เปิดโผหนังไทยเข้าชิง 'คมชัดลึกอวอร์ด'

         หลังจากเว้นว่างจากการแจกรางวัลมา 1 ปี ในปี 2561 นี้ “หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก” กลับมาแจกรางวัล “คมชัดลึกอวอร์ด” อีกครั้ง โดยครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 15 ในส่วนของประเภทภาพยนตร์ไทย ประกอบด้วย 7 สาขาเหมือนเดิม คือ สาขา ภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม สาขาบทภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม    

 

       จะเห็นได้ว่าในช่วงปี 2561 ภาพยนตร์ไทยเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ยังคงมีค่ายหนังไทยเล็ก-ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น จีดีเอช559 สหมงคลฟิล์ม ทรานฟอร์เมชั่น เอ็มพิคเจอร์ส ทีโมเมนต์ เอ็ม39 ไฟว์สตาร์ กูรูฟิล์ม พระนครฟิล์ม บั้งไฟฟิล์ม ปลาเป็นว่ายทวนน้ำ แม่เรียงฟิล์ม คีตะนคร เซิ้งโปรดักชั่นฯ ไทบ้านสตูดิโอ วรมิตรโปรดักชั่น ไหทองคำโปรดักชั่น ฯลฯ ต่างผลิตหนังไทยออกมาให้คอภาพยนตร์ได้ยลกันอย่างต่อเนื่อง แถมยังหลากสไตล์

 

 

       หากไล่ดูจำนวนคร่าวๆ จะเห็นได้ว่าหนังไทยมีจำนวนมากกว่าปีก่อน โดยหนังที่โดดเด่นในปีนี้ยังคงไม่พ้นหนังไทยสายรางวัลไม่ว่าจะเป็น “ไม่มีสมุยสำหรับเธอ” ของ เป็นเอก รัตนเรือง, “มะลิลา” ของ อนุชา บุญยวรรธนะ, “มา ณ ที่นี่” ของ ปราบดา หยุ่น, “เพื่อนฉันฝันสลาย” ของ ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล หรือจะเป็นหนังสารคดีของกลุ่มไอดอลสาวๆ วงบีเอ็นเค48 อย่าง “BNK48: Girls Don't Cry” ของ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์, “เณรกระโดดกำแพง” ของบุญส่ง นาคภู่, “โนราห์” ของ เอกชัย ศรีวิชัย, "บางกอก จอยไรด์ภาค 1-3" กำกับโดย สมานรัชฏ์ กาญจนะวณิชย์

 

 

         นอกจากนี้ยังมีหนังสายตลาด ทั้งหนังรักและคอมเมดี้ ที่ทำเงินอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น "ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก" กำกับโดย พฤกษ์ เอมะรุจิ, “หลวงพี่แจ๊ส 5G” “ตุ๊ดตู่กู้ชาติ” กำกับโดย พชร์ อานนท์, “ขุนพันธ์2” กำกับโดย โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ, “น้องพี่ที่รัก” กำกับโดย วิทยา ทองอยู่ยง, “รักข้ามเลือด” ที่กำกับโดย มารุต สาโรวาท, “นาคี2” กำกับโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, “400 นักรบขุนรองปลัดชู” กำกับโดย เจตนิพัทธ์ สาสิงห์ “App War แอปชนแอป” กำกับโดย ยรรยง คุรุอังกูร, “นรก 6 เมตร” กำกับโดย พิง ลำพระเพลิง, "Gravity Of Love แรงดึงดูดแห่งรัก” “รักเก็บแต้ม” “7days เรารักกัน จันทร์-อาทิตย์”

 

         ส่วนหนังผีก็ยังแรงอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น “มากับฝน” กำกับโดย พิรุณ อนุสุริยา, “กลางแปลง” กำกับโดย มรกต แก้วธานี ที่ฉายเฉพาะภาคอีสาน, “ตีสาม อาฟเตอร์ช็อค” “ส่องส่งผี” กำกับโดย ชนพล รินลา, “ผีโทรศัพท์” กำกับโดย มนัสนันท์ พงษ์สุวรรณ นอกจากนี้ยังมีหนังแอนิเมชั่นสไตล์ไทยๆ ที่ไม่แพ้เมืองนอกอย่าง “9 ศาสตรา” และ “ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์”

 

 

         ในขณะที่หนังโซนอีสานปีนี้ก็มาแรงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น "ผู้สาวขาเลาะ เดอะอินดี้มูฟวี่" กำกับโดย สุกิจ นรินทร์, “ฮักแพง” จากค่ายพระนครฟิล์ม, “ผู้บ่าวไทบ้าน 3 หมานแอนด์เดอะคำผาน” กำกับโดย อุเทน ศรีริวิ,  “ปาฏิหาริย์แก้วนาคราช” กำกับโดย ราชวัตร ฐิติวรดากูล หรือจะเป็น “ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.1 และไทบ้านเดอะซีรีส์2.2” ผลงานการกำกับโดย สุรศักดิ์ ป้องศร ซึ่งไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.1 เพิ่งโดนดราม่าห้ามฉายไปหมาดๆ ซึ่งตอนนี้ทางผู้สร้างได้ตัดฉากที่มีปัญหาออกไปแล้ว และหนังก็ได้เข้าฉายตามเวลาที่กำหนด 

 

         จะเห็นได้ว่าปีนี้มีหนังไทยที่น่าสนใจหลายเรื่อง และในช่วงปลายปี ยังมีภาพยนตร์ไทยที่ยังไม่ได้เข้าโรงภาพยนตร์อีกจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น “สิงสู่” “หอแต๋วแตกแหกต่อไม่รอแล้วนะ” “ขุนบันลือ” ฯลฯ ก็ต้องมาดูกันว่า ช่วงปลายปีนี้ จะมีหนังไทยกระแสแรงมาม้ามืดเหมือนปีที่ผ่านมาหรือเปล่า ก็ต้องคอยลุ้นกัน