กว่าจะมาเป็นดารา-ผู้กำกับมืออาชีพ | คมชัดลึก

 ล่าสุด สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพ วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ได้มีการจัดงานสัมมนา สื่อวิทยุ-โทรทัศน์ไทย 2552 ในหัวข้อ สู่ความสำเร็จอย่างมืออาชีพ ซึ่งก็มีคนดังในแวดวงบันเทิง มาร่วมให้ทัศนคติ ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จอย่างมืออาชีพได้ อย่างนักแสดงรุ่นใหญ่ ดวงดาว จารุจินดา ผู้ที่ครอบครัวคร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงทั้งชีวิต ตัวเธอเองก็แสดงละครมายาวนาน 53 ปี เผยเคล็ดลับ

 "อะไรก็ตามที่เราทำ เราต้องรักในสิ่งที่ทำ ถึงจะมีความสุข อย่างพี่จะสุขทุกครั้งที่ตื่นเช้า แล้วได้ไปถ่ายละคร พี่จะต้องท่องบทไปทุกครั้ง เราต้องรู้ที่มาที่ไปของตัวละครก่อน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เป็นคนชอบทบทวน ดูงานของตัวเองทุกครั้ง เพื่อหาจุดบกพร่อง ถึงแม้ว่าจะถ่ายละคร ก็ต้องอัดเก็บไว้ และพี่ไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่ง ถึงจะแสดงมานาน 53 ปี คิดแต่ว่าเรายังมีข้อบกพร่อง จะต้องแก้ไขยังไง การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานก็เป็นสิ่งที่สำคัญ มันต้องเฮกันไปให้ได้หมด แล้วเราจะมีความสุขในการทำงานด้วย ที่สำคัญ ต้องให้เกียรติทีมงาน ทุกคนในกองถ่ายมีคุณค่า ถ้าเราไม่ให้เกียรติเขา ถ้าเราหิวน้ำ เราจะได้น้ำดื่มไหม เราต้องมีสัมมาคารวะด้วย เพราะเราดังขึ้นมาได้ ไม่ใช่ดังคนเดียว แต่ทุกคนมีส่วนช่วยกันทั้งหมด" นักแสดงมากฝีมือกล่าว

 นางเอกค้างฟ้า อย่าง "นก" สินจัย เปล่งพานิช ผู้ซึ่งเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 16 ปี ไม่ได้มีพื้นฐานใดๆ ในวงการบันเทิงมาก่อน แต่อาศัยมาเรียนรู้เอาในวงการบันเทิง ว่าควรจะต้องวางตัวอย่างไร ถึงจะมีวันนี้ได้

 "นกเห็นตัวอย่างตั้งแต่เข้าวงการแรกๆ อย่างป๋า ส. อาสนจินดา ไม่ว่าจะเล่นหนังเล่นละครมากี่ครั้ง ก็ยังเชื่อฟังผู้กำกับ นั่นคือนักแสดงที่ดี คือต้องเชื่อฟังผู้กำกับ ไม่เบ่ง ไม่เหวี่ยง ไม่งอแง ทำให้นกในตอนนั้นรู้สึก ว่าทำไมเราง่วงขนาดนี้ แต่อาเขาเป็นผู้ใหญ่ ยังไม่เคยบ่นเลย ไม่ว่าจะถ่ายดึกดื่นแค่ไหน เรื่องสุขภาพของนักแสดงก็สำคัญ นกจะรับเล่นละครทีละเรื่อง ดูแลร่างกาย จิตใจของเราให้ดีดีกว่า แต่นกว่านักแสดงเดี๋ยวนี้สบายกว่าสมัยก่อน เพราะมีทีมงานเตรียมไว้ให้หมดแล้ว เราก็แค่ต้องทำการบ้านกับตัวเองให้มากขึ้น ไม่ใช่คิดว่ามาสายนิดหน่อยก็ได้ แต่เราต้องมีวินัย ต้องไม่หลงทิศทาง ซึ่งเราก็จะเห็นตัวอย่างจากหลายๆ คน ถ้าหากปล่อย ไม่คอยเตือนตัวเองแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นยังไง" นกกล่าว

 ด้านนางเอกรุ่นใหม่อย่าง "แอฟ" ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ กล่าวอย่างถ่อมตัว ว่าสำหรับเธอแค่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่อย่าง "นก" สินจัย ไอดอลของเธอต่างหากถึงจะเรียกว่าเป็นมืออาชีพจริงๆ

