อยู่อย่างเรียบง่าย สไตล์ "เติ้ล" ธนพล | คมชัดลึก

 เล่าเรื่องชีวิตก่อนเข้าสู่วงการ
ชีวิตก่อนเข้าวงการบันเทิงเป็นอย่างไรบ้าง
 ก่อนเข้าวงการ ผมก็เป็นเพียงแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องเรียนหนังสือ เริ่มเข้าตอน ม.ปลาย ก็เรียนหนังสือเป็นวัยรุ่นธรรมดา แล้วพอมีโอกาสจากการเดินแบบ ถ่ายแฟชั่น และโฆษณา ได้เริ่มเข้าวงการ ได้สัมผัสชีวิตในวงการมากขึ้น ตอนแรกๆ ก็รู้สึก ว่าไม่ใช่ตัวเราหรอก เพราะผมชอบเรื่องเครื่องยนต์และแต่งรถมากกว่า แต่พอเวลาผ่านไป มันเกิดเป็นความคลุกคลี และความเคยชินไป ทำให้เรารู้สึก ว่าในวงการนั้นมีอะไรที่เราน่าค้นหา และมีเรื่องสนุกๆ ทำเยอะ

ช่วยเล่าวีรกรรมสมัยเรียนให้ฟังหน่อย
 ก่อนนี้เรียนที่โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จ.ฉะเชิงเทรา สมัยนั้นก็เดินเข้าออกห้องฝ่ายปกครองเป็นว่าเล่น เพราะเราก็เป็นวัยรุ่นมีซนบ้างเป็นธรรมดา จะโดนคุณแม่ตีประจำ แต่ครั้งหนึ่งเคยพลาดท่าไปจีบทอม เห็นว่าน่ารักดี ก็ส่งดอกไม้ไปให้ สมัยนั้นยังไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ก็ใช้วิธีฝากข้อความไปให้ไม่เคยโทรไปหา จนวันหนึ่งได้เบอร์ที่บ้านเขามา ก็โทรไปหา เขาก็ถามว่าใคร โทรมาทำไม บอกว่าไม่คุยด้วย ผมก็รู้สึกแปลกๆ แต่ไม่คิดอะไร มาเอะใจตอนที่เห็นเขาเดินควงกับผู้หญิงแล้วหอมแก้ม ชัดเลย บอกตัวเอง ว่าพลาดแล้วเรา ก็ขำๆ ไม่ได้เสียใจ (หัวเราะ)

ดูเหมือนเป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง แล้วเข้าวงการมาได้อย่างไร
 มีโมเดลลิ่ง (“หน่อง” นเรศ จันทร์เอี่ยม อดีตผจก.) มาเจอและให้มาถ่ายแฟชั่นก่อน ส่วนงานละคร เราก็เริ่มเล่นกับทางโพลีพลัสก่อนเลย เรื่องแรกคือ รักหรรษาคาราโอเกะ ตอนนั้นเล่นเป็นบทร้ายๆ หน่อย เล่นเป็นแฟนเก่าของพี่เดีย (นาเดีย นิมิตรวานิช) ตอนนี้เลยเป็นคนของโพลีพลัสเต็มตัว

มาเป็นนักแสดงแบบนี้ ที่บ้านว่าอย่างไรบ้าง
 แรกๆ ที่บ้านไม่สนับสนุนเลย กับการที่บ้านอยู่ต่างจังหวัดแล้วต้องขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯ  มาคัดเลือกงาน ต้องขึ้นรถมาถ่ายละคร แบบนี้ที่บ้านไม่ชอบ ที่บ้านอยากให้เป็นข้าราชการ เพราะครอบครัวผมเป็นข้าราชการหมดเลย ด้วยความที่ว่าผมเป็นลูกคนเดียว เขาเลยปล่อยให้ผมทำทุกอย่างที่ผมอยากทำ เขาจะบอกกับผมเสมอ ว่าเขามีเงินแค่ส่งให้เรียน แต่ทุกอย่างคุณต้องหาเอง อยากได้อะไร จะทำอะไร เป็นอะไร เขาจะให้อิสระตรงนี้ ซึ่งผมก็รู้สึกว่ามาถูกทาง เพราะดูคุณแม่ก็ปลื้มอยู่ เริ่มหันมาสนับสนุนบ้างแล้ว

ความสัมพันธ์ในครอบครัว เติ้ลสนิทกับคุณพ่อคุณแม่มากน้อยแค่ไหน
 ผมจะสนิทกับคุณพ่อคุณแม่มาก  แต่ว่าจะสนิทกับคุณพ่อมากกว่า เพราะตั้งแต่เด็กแล้ว คุณพ่อจะไม่เคยตีเลย แต่คุณแม่จะตีบ่อยมาก บ้านคุณพ่อคุณแม่ผมอยู่แถวแปดริ้ว จ.ฉะเเชิงเทรา ถ้าท่านว่างท่านก็จะมา ส่วนถ้าผมว่างผมก็จะไปหาพวกท่านที่บ้านบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ค่อยว่าง

ชีวิตเรียบๆ ในแบบฉบับ “เติ้ล”
ตั้งแต่เข้าสู่วงการบันเทิง ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะไหม
 ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะในทุกๆ อย่าง ทั้งหน้าที่การงานและฐานะ ชีวิตผมจะเรียบมาก ไม่ค่อยหวือหวา ผมใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาเลย  อยู่บ้านก็จะใส่เสื้อยืด เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น วันๆ หนึ่ง มือผมก็มีแต่น้ำมัน เพราะผมชอบทำรถ แต่งรถอะไรอย่างนี้ แต่ไม่ได้ชอบกว่าการทำงาน (หัวเราะ) คือผมชอบแต่งรถเป็นงานอดิเรก เป็นความชอบส่วนตัวจริงๆ แต่การดำเนินชีวิต ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง อย่างพอเข้าวงการเราทำงานมากขึ้น การพักผ่อนน้อยลง และชีวิตการเป็นส่วนตัวของเราก็น้อยลง แต่การที่มีคนรู้จักมากขึ้น ทำให้รู้ว่ามีคนติดตามมีคนดูเราอยู่ ตรงนี้ทำให้เรามีแรงที่จะก้าวต่อไป

ผลงานที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีคนรู้จักเยอะมากขึ้น
 การมีคนรู้จักเยอะขึ้นมันเป็นส่วนดี ก็จะเป็นกำลังใจ ก็จะบอกว่าติดตามผลงานอยู่นะ เล่นดีมาก เล่นพัฒนาขึ้น คำพูดเหล่านี้ทำให้เรากล้าที่จะพัฒนาการแสดงมากยิ่งขึ้น การมีแฟนคลับมากขึ้น ก็ไม่ได้ทำให้ทัศนคติของเราเปลี่ยนไป ทุกวันนี้ ก็ยังต้องทำให้ดีที่สุดเหมือนเดิม ทำให้เต็มที่

พระเอกหรือนักแสดงคนอื่นๆ มักจะมีข่าวให้เป็นกระแสอยู่เสมอ ในขณะที่ข่าวของเติ้ลเงียบมาก
 อาจเป็นเพราะผมชอบที่จะทำตัวเรียบๆ ง่ายๆ เพราะผมก็เป็นคนธรรมดา ผมชอบที่จะทำตัวธรรมดา ชอบที่จะใส่เสื้อยืดกางเกงยีน และอาจเป็นเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเที่ยวด้วย เลยทำให้ไม่ค่อยมีข่าว

ช่วยเล่าถึงผลงานที่ผ่านๆ มา ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
 มีเรื่อง รักหรรษาคาราโอเกะ สวยลากไส้ อภิมหึมามหาเศรษฐี รักแท้แก้ได้ ดั่งดวงหฤทัย สู่แสงตะวัน พลิกฟ้าล่าตะวัน  รักแท้แก้ได้ ส่วนใหญ่จะมีคนแซวๆ กัน ว่าถูกโฉลกกับคนในเครื่องแบบ เพราะตั้งแต่เล่นละครมา จะโดนเล่นเป็นคนในเครื่องแบบตลอด ถ้าเติ้ลเล่นไม่จน ก็ต้องเป็นตำรวจ หรือไม่ก็พ่อแม่ตาย หน้าตาดูมีปมอาภัพอะไรประมาณนั้น

คนเริ่มจำได้ กับละครเรื่อง "ดั่งดวงหฤทัย"
 ใช่ครับ เล่นเป็นราชิด ช่วงนั้นกระแสตอบรับดีมาก  ถือเป็นเรื่องแจ้งเกิดในวงการก็ว่าได้ เพราะคนจะจำหน้าได้จากเรื่องนั้น หลังจากนั้นก็เล่นละครมาตลอด

ถูกมองว่า เป็นคนหน้าตาโหล
 หน้าโหลนี่อาจจะเป็นที่ทรงผมมากกว่า เพราะว่าตอนนั้นทรงผมรากไทรแบบยาวๆ น่าจะฮิต แล้วมีหลายคนที่ตัดทรงคล้ายๆ กัน เลยทำให้ใครๆ ทักผิดเป็น แบงค์ วงแคลช บ้าง เดี่ยว โอไอซี บ้าง ตอนนี้พอผมมาตัดผมสั้น ก็เลยไม่มีใครทักว่าหน้าโหลแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจหรอก

มาถึงทุกวันนี้ ผ่านงานมาแล้วหลายเรื่อง มีแฟนคลับไหม
 มีนะ แฟนคลับน่ารักมาก เวลาไปออกงาน ก็จะมีมาคอยเชียร์บ้าง จริงๆ ถ้าแจ้งไปก็จะมากันเต็มไปหมด ก็จะซื้อขนมมากองถ่าย แล้วก็นำมาแจกคนนั้นคนนี้ด้วย เขาก็มีทำเว็บบอร์ดให้ผมด้วย ก็เข้าไปดูบ้าง ส่วนมากก็สักสองอาทิตย์ จะเข้าไปทีหนึ่ง บางครั้งก็เข้าไปตั้งกระทู้ ว่าช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยระวังสุขภาพกันบ้างนะ และเป็นเพราะผมเลิกดึกด้วย เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปเท่าไหร่

กับตำแหน่งพระเอกเต็มตัว
ตอนได้เป็นพระเอกเต็มตัวฉายเดี่ยวครั้งแรกกับเรื่อง "บ่วงร้ายพ่ายรัก" รู้สึกอย่างไร
 ดีใจที่ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน ก็ต้องขอขอบคุณไม่ว่าจะเป็นคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) และพี่นิด (อรพรรณ วัชรพล) ด้วย ก่อนหน้านี้ก็จะได้แสดงละครที่มีพระเอกสองคน อย่างเรื่อง รักแท้แก้ได้ ก็จะมีพระเอกสองคน คือผมคู่กับ ”แตงโม” ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ส่วน “อ๊อฟ” ชนะพล สัตยา ก็คู่กับ “จักจั่น” อคัมย์สิริ สุวรรณศุข แต่ในเรื่องนี้เราเป็นพระเอกคนเดียวเป็นตัวดำเนินเรื่องเลย

กระแสตอบรับจากเรื่อง "บ่วงร้ายพ่ายรัก"
 ดีครับ ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็จะมีคนเรียกพี่หินตลอด และได้เล่นเรื่องนี้ก็สนุกมาก ได้ลองหลายบทบาทมากขึ้น ก็เลยเป็นสิ่งที่ท้าทายตัวเองมากขึ้น เพราะผมเคยร่วมงานกับน้องแพน (เขมนิจ จามิกรณ์) เคยเล่นเรื่อง "สู่แสงตะวัน" มาด้วยกัน เรื่องนั้นจะเครียดๆ ส่วนเรื่องนี้จะเป็นแนวคอมเมดี้ ซึ่งผมรับบทเป็นบอดี้การ์ดหนุ่มคอยดูแลปกป้องนางเอก บุคลิกจะนิ่งๆ แต่เวลาทะเลาะกับแพนเค้กก็จะสบายๆ มีต่อปากต่อคำกัน ทะเลาะกัน เถียงกัน ยั่วให้นางเอกโมโห เจอหน้ากันก็ฉะกันตลอด บางครั้งโดนแพนตบ เราก็จะปล้ำจะจูบกลับ แต่ไม่ได้จูบจริงนะ ส่วนมากจะโดนตบจริงซะมากกว่า ตบจนรู้สึกว่าหน้าชาไปเลย คือนางเอกชอบวางแผนกลั่นแกล้ง เราก็ต้องคอยตั้งรับตลอด

คุยถึงนางเอกของเรื่องกันบ้าง
 ผมว่าแพนเค้กเป็นคนที่นิ่งๆ นะ เงียบๆ มีร่าเริงบ้าง แต่พอถึงเวลาทำงาน จะเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก ในเรื่องผมจะให้ฉายาเขาว่านางฟ้า เพราะว่าน้องเขาสวย เก่ง แล้วก็พร้อมทุกอย่าง คือเขาทำได้ทุกอย่าง ส่วนผมขอเป็นคนธรรมดาดีกว่า

ได้ข่าวว่ามีละครใหม่
 ใช่ครับเรื่อง "หงส์ฟ้า" เรื่องนี้เพิ่งลองชุดไป ก็ได้เล่นคู่กับ “ขวัญ” อุษามณี เรื่องนี้เล่นเป็นพระเอก รับบทเป็นนายร้อยตำรวจเหมือนเดิม แต่บอกแล้วว่าต้องจน พ่อแม่เสียชีวิต นี่เป็นคอนเซ็ปต์ของเติ้ลในละคร ในเรื่องต้องอาศัยอยู่สลัมข้างวัด ก็จะคอยช่วยเหลือนางเอกตั้งแต่เด็ก คือถูกเลี้ยงดูมาด้วยกัน เป็นพี่น้องกัน ความสัมพันธ์ก็เริ่มจากการเป็นพี่น้อง จนโตมาก็แยกย้ายกันไปเรียน เราก็เรียนตำรวจจบ กลับมาก็เลยเกิดความผูกพัน เพราะเราต้องคอยช่วยตามหาพ่อแม่ของเขาด้วย ก็เลยพัฒนากลายมาเป็นความรัก กับขวัญเราก็เคยเจอกันแล้วในเรื่อง "ดั่งดวงหฤทัย"

ประกบนางเอกดังๆ ตลอด จนคนมองว่าขึ้นแท่นลูกรักช่อง 7
ต้องขอขอบคุณทางผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุน
มีความพอใจกับชีวิตในทุกวันนี้แล้วหรือยัง 
 พอใจกับชีวิตในทุกวันนี้ จริงๆ ก็พอใจมาตั้งแต่แรกแล้ว คือผมจะคิดว่าผมจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราจะได้ไม่โทษตัวเองว่าเราไม่ได้ทำ เพราะได้ทำวันนี้ได้ดีแล้ว ทำทุกๆ วันให้ดีที่สุด ตอนนี้ก็ไม่ได้วาดฝันอะไรถึงเรื่องอนาคต เพราะผมก็คงอยู่วงการนี้ได้ไม่นาน ก็คิดแค่ทำวันนี้แค่นั้นพอ และทุกอย่างประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง

กับข่าวกระทบกระทั่งกับผู้จัดการคนเก่า “หน่อง” นเรศ จันทร์เอี่ยม
 เคลียร์กันไปแล้ว ด้วยที่ฝ่ายของผมเป็นเด็กด้วย ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาพี่เขา ก็ต้องขอโทษพี่เขา จริงๆ เป็นปัญหาเล็กๆ พี่เขาคงน้อยใจ ว่าดังแล้วจะอะไรหรือเปล่า สนใจเขาหรือเปล่า ซึ่งพี่เขาก็เป็นคนพาเราเข้ามาตรงนี้  ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ก็ยังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม  ยังโทรคุยกันเหมือนเดิม เรื่องเงินเราก็คืนให้ไปแล้ว เราเป็นคนคืนให้พี่เขาเอง เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย เพราะตอนนั้นเรามีสัญญาใจอยู่ เคลียร์กันนานแล้ว  ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ

ว่าด้วยเรื่องของหัวใจ
ถือว่าเติ้ลเป็นคนเจ้าชู้ไหม
ผมเคยพูด ว่าผู้ชายไม่เจ้าชู้เหมือนงูไม่มีพิษ เป็นผู้ชายก็มีบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นหัวงู ทุกวันนี้ก็ไม่มีผู้หญิงเข้าสักเท่าไหร่ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา ผมโดนละครถ่ายไป ออนแอร์ไปตลอด ทำงานเช้าเลิกงานตี 3 ก็ไม่มีเวลาไปไหนมาไหนอยู่แล้ว  แล้วเรื่องเที่ยวผมก็ไม่เที่ยวอยู่แล้วด้วย ส่วนคนในกองก็ไม่มีกิ๊กกั๊กอะไร เพราะผมคิดว่าเรามาทำงาน

อัพเดทหัวใจนิดหนึ่ง สถานะตอนนี้
เกือบโสด เอ้ย...โสด ตอนนี้ยังโสดอยู่

สเปกสาวที่ชอบล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง
เหมือนผู้ชายทั่วไป ที่ชอบผู้หญิงขาว สูง ออกหมวยๆ หน่อย ผิวพรรณสะอาด ผมเป็นคนสะอาด แต่จริงๆ แล้วผมจะมองที่นิสัยมากกว่า เอาที่เข้ากับเราได้ เข้าใจเรา เพราะชีวิตนักแสดงนั้นมันไม่มีเวลาให้แน่ๆ

แล้วแซมมี่ (ปัญฑิตา ภูวิจารย์) ที่เป็นข่าวด้วย ใช่สเปกไหม
(หัวเราะ) ไม่มี ไม่ได้กิ๊กกันเลย จริงๆ เราอาจจะร่วมงานกัน ก็เลยสนิทกัน แต่ก็ไม่มีอะไร

นี่แหละ...ผู้ชายธรรมดาแบบ "เติ้ล" ธนพล

เรื่อง... "เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล"
ภาพ... "อุทร ศรีพันธ์"

เขาคนนี้ชื่อ : ธนพล  นิ่มทัยสุข (เติ้ล)
วันเดือนปีเกิด : 1 ธันวาคม 2527
การศึกษา : จบมัธยมที่โรงเรียนเบจมราชรังสฤษฎิ์
   ตอนนี้เรียนที่ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ เอก วิทยุโทรทัศน์
ผลงานที่ผ่านมา : โฆษณา The pizza ปากกา Lancer ภาพยนตร์เรื่อง สวยลากไส้ ละครรัก หรรษาคาราโอเกะ, อภิมหึมามหาเศรษฐี, ดั่งดวงหฤทัย, หินกลิ้ง ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน : ละครบ่วงร้ายพ่ายรัก