตอนนั้นเราไม่โอเค เราก็ถึงโพสต์ไป คนที่เขาไม่สบาย เขาอาจจะรู้สึกไม่ดี เราก็เลยได้มีการพูดคุยไปแล้วว่า ขอโทษ แต่ว่าเราไม่โอเคจริงๆ พอเราได้ระบายออกไปแล้วเราหายแล้ว”

    ยืนยันว่า เราไม่ได้ออกจากวงการเพราะเรื่องแค่นี้?
    “เราคิดหลายครั้ง แต่ว่ามันยังมีไอเดียมีงานที่มันต้องอยู่ตรงนี้ต่อไปอีกเยอะค่ะ มันก็เลยเป็นอีกโมเมนต์หนึ่งที่เราไม่สบายใจค่ะ”