 "การจะเป็นมืออาชีพได้ แน่นอนต้องมีความรักความจริงใจกับอาชีพ มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ไม่เสียสมาธิกับเรื่องที่มากวนระหว่างทาง ที่มากวนเยอะมาก ซึ่งสำคัญกับทุกอาชีพ ถ้าเราไม่รัก ไม่จริงใจกับอาชีพนั้นจริงๆ เราจะทำไม่ได้นาน บางทีเราอาจจะหลุดไป หรือถ้าเจอกับสิ่งล่อตาล่อใจ ก็อาจจะเขวไปด้านอื่นได้ อย่างเรื่องข่าว ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักแสดงเขวได้ เดี๋ยวนี้มันเหมือนเป็นวงจร ว่าถ้ามีข่าวก็มีชื่อเสียงพุ่งเร็ว มีพรีเซ็นเตอร์ มีงานอีเวนท์ ถ้าเราหลุดโคจร ก็จะไปทำงานโน่นนี่เต็มไปหมด จนลืมว่าหลักๆ ของเราคืองานแสดง แอฟเองก็พยายามจะโฟกัสกับงานที่ทำ พยายามนึกย้อนว่าเราจะต้องทำอะไรบ้าง ที่เรามาอยู่ตรงนี้ และการที่เรามีตัวอย่างที่ดี มันก็ช่วย อย่างเห็นพี่นก เราก็จะคิดว่าเราอยากเป็นอย่างนี้นะ ไม่ใช่อย่างอื่น"

 ด้านนักแสดงหนุ่มเพียงคนเดียวของงาน อย่าง ภูริ หิรัญพฤกษ์ เผยว่า เขาดีใจทุกครั้งที่ตื่นเช้าขึ้นมา แล้วรู้ว่าจะได้ทำงานในสิ่งที่รัก และที่สำคัญ เขาคิดว่าตนเองมีอาชีพรับจ้างแสดง ไม่ใช่รับจ้างเป็นดารา

 "ทุกครั้งผมต้องทำการบ้านของตัวเองให้ดีที่สุด ผมมีหน้าที่รับฟังและเชื่อฟังผู้กำกับ นำเสนอสิ่งที่ผู้จัดฯ และผู้กำกับต้องการ ส่งไปยังประชาชนว่าเขาต้องการอยากจะเห็นอะไร ทุกอย่างที่เราทำ ต้องรัก และภูมิใจในสิ่งที่เราทำ มันก็จบ"

 ทีนี้มาดูความเห็นของผู้ที่เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้นักแสดงประสบความสำเร็จได้ และนักแสดงต้องให้ความเคารพ อย่าง ผู้กำกับ แล้วผู้กำกับที่ดีเล่าจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร เรื่องนี้ทั้ง "บอย" ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ "คิง" สมจริง ศรีสุภาพ ผู้จัดฯ และผู้กำกับชื่อดัง เผยเคล็ดลับว่า ผู้กำกับมืออาชีพ ควรต้องรอบรู้ ต้องศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ลอกความคิดของชาวบ้านทั้งหมด ที่สำคัญไม่ควรหยุดที่จะเรียนรู้ และควรต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกคน แม้กระทั่งเด็ก ด้าน "ป้าแจ๋ว" ยุทธนา ล.พันธุ์ไพบูลย์ สรุปปิดท้ายว่า

 "ผู้กำกับที่ดี ควรจะต้องมีวิสัยทัศน์ ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เราต้องมองภาพรวมละคร อย่างที่ต้องเป็น ต้องตีเป้าหมายของผู้บริโภคได้ ว่าเขาต้องการอะไร และต้องอ่านหนังสือให้แตกฉาน คนเป็นผู้กำกับต้องอ่านหนังสือเก่ง ตีความได้ นำเนื้อความของบทมาขยายเป็นภาพได้ รวมการเรียนรู้ ก็เกือบเป็นผู้กำกับที่ดีได้แล้ว แต่ถ้าทำตามใจตัวเองคนเดียว ก็ไม่ได้ เพราะเรายังมีคนในกองถ่ายอีก 30 คน จะทำตามใจตัวเองคนเดียวไม่ได้ เราต้องรู้เขารู้เรา รู้ว่าลูกน้องถนัดอะไร หน้าที่ไหนจะเหมาะกับเขา ต้องทำตัวเป็นที่รักของคนในกองถ่าย เราจะทำงานได้ไม่ดี ถ้าเราเป็นตัวรังเกียจของคนในกองถ่าย ไม่งั้น เขาจะทำงานกันอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเราไม่สามารถเดินทางไปคนเดียวได้ ต้องเดินไปพร้อมๆ กัน"

 ทีนี้ก็รู้แล้วใช่มั้ยล่ะ ว่ามืออาชีพเขาต้องเป็นกันยังไง