บันเทิง

'เอ๋-ไพโรจน์' ชี้แจงหลังลูกโดนตัดชื่อจากทะเบียนบ้าน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เอ๋" ไพโรจน์ สังวริบุตร ยืนยันไร้ปัญหาครอบครัว หลังก่อนหน้านี้ลูกออกมาโพสต์ว่าโดนตัดชื่อออกจากทะเบียนบ้าน ลั่นเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-เป็นประเด็นร้อนเมื่อหลายเดือนก่อน หลังลูกนักแสดงรุ่นใหญ่ "เอ๋" ไพโรจน์ สังวริบุตร ออกมาโพสต์ว่าโดนตัดชื่อออกจากทะเบียนบ้าน ล่าสุด เจ้าตัว เดินทางมาร่วมงานเปิดสตูดิโอบันเทิงครบวงจร เอซสตูดิโอ ย่านคลองหลวง ของ "เป๊ก-ธัญญ่า" ก็ได้ตอบถึงประเด็นนี้ว่า

 

ถามถึงที่ลูกออกมาโพสต์ว่าโดนตัดชื่อออกจากทะเบียนบ้าน
   “เรื่องผ่านมาและจบไปแล้ว จากวันนั้นมาชี้แจงเขาไปก็จบ”
เห็นว่าเขาฟ้องศาล
   “เขาฟ้องก่อนที่จะเกิดเรื่องตรงนั้นอยู่แล้ว คำว่าฟ้องศาล คือ เขาไปฟ้องศาลปกครอง หมายถึงเขาแครงใจว่าส่วนราชการทำถูกระเบียบไหม ที่เอาชื่อเขาออกไปจากทะเบียนบ้าน เป็นความแครงใจของเขา พูดง่ายๆเหมือนไปถามว่าทำไมเอาออกมาได้ แต่ในทางกฏหมายแล้ว คำว่าเจ้าของบ้าน กับเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านเป็นคนละเรื่องกัน ตรงนี้ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน เพราะเขาฟ้องตั้งแต่ก่อนมีข่าวแล้ว”
หลังจากฟ้องศาลแล้วเป็นยังไงบ้าง
   “ไม่รู้เลย เพราะที่ฟ้องร้อง คือ ฟ้องศาลปกครอง ไม่ได้ฟ้องผม เพราะฉะนั้นผมก็ไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งสิ้น เขาแค่ถามว่าทำไมย้ายเขาออกไปอย่างนั้น ขอให้เขากลับมาได้ไหม”
มีคนจับผิดว่าเราเป็นคนเซ็นให้เขาย้าย
   “แน่นอน เราเป็นเจ้าของบ้าน จะเอาตัวเราเองไปเป็นเจ้าบ้าน จริงๆแล้วโดยหลักการเขาจะต้องย้ายเขาทะเบียนบ้านกลาง เราก็ไม่ได้ทำขนาดนั้นนะ แค่เข้าไปเป็นเจ้าบ้าน แล้วให้เขาเป็นลูกบ้าน ไม่ได้ดึงชื่อออก”

ปัญหาจริงๆ คืออะไร
   “เขาอยากเป็นเจ้าบ้าน(หัวเราะ)”

\'เอ๋-ไพโรจน์\' ชี้แจงหลังลูกโดนตัดชื่อจากทะเบียนบ้าน


คนมองว่าพ่อลูกแย่งสมบัติกัน 
   “อย่าพูดแบบนั้น เพราะทำให้ลูกเสียหาย ในสังคมไทยไม่มีใครเห็นด้วยหรอกที่ลูกจะมาอยากได้สมบัติของพ่อแม่ ในขณะที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ฉะนั้นอย่าพูดแบบนั้นสงสารลูก คนจะเข้าใจผิด เราก็ไม่รู้อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศเลยทำให้เขาโพสต์ออกไปแบบนั้น”
คนมองลูกอกตัญญูฟ้องพ่อ เรามองยังไง
   “คนแค่เข้าใจผิดใหญ่โตกันไปเอง เราก็แค่ชี้แจงให้เขาฟัง พอชี้แจงไปก็จบ”
ผ่านมา 3 เดือนแล้วได้คุยกับลูกไหม
  “ไม่ได้คุย คือ เขาอยู่กับแม่ เขาอยู่แล้ว เราก็อยู่ของเรา มีเรื่องทำมาหากันของเราไป ปกติก็ไม่ได้ติดต่อกัน นานๆถึงจะติดต่อที ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว ลูกคนอื่นๆก็เป็นอย่างนี้ ไม่ได้มีอะไรผิดแปลก”
คิดว่าปัญหานี้จะจบยังไง
   “ไม่รู้สิ เรื่องของเรื่องเราเป็นเจ้าของบ้าน อยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ปี 2532 ผ่านมา 30 แล้วที่เราเป็นเจ้าของอยู่ตรงนั้น จริงๆไม่ได้เป็นแบบถาวร เพราะยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ แค่นั้นเอง”
ก่อนหน้านี้มีชื่อใครเป็นเจ้าของบ้าน
   “คนที่มีที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ก็เป็นเจ้าของบ้านเท่านั้นเอง”

 

\'เอ๋-ไพโรจน์\' ชี้แจงหลังลูกโดนตัดชื่อจากทะเบียนบ้าน

จริงๆ ถ้าจะให้เขากลับมาอยู่ในทะเบียนบ้านได้ อาโอเคไหม
   “ก็ตอนนี้เขาก็ยังอยู่แล้ว นี่ไงถึงได้บอกว่ามันสับสนกันไปเอง ไปถามอะไรกันเกินกว่าเหตุ เราไม่ได้ย้ายเขาถึงขนาดออกไป ย้ายเขาจากเจ้าบ้าน ตัวเขาเองเคยเป็นเจ้าบ้านแล้วเอาเขามาเป็นลูกบ้านเท่านั้นเอง”
ไม่ได้บอกเขาล่วงหน้าว่าจะเข้าไป
   “เอ้า..ทำไมต้องบอกหล่ะ”
ปัญหาคือลูกอยากมีชื่อเป็นเจ้าของบ้าน
   “จริงๆ แล้วน้องพีทเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย เป็นเรื่องระหว่างคุณแม่เขา คือแต่เดิมเนี่ยเมื่อก่อนแต่งงานอยู่ด้วยกัน เราเป็นเจ้าบ้านอยู่ทางกรุงเทพฯ สร้างบ้านกี่หลังเราก็ต้องเอาคนอื่นไปใส่ชื่อไว้ เพราะโดยกฏหมายแต่ละบ้านต้องมีคนรับผิดชอบทเพราะไม่งั้นถ้าเกิดการส่องสุม ไปขาย ผู้ร้ายไปอยู่ ไปค้ายาเสพติด มันต้องมีคนนับผิดชอบ เพราะฉะนั้นต้องมีชื่อ คนทั่วไปเขาจะเข้รใจใจกฏหมายว่าคนเป็นเจ้าของบ้านกับคนที่เป็นเจ้าบ้านมันคนละเรื่องกัน แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าคุณแม่เขาคงไม่พอใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ ลูกชายเขาอยู่ด้วย แม่เขาก็คงไปบ่น เท่านั้นเอง ก็อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดเลย สงสารลูกเขา เพราะว่าเขาเข้าใจผิดก็ชี้แจงเขาไป ตั้งแต่วันนั้นพอมีข่าวมาก็ชี้แจงไปมันก็จบแล้ว ก็อย่าไปรื้อฟื้นอะไร”

\'เอ๋-ไพโรจน์\' ชี้แจงหลังลูกโดนตัดชื่อจากทะเบียนบ้าน


พอเกิดเรื่องขึ้นความสัมพันธ์ของพ่อลูกมันห่างเหินกันไหม
   “ก็เหมือนเดิมแหละ ไม่เห็นมีอะไร ก็อย่าพยายามให้พ่อลูกเขาแตกกันแล้วกันนะ (หัวเราะ) ไม่มีอะไรก็เหมือนเดิม เขามีธุระอะไรโทรมาเราก็คุยกับเขาเหมือนเดิม แต่ว่าสภาพมันเป็นแบบนี้กันอยู่แล้ว ลูก 3 คนก็เป็นแบบนี้ ต่างคนต่างอยู่กันไป เขาโตกันหมดแล้ว ถ้ามันมีอะไรที่ต้องเกี่ยวพันกัน เขาก็ติดต่อกันไปมา ก็คุยกันแต่นั้นเอง แต่ถ้าเขาไม่ได้ติดต่อมา  ก็ไม่มีอะไร อย่าไปซีเรียสอะไร เป็นความเข้าใจผิดกัน”
ตอนนี้อาก็ยังเป็นเจ้าบ้านกาญจนบุรี
   “เป็นสิ แต่เขาไม่ได้อยู่บ้านนั้นตั้งแต่ดลิกกัน ตั้งแต่ก่อนเลิกกันเขาก็ไม่เคยอยู่ แต่เขาก็ไปบอกว่าอยู่มาตลอด ซึ่งมันไม่ใช่ข้อเท็จจริง”
ตอนนี้บ้านก็จะทำเป็นสถานปฏิบัติธรรมด้วย
   “ยังไม่ได้เป็น เป็นดำริว่าถ้าต่อไปเนี่ยอยากจะทำให้เป็นสถานปฏิบัติธรรม เพราะแฟนใหม่เขาจะไปแนวนี้ เมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ไปบวชชีมาเดือนหนึ่ง เมื่อ 3 เดือนก็ไปเข้าคอร์สมา คือเขามีใจทางด้านเกี่ยวกับสมาธิ และเขารู้ว่าอันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคน เคยมาเอ่ยปากขอว่าถ้าต่อไปมันไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ จะทำสถานปฏิบัติธรรมได้ไหม ผมก็ยินดี เพราะถ้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อจิตใจของคนทั่วๆไป ก็ไม่มีอะไรที่จะขัดข้องแค่นั้นเอง ยังไม่ได้เป็น”

\'เอ๋-ไพโรจน์\' ชี้แจงหลังลูกโดนตัดชื่อจากทะเบียนบ้าน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