'เปรี้ยว-ทัศนียา' กับบทนางเอกที่ไม่ใช่นางฟ้า

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - ถือเป็นการเปิดศักราชอย่างสวยหรูของวิกหมอชิต ที่ละคร “สารวัตรใหญ่” ทำเรตติ้งสูงสุดกว่าทุกช่องจนใกล้แตะหลักสิบเข้ามาทุกที ซึ่งนางเอกของเรื่องอย่าง “เปรี้ยว” ทัศนียา การสมนุช ที่ได้มานั่งคุยกับ ทีมบันเทิง คมชัดลึก ได้เผยความรู้สึกถึงความสำเร็จของละคร และการแสดงเรื่องนี้ให้ฟังว่า
 

    @@ ความดังของ “สารวัตรใหญ่”
    กระแสตอบรับละคร “สารวัตรใหญ่” เป็นอย่างไรบ้าง 
    “รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เราไม่ได้คาดหวังไว้ขนาดนี้ พอเลขมาแบบนี้เราเลยดีใจมาก จริงๆ แล้วละครเรื่องนี้เราถ่ายทำเสร็จไป 1 ปีครึ่งนะ เกือบ 2 ปี พอละครจริงๆ เราก็รู้สึกแบบเนิบๆ ว่าละครจะออนแล้วหรือ แต่ว่าตอนที่ถ่ายทำเราก็รู้สึกนะว่ามันสนุก ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีนะ แล้วพอละครออกอากาศปุ๊บ อีกวันหนึ่งเราก็ต้องมาลุ้นเรตติ้งว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ตัวเราเองก็ยังไม่เคยเล่นละครบู๊ ก็เลยรู้สึกว่ามันจะออกมาในแนวทางไหน คนดูจะชอบไหม แต่ว่าตอนออกอากาศเราได้ดูในทีวีนะ แล้วก็ได้ดูในไลฟ์สดด้วย คนดูในไลฟ์เยอะมากเลยนะ เป็นหมื่นเลย แล้วพอเรตติ้งออก ตัวเลข 6.9 เยอะมาก ในตัวเลขละครออกอากาศตอนแรก ถือว่าเยอะมากจริงๆ ซึ่งเราไม่คิดว่ามันจะไต่สูงขนาดนี้ ทางผู้จัดบอกว่าเรตติ้งไม่ต่ำกว่า 5 ก็ดีใจแล้ว แต่นี่มันมาสูงกว่าที่คิด ก็เลยเป็นเหมือนฟื้นคืนชีพตัวละครขึ้นมา ทุกคนก็กระปรี้กระเปร่าและอยากดูละครตอนต่อไปเร็วๆ ลุ้นว่าเรตติ้งตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร”

 

    กระแสมาถึงตัวเราอย่างไรบ้าง
    “วันที่ออนวันแรกเพื่อนยังไม่ได้ดูอะไรเท่าไร เพราะว่าตัวเราเองก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าละครออกอากาศตอนแรกนี่นะ โทรไปบอกเพื่อนตอนที่ละครฉายไปสักพักหนึ่งแล้ว เพื่อนก็ดีใจที่ละครเราออน จะได้ให้คนดูเห็นหน้าเรา จะได้ไม่หายไปนาน คนรอบข้างก็บอกกับเราว่าเห็นละครของเราออกอากาศอยู่นะ จริงๆ คาแร็กเตอร์นี้เหมือนจะไม่มีอะไรนะ แต่ว่าจริงๆ แล้วมีนะ ฉากที่เราอยู่ในสมาคมแม่บ้านตำรวจ คนที่เป็นเมียตำรวจจะบอกสอนเราว่าเราจะเข้าสังคมแม่บ้านตำรวจอย่างไร เราต้องทำตัวอย่างไร ประจบอย่างไร แต่ว่าตัวคำแพงเหมือนเป็นคนที่มีความดีอยู่ในตัว เราฟังนะแต่ว่าไม่เห็นด้วยกับเขา เราไม่ได้ตอบโต้ด้วยกิริยาท่าทาง เราฟัง แต่ว่าเราก็บอกว่าอะไรที่เราทำได้ ก็จะทำ อะไรที่พี่เอส สามีเราเห็นด้วย เราก็จะทำ คือตัวละครเราจะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นเรื่องคาแร็กเตอร์ของคำแพง คือเปิดเรื่องมาเป็นภรรยาของสารวัตรใหญ่แล้ว ก็ค่อนข้างโตกว่าอายุของเราเหมือนกัน ค่อนข้างเยอะ ตอนไปเล่นแรกๆ เราก็นึกไม่ออกว่าเล่นเป็นภรรยาต้องเป็นอย่างไร เพราะเรื่องอื่นคือเป็นหนุ่มสาว พบกัน เจอเรื่องราวแล้วถึงแต่งงานกัน แต่ว่าอันนี้ตอนแรกคือเป็นภรรยา

 

        แล้วคำว่าภรรยา มันมากกว่าคำว่าแฟน แล้วอันนี้คือเป็นภรรยาของตำรวจด้วย เราก็ต้องทำการบ้าน เราก็โชคดีที่ได้เล่นกับพี่เอส พี่เอสเขามีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก เขาพูดจาฉะฉาน มีความเป็นตำรวจจริงๆ คาแร็กเตอร์เขาได้ องค์ประกอบโดยรวมคือสารวัตรใหญ่ คือพี่เอส พอเรามาเล่นกับเขาเราก็ต้องปรับตัวเข้ามาหาเขา เพราะว่าเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ว่าหนูยังเด็กอยู่ เราก็ต้องทำตัวไม่ให้เด็ก คาแร็กเตอร์ที่ออกมาจะนิ่งๆ แต่ว่า มีความคิด มีอุดมคติ มีอุดมการณ์ของตัวเอง”

 

 

    ภาพคำว่าคุณนายตำรวจ ตอนก่อนเล่น กับหลังเล่น เหมือนกันไหม
       “ไม่เหมือนเลย ในเรื่องบอกเลยว่าคำว่าคุณนายตำรวจในเรื่องเขาเป็นอย่างไร เขาจะมีความอู้ฟู่ คุณนายมาก ชอบออกงานสังคม ชอบของฟุ่มเฟือย แต่ว่าคำแพงจะเป็นเหมือนแกนนำเมียตำรวจให้แก่คนอื่นๆ เหมือนเป็นช้างเท้าหลังที่มั่นคง มีความเข้มแข็ง ยืนด้วยลำแข้งตัวเองได้ คำแพงจะหางานทำ หารายได้เข้าครอบครัว เพราะว่าเงินเดือนข้าราชการของสามีก็ไม่ได้เยอะ จะมีเรื่องของการทุจริต ในเรื่องจะสื่อสารว่า คำแพงเป็นช้างเท้าหลังที่ดี เพราะว่าเราทำงานหาเงินเข้าบ้าน และเป็นแกนนำให้เมียตำรวจด้วยให้ไม่อยู่นิ่ง อยู่เฉย เพื่อที่สามีของเราจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไม่กังวลว่าเงินในบ้านจะพอใช้ไหม”

 

    @@ ชีวิตในวงการของ “เปรี้ยว”
     เหมือนรู้จักวงการนี้มากขึ้น
    “ใช่นะคะ ก็เหมือนรู้จักมากขึ้นได้รู้อะไรมากขึ้น ว่าการใช้ชีวิตของสมาคมเป็นอย่างไร ตำรวจที่เขายังไม่ได้ยศสูงมาก จะมีเส้นทางทำงานอย่างไร กว่าจะเลื่อนขั้น มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันต้องทำงาน ต้องต่อสู้กับใครๆ หลายอย่าง”
    ตอนนี้มีผลงานอะไรอีก
    “เพลงรักเพลงปืน ถ่ายเสร็จแล้ว ปิดกล้องไปแล้วค่ะ ละครที่มาใหม่ยังไม่มี ตอนนี้รออยู่”
  

 

 

    สารวัตรใหญ่กับเพลงรักเพลงปืนเป็นละครแนวใกล้กันไหม
    “ถ้าบู๊ ก็เทียบกันไม่ได้นะ ถ้าสำหรับเราเรื่องสารวัตรใหญ่ เราบู๊น้อย จับปืนน้อย แต่เรื่องเพลงรักเพลงปืน เราเต็มที่เลย ยิงกันหูดับ ซึ่ง 2 เรื่องนี้ช่องส่งมาให้ ปีนี้น่าจะเป็นปีที่เห็นผลงานเราบู๊สนั่น(หัวเราะ) ติดต่อกัน จากที่ปีที่ผ่านมามีเพลิงพระนาง ระบำมาร ที่เป็นดราม่า อารมณ์ออนต่อกันทั้งคู่  ถามว่าเลือกเล่นบทที่หลากหลายไหม ในใจเราก็คิดไว้แบบนี้นะ ถ้าเราได้เล่นบทที่หลากหลายไปเรื่อยๆ ก็คงสนุกดีนะ ได้ท้าทายตัวเอง ได้พัฒนาตัวเอง ได้พัฒนาเรื่องต่างๆ ให้เรามีศักยภาพในตัวเองมากขึ้น อย่างส่วนตัวชอบบทแบบระบำมาร เพลิงพระนาง จริงๆ ชอบเกือบทุกเรื่องที่ได้เล่นเลย เพราะว่าเวลาเราเล่นแล้วเราอิน มันจะสนุก เราจะรู้สึกกับมัน เราจะรู้สึกกับตัวละคร ถ้าถามว่าชอบที่สุดคือเล่นเป็นนางเอก 2 คน เหมือนเราได้แสดงหลายอารมณ์ จริงๆ นางเอกคือนางเอก นางเอกคือคนดี แต่ว่ามันอาจมีด้านมืด นางเอกสู้คนมันเหมือนเรียลขึ้น จริงขึ้น เหมือนชีวิตจริง ดูจริงมากกว่าแบบนางเอกสุด”
    

 

 

 

    ไม่ได้ยึดติดว่านางเอกต้องเป็นนางฟ้า
    “ไม่ๆๆ ชอบแบบสู้ เพราะว่าหน้าหนูจะให้ไปแบบเรียบร้อยก็ดูจะไม่ใช่ทาง เราว่าด้วยคาแร็กเตอร์ของเรา มันก็ต้องส่งเสริมกับบทที่เราจะเล่น เพราะมันจะส่งผลต่อความเชื่อที่คนดูดูด้วย หนูเป็นคนโชคดี ต้องขอบคุณ ผู้กำกับ ผู้จัด และนักแสดงทุกคนที่ได้เล่น เรารู้สึกว่าเราได้เล่นกับนักแสดงที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการทำงาน มืออาชีพ ทุกคนส่งอินเนอร์มาให้เรา เรารู้สึกว่าเขาส่งมา เราก็ต้องส่งกลับไปให้เขา เราลงเรือลำเดียวกัน อาดวงดาวบอกว่า เราเล่นละครกับใครก็แล้วแต่ เราจะต้องทำให้คนนั้นรู้สึกกับเราให้ได้ รู้สึกจริงๆ เพราะว่าเราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะ ถ้าสมมุติฉากร้องไห้ถ้าหนูร้องอยู่คนเดียว แล้วตัดไปที่พระเอก ถ้าเขาไม่มีอินเนอร์เดียวกับหนูมันก็ไม่ได้ค่ะ ถ้าพระเอกยืนนิ่งมู้ดมันหายไปแล้วนะ เราและเขาต่างคนต่างต้องส่งอารมณ์มาให้กันและกัน ถ้าทุกอย่างไปด้วยกันหมดจะทำให้ละครน่าดู ละครดี ทำให้คนชื่นชมทั้งตัวเรา และนักแสดงที่แสดงร่วมกับเรา"

 

    คนชมว่าเป็นนางเอกมากฝีมือคนหนึ่งของช่อง จากบทบาทการแสดง
       “ดีใจนะ ดีใจที่แฟนละครเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าเราได้บทที่มันรันต่อไปเรื่อยๆ ไม่เหมือนเดิม เมื่อก่อนไม่เคยบู๊ก็มาบู๊ พอมาเล่นบู๊เราก็ได้แฟนละครบู๊มา ถือว่าเป็นฐานแฟนคลับที่ดีของเรา อย่างคนที่ชอบละครบู๊อย่างเดียวแล้วเขามาดูเรา ก็อาจชอบเราในการเล่นแบบนี้ และอาจจะชอบเราและตามไปดูละครเรื่องอื่นๆ ของเราด้วย และทำให้คนดูเปิดใจมากขึ้น มากกว่าจะตัดสินว่าฉันชอบละครแบบนี้ ถ้าเขาชอบในตัวหรือคนอื่น เขาก็อาจจะตามไปดูละครแนวอื่นที่ไม่ใช่บู๊ก็ได้ ที่เขาอยากดู แต่ในทุกๆ ความสำเร็จจากละครเรื่องที่ผ่านมา มันไม่ได้เป็นตัววัดความนิยมในเรื่องต่อไป  เลยไม่อยากใช้คำว่าคาดหวัง เพราะมันจะกดดันตัวเอง เลยไม่อยากคาดหวังแล้วกัน เหมือนเราแค่อยากรอลุ้น ว่าจะเล่นเรื่องอะไร ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะได้เข้ามา เพราะว่าเรื่องอะไรเราก็แฮปปี้ ถ้าหากว่าเราอินกับตัวละคร เรื่องอะไรก็ดี แต่ว่าไม่ว่ายังไง เรื่องอะไร ทุกครั้งก่อนละครออกอากาศเราจะลุ้นมากว่าคนดูจะชอบไหม ลุ้นทุกครั้ง ไม่ว่าจะเล่นละครเรื่องอะไรก็แล้วแต่ อย่างพอเราเล่นร้าย เราก็ลุ้นว่าคนดูจะชอบไหม เราเล่นถูกทางไหม คนดูจะอินกับที่เราเล่นไหม ถ้าคนดูชอบเราจะดีใจมากเลยนะ"

 

 

    @@ มาถามถึงเรื่องหัวใจกันบ้าง
    หัวใจเป็นอย่างไร
    “ไม่มีอะไร ยังโสดเหมือนเดิม ถามว่ามีคนเข้ามาไหม ถ้าบอกไม่มีจะเชื่อหนูไหม (หัวเราะ) คือมีเข้ามาเรื่อยนะๆ มีคนเข้ามาจีบ แต่ก็คือจีบไง ยังไม่ได้มีแบบที่เรารู้สึกว่าอยากพัฒนาเขาจากที่จีบอยู่เป็นคนที่คุยด้วย"

    จีบเปรี้ยวยากไหม
    “ยากนะ (หัวเราะ) คนที่เข้ามาต้องเป็นคนที่เข้าใจในการทำงานของเราอันนี้สำคัญมากๆ ถ้าเกิดเขาไม่เข้าใจก็คุยกันยากนะ เราทำงานไม่เป็นเวลา ก็ต้องดูว่าคุยกันรู้เรื่องไหม เพราะเราว่างแค่ตอนนี้นะ ไม่ใช่มาบอกว่า ทำไมเราหายไป คือเราต้องถ่ายละคร เราต้องอ่านบท เราเหนื่อยเราอยากพัก เขาก็ต้องมีความเข้าใจ และให้เกียรติ ที่ผ่านมาก็มีคนเข้ามา แต่ว่าแค่ความเข้าใจไม่พอ ต้องคลิกกันด้วย”

    หรือเพราะเราอายุยังน้อย
    “ใช่ ก็ยอมรับว่ามีกำแพงส่วนหนึ่งสำหรับเรื่องความรัก ที่บ้านเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเราเป็นคนที่มีกำแพงในตัวเอง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีมุมของตัวเอง เขาก็ไม่เข้ามาถามหรือว่าอะไรกับเรามากมาย เพราะที่บ้านเขารู้ว่าเราไม่ชอบอะไรที่มันกดดัน แต่ว่าเราก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไรนะ แค่ตอนนี้เรายังสนุกกับการทำงาน การได้เจอเพื่อน เจอครอบครัว ยังโอเคกับตรงนี้ มีคนเข้าใจเราก็คุยนะ ถ้าสมมุติว่า ไม่ได้เป็นแฟนกัน เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้”

    สวย คม มากความสามารถในแบบฉบับ “เปรี้ยว” ทัศนียา 

 

 

 

เรื่อง เมธาวี ดีมี
ภาพ รชานนท์ อินทรักษา