"เล็ก เดอะวอยซ์"จากลูกเลสู่แชมป์เสียงทะเลกว้าง ทางไกล

 

                   แต่การได้แชมป์งวดนี้นับว่าได้ทำให้รายการเดอะวอยซ์กลับมาเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้างอีกครั้ง โดยเป็นการพูดถึงติดสอยห้อยมากับเรื่องราวของ “ผู้ชนะ”

 

          อย่างที่รู้เขาคือ “เล็ก” พงศธร กำบัง ลูกทีมอายุ 24 ปี ของ โค้ชโจอี้ บอย ที่เพิ่งได้เป็น “เล็ก เดอะวอยซ์” ของประเทศไทยคนล่าสุด เรื่องราวของเขาไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

++

          แล่นใบขันแข่ง
          เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ซีซั่นที่ 7 เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ครั้งนี้มีโค้ชร้องเพลงและผู้คัดเลือกผู้เข้าประกวด 4 คน คือ “ก้อง” สหรัถ สังคปรีชา “โจอี้ บอย” เจนนิเฟอร์ คิ้ม และ “ป๊อบ” ปองกูล สืบซึ้ง ออกอากาศครั้งแรกวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 และทยอยแข่งขันในรอบ Blind Auditions จำนวนผู้เข้าแข่งขัน 61 คน

 

          “เล็ก” พงศธร กำบัง เข้าร้องเพลงในรอบนี้วันที่ 26 พฤศจิกายน ด้วยแนวเพลงลูกทุ่ง เพลง “อกหักเพราะรักเมีย” ของ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม”

          โค้ชทั้ง 4 คนหันมาเพื่อเขา แต่เล็กก็ตัดสินใจเลือก “โค้ชโจอี้ บอย” ผู้ซึ่งได้ถามเล็กก่อนตัดสินใจเลือกเขาในวันนั้นว่า “ความตั้งใจในการมาเข้าประกวดแข่งขันครั้งนี้คืออะไร?”

          เล็กตอบคำถามนี้ด้วยน้ำเสียงเหน่อแบบชาวเมืองเพชรอันเป็นเอกลักษณ์ และสายตามองย้อนไปถึงความหลังว่า

          “ผมเคยไปเล่นร้านอาหารที่เพชรฯ แล้วมีเสียงคนพูดแว่วเข้าหูผมว่า เสียงอย่างงี้...ไปไม่รอดหรอก ผมก็เลยจะลบคำดูถูกตรงนี้ครับ”

 

          หลังจากนั้นเล็กก็ใช้ไมค์และเสียงเป็นอาวุธในการฟาดฟัน ลบคำสบประมาทจนผ่านมาหมดในรอบต่างๆ

          รอบ “น็อกเอาท์” 21 มกราคม 2562 คัดจาก 61 เหลือ 48 คน จากนั้นจับคู่รอบละ 2 คน ร้องเพลงบนเวทีเดียวกันแต่คนละเพลงกัน แล้วตัดเชือกคัดออกกันทันที

 

          เล็กเป็น 1 ใน 32 คนที่ผ่านเข้ารอบนี้ได้ ด้วยเพลง “เปลืองน้ำตา” ของ “ติ๊ก ชิโร่”

          รอบ แบทเทิล  4 กุมภาพันธ์ 2562 ผู้แข่งขันจับคู่ร้องเพลงเดียวกันกับทีมเดียวกัน โดยรอบนี้คนหนึ่งเข้ารอบ อีกคนตกรอบ

          เล็กเอาชนะคะแนนโหวต  “เป็ด” มนต์สิทธิ์ สวนศรี หนุ่มนราธิวาส วัย 21 ในการแบทเทิล หรือดวลเพลง “เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดเลย” ของ “วงนูโว”

 

          เล็กจึงเป็น 1 ใน 16 ผู้เข้าแข่งขันที่เข้าชิงรอบตัดเชือก ซึ่งเป็นรอบการแสดงสด วันที่ 18 และ 25 กุมภาพันธ์ 2562

          18 กุมภาพันธ์ 2562 เล็กเป็น 1 ใน 8 ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ เอาชนะ “เต๋า ทัศนัย” จากทีมโค้ชคิ้ม วันนั้นเล็กร้องและโชว์เดี่ยวกีตาร์ในเพลง “บาดเจ็บ” ของ “พงษ์สิทธิ์ คำภีร์” ได้คะแนนโหวตถึง 62%

          ที่สุด 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศ 2 รอบ รอบแรกเล็กเลือกเพลง “รักเธอทั้งหมดของหัวใจ” ของ “วงพอส” ชนะผ่านเข้าไปเป็น 1 ใน 2 คนสุดท้ายแข่งกับ “นิสนึง อรรัศมิ์ดา” จากทีมโค้ชก้อง

          รอบสุดท้ายเล็กเอาชนะผู้เข้าแข่งขันสาวไปด้วยเพลงเดิมจากรอบ Blind Auditions “อกหักเพราะรักเมีย” ชนะเลิศไปด้วยคะแนนโหวต 86% จากผู้ชมทั่วประเทศ

+++

          เรือชีวิตหนุ่มชาวเล
          เพลง “รักเธอทั้งหมดของหัวใจ” เล็กไม่ได้ชนะด้วยน้ำเสียงเท่านั้น แต่มันกลั่นมาจากความรู้สึกที่ทุกคนสัมผัสได้ เพราะเล็กเพิ่งเสียคุณตาไปก่อนบันทึกรายการ เขาจึงถ่ายทอดมันออกมาอย่างตีโจทย์แตกกระจุย

          เขาเล่าว่า “ผมอยากร้องให้คุณตา ผมมาประกวดรายการนี้ ซึ่งผมรักตามาก และผมไม่ได้รดน้ำศพแก และก็ไม่ได้อยู่เผา ฟังพระแค่คืนเดียวเพื่อต้องมาขึ้นประกวด รู้สึกเราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ คือร้องเพลงนี้”

          ถามว่าเรื่องราวของ “เล็ก เดอะวอยซ์” มีประเด็นอะไรให้พูดถึงนอกจากความเป็นแชมป์ หรือภาพของหนุ่มที่มีรอยสักเต็มตัว แต่มีเสียงหวานจับใจแล้ว

 

          สิ่งนั้นก็คือเบื้องหลังของเขาซึ่งได้เล่าไว้ในรอบ Blind Auditions ว่า “ตอนนี้ออกเรืออยู่ ที่บ้านประกอบอาชีพประมงครับ…”

          เป็นคำตอบที่ทำให้หลายคนรวมถึงโค้ชทั้งสี่ร้อง “อื้อฮือ” ไปตามๆ กัน เพราะเขานั้นออกเรือจับปลาเป็นชาวประมงจริงๆ โดยเป็นกิจการของครอบครัว

 

          ก่อนจะมาเป็นแชมป์นั้น เส้นทางของเล็กเริ่มต้นที่มุมหนึ่งของ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี บ้านของเล็กแม้จะทำอาชีพประมง แต่เจ้าตัวก็มีความสนใจในการร้องเพลงเล่นดนตรีมาพอสมควร

          เล็กร้องเพลงประกวดมาตั้งแต่สมัยประถมโดยได้คุณครูพาไปตามเวทีต่างๆ จากนั้นก็เก็บเงินซื้อกีตาร์ตัวแรกในชีวิตตอน ม.3 ราคา 700 บาทจากร้านขายของมือสอง

          แต่ก็ยังไม่ได้เล่นอย่างจริงจังมากนักเพราะใจอยากจะเรียนต่อสายเทคนิค แต่บิดาไม่อนุญาตให้เรียนสายช่าง ด้วยกลัวว่าจะมีเหตุต่อยตีกันตามข่าวจึงพาเล็กออกเรือไปเรียนตำรานอกหนังสือด้วยกัน

          เล็กใช้ชีวิตเป็นหนุ่มประมงช่วงหนึ่งก่อนจะกลับมาเรียน กศน. จนจบม. 6 ก็เริ่มเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย

          ช่วงนี้เองที่เริ่มจริงจังกับการเล่นดนตรีมากขึ้นกับกลุ่มเพื่อนๆ จากนั้นก็ออกเล่นเป็นรายได้พิเศษตามร้านอาหารต่างๆ ตอนกลางคืน โดยเล็กเป็นนักร้องนำและเล่นกีตาร์ประจำวงอีกด้วย

          เล็กเล่าว่าช่วง 3 ปีก่อนหน้านี้ เขาเคยมาประกวดเดอะวอยซ์แล้วแต่ตกรอบ จากนั้นไม่รู้ด้วยเหตุอันใดเล็กตัดสินใจหยุดเรียน และบ่ายหน้ากลับบ้านหันหัวเรือออกทะเลจับปลาอีกครั้งแต่ก็ยังคงร้องเพลงตามร้าน

          ช่วงปี 2558 เปิดช่องคัฟเวอร์เพลงในยูทูบชื่อ “LEK MERRY” แต่ที่คัฟเวอร์ไว้มีอยู่เพลงเดียวและผู้ติตตามหลักพัน ชีวิตส่วนตัวเล็กมีครอบครัวแล้ว มีลูกสาวกำลังน่ารัก 1 คน

          จนเมื่อวันที่เขาได้ยินคำสบประมาทคำหนึ่ง เขาจึงกลับเข้าฝั่ง เพื่อเริ่มต้นแล่นใบในทะเลแห่งเสียงเพลงจนทำสำเร็จ

          หลังจากนี้ เมื่อเล็กมีนามสกุลใหม่ในวงการ กลายเป็น “Lek The Voice” และมีช่องในยูทูบด้วยชื่อเดียวกัน พร้อมผู้ติดตามหลักเกือบแสน (อัพเดท 6 มี.ค.2562) เส้นทางบทเพลงของเขาย่อมมีทิศทางชัดเจนมากขึ้น

          มุมหนึ่งเชื่อว่าเขาจะได้ทำตามความฝันที่อยากจะมีเพลงเป็นของตนเองและสัมผัสบรรยากาศของการร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต

          แต่เป้าหมายไกลกว่านี้ เล็กบอกว่ายังไม่ได้กำหนดตายตัว นอกจากแค่ร้องเพลงไปเรื่อยๆ หากลองแล้วไม่ใช่เส้นทาง การกลับไปสานงานต่อของทางบ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนั่นคือรากเกิด