รู้ลึกตัวตน 'สิงโต-ปราชญา'

    ทีมบันเทิง คมชัดลึก -     เป็นพระเอกหนุ่มขวัญใจสาววาย สำหรับนักแสดงหนุ่มวัยรุ่นชื่อดัง “สิงโต” ปราชญา เรืองโรจน์ และกำลังมีผลงานเข้มข้นกับซีรีส์ “เฟรนด์โซน เอาให้ชัด” แต่ใครจะไปรู้ว่าหนุ่มคนนี้มีอีกมุมที่น่าสนใจในเรื่องของความคิดและเป้าหมายในชีวิต โดยวันนี้หนุ่มสิงโตจะมาพูดคุยกับ “บันเทิง คมชัดลึก” