'วาววา' ยังรักวงการ หายหน้าแค่ไปพัก

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก - หายหน้าหายตาจากวงการไปพักใหญ่ จนหลายคนคิดว่าดาราสาว "วาววา" ณิชารีย์ จะหันหลังให้กับวงการบันเทิงซะแล้ว หลังจากเจอมรสุมข่าวมากมาย งานนี้มีโอกาสเจอสาววาววาจึงถามถึงเรื่องนี้  
 

    หายหน้าหายตาไปเลย
    "หายไปนิวซีแลนด์ ไปเรียนภาษา เรียนขี่ม้า เรียนเต้นรำ ที่เลือกไปเรียนที่นั่นเพราะว่าชอบอากาศ เป็นประเทศที่อากาศดี ธรรมชาติสวย ที่ผ่านมาก่อนที่จะไปเรียนก็ทำธุรกิจ แล้วตอนนี้น้ำเต้าหู้โซยังก็เข้าขายตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ไปแล้วทั่วประเทศ จากธุรกิจโฮมเมดที่บ้านคั่นกันเอง ก็ขยายตลาดไป แต่ยังไม่ถึงขั้นส่งออก ก็พยายามทำให้มาตรฐานเราถึง ตอนนี้เราก็มีโรงงานของตัวเอง ก็ค่อยๆ เติบดต แล้วที่ไปนิวซีแลนด์ เพราะจะเริ่มธุรกิจอีกอย่างหนึ่งเป็นเครื่องดื่ม สปาร์กกิ้ง เป็นเฮลตี้ดริ๊ง 

    ซึ่งที่เราหายหน้าหายตาไป ก็แจ้งกับผุ้ใหญ่ทางค่าย ก็ขออนุญาต เพราะว่าก่อนหน้านี้เราก็ทำงานเต็มที่ เวลาเราเล่นละคร 2 เรื่องก็เกือบ 7 วัน เพราะช่วงที่ผ่านมาเรามีเวลา และธุรกิจเราก็ค่อยๆ เติบโต เราเลยขออนุญาตไปดูแลแปบหนึ่ง  พอเริ่มกลับมารับละครก็เป็นช่วงที่รอบท รออะไรต่างๆ ก็เลยบินไปเรียน"

    พอหายไป หลายคนก็บอกว่าเราออกจากวงการ
    "เรียกว่าเป็นช่วงพักหายใจ ไปใช้ชีวิต จังหวะมันดีด้วยแหละ เพราะเราก็กลับมารับละครสักพักแล้ว แต่ว่ารอบท และด้วยมันมีเวลาเหลืออยู่จากการที่เราทำธุรกิจก็ไปพัฒนาตัวเอง แต่ด้วยเวลาต่างๆ มันเลยดูเหมือนพักนาน บางทีเราก็คาดเดาไม่ได้ ถามว่ากลัวไหม หายไปนานๆ คนอาจจะลืมเราไปแล้ว การจะกลับมาเป็นแบบเดิมก็ยาก คือจะบอกว่ายังไงดีการที่เรามาถึงจุดๆ นี้ก็ไม่ค่อยกลัวอะไรแล้ว เพราะว่างานในวงการก็เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ จริงๆ มันก็ทุกอย่างแหล ะ ธุรกิจก็เป็นสิ่งที่เราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ สิ่งที่เราทำได้คือเราทำดีที่สุดตลอด ทุกครั้งที่เราได้รับโอกาสก็ทำให้ดีที่สุด คือเราไม่ได้มองในจุดที่ว่าเราหายไป หรือเรากลับมา เราคิดว่าแต่ละช่วงชีวิตมันไม่เหมือนกัน มันก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งของชีวิตกับการที่เราไปเที่ยวบ้าง ไปค้นหาตัวเอง หรือว่าทำธุรกิจที่เราชอบ มองว่าเป็นจังหวะชีวิตของแต่ละคน"

    ได้ไปค้นหาตัวเองได้คำตอบกลับมายังไงบ้าง
    "ได้คำตอบกลับมานะว่า บางทีเราอยู่ที่นี่ เราเป็นคนที่ผู้คนรู้จัก ความสุขของเราก็ยาก เพราะว่ามันต้องขึ้นอยู่กับคนหลายๆ คนว่าเราพูดแบบนี้เขาจะชอบเราไหม แต่งตัวแบบนี้เขาจะชอบเราไหม มันก็เป็นความกดดันของนักแสดง และของคนที่มีคนรู้จักเยอะ แต่พอไปอยู่ที่นั่นเราเป็นโนบอดี้ เป็นนักเรียนไปโรงเรียน เรารู้สึกว่าชีวิตเรามีความสุขได้ง่ายๆ  เราแค่ไม่ต้องคาดหวังว่าใครจะคิดยังไงกับเรา เราแค่มีความสุขที่เราเป็นตัวเราก็พอ"

    ดูเหมือนเรามีความสุขกับชีวิตแบบนั้น เคยคิดไหมว่าเราจะไม่กลับมายืนตรงนี้
    "เรามีความสุขที่เราเป็นตัวเรา มันหมายถึงว่าเรารู้ว่าชอบอะไร หนึ่งคือเราชอบทำธุรกิจ สองเราชอบถ่ายละคร คือเราคิดอยู่แล้วว่ายังไงก็ถ่ายละครแน่นอน เพราะว่าเราชอบในตรงนี้ แต่ด้วยจังหวะด้วยบทด้วยอะไร เลยเป็นช่วงที่หายไป ไม่ได้คิดว่าจะออกจากวงการ คือถ้ายังมีคนให้เล่นละครอยู่ก็เล่น (หัวเราะ) เพราะว่าชอบมีความสุข เวลาไปกองเรารู้สึกว่าเราได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราชอบด้วย"

    ตอนที่หายไปมีผู้ใหญ่ติดต่อให้มาเล่นละครเยอะไหม
    "ก็มีค่ะ อย่างล่าสุดในร้อยเล่ห์มารยา บทที่วาได้รับเป็นบทที่แซบมาก แซบที่สุดในสามโลก และบทที่ยากมากด้วย เล่นกับพี่เบล ("เบลล่า" ราณี) เขาก็จังหวะดี สวยด้วย เวลาเข้ากับเขาเราก็จะประหม่า ด้วยบทต้องเป็นพี่น้องที่แบบมีหักเหลี่ยมโหดกันตลอด ซึ่งเรื่องนี้จัดเต็มมากที่สุดในชีวิต"
 

    แต่บทเรื่องนี้ออกไปทางร้าย กลัวไหมว่าการจะกลับมาเป็นนางเอกจะยาก
    "จริงๆ นักแสดงถ้าเล่นบทไหน ถ้าเล่นถึงมันเป็นเรื่องที่เจ๋งนะ วาไม่ได้มองว่าฉันจะต้องเป็นนางเอก แต่วามองว่าบทนี้สุดยอดเลย ถ้าเราถึง เพราะฉะนั้นเราได้โอกาสที่ดี เราก็รับไว้"

    ถ้าคนจะมองว่าเราลดเกรดตัวเองลง เรารู้สึกยังไง
    "ตอนนี้เราก็ไม่รู้สึกอะไรมาก อย่างที่บอกว่าแต่ก่อนความสุขของเราขึ้นอยู่กับแบบนี้ ขึ้นอยู่กับคนมองว่าฉันเป็นที่หนึ่งหรือที่สอง แต่ว่าความสุขจริงๆ มันอยู่ที่เรารักตัวเอง เห็นคุณค่ากับตัวเอง ทำชีวิตเราให้ดีที่สุด คือแต่ก่อนเราเป็นนางเอกเป็นคนดีมาตลอด เราก็อยากจะลองอะไรใหม่ๆ ด้วย ถ้าสมมติเราเล่นบทร้ายได้ดีไปไกลก็ดีเลย มันสนุกนะ มันได้ปลดปล่อยในสิ่งที่เราไม่ได้ทำในชีวิตจริงๆ แฟนคลับก็บอกว่าเป็นทีมนางร้าย เขาก็รับได้"

    คนมองว่าที่หายไป เพราะหนีไปพักใจ
    "ไม่ค่ะ ความรักกับหนุ่มนอกวงการก็ยังคุยกันอยู่ คุยกันเรื่อยๆ"
    วาเลนไทน์นี้ก็ไม่เหงาแล้ว
    "วาเลนไทน์นี้ก็อาจจะรับงาน"

    ด้วยความที่เขาเป็นคนนอกวงการเขาเข้าใจในงานของเราไหม
    "ก็น่าจะเข้าใจนะ เพราะว่าวาเองก็ไม่ได้วางตัวเป็นดารา เป็นนักแสดง เวลาวันปกติวาก็เป็นคนปกติ เดินไม่แต่งหน้าไปออกำลังกาย ขึ้นมอเตอร์ไซด์วินได้ เวลาเราใช้ชีวิตปกติ เขาก็รู้สึกปกติ ถามว่าคบกันมานานแค่ไหนแล้ว ก็ไม่นานมาก ไม่ถึงปี"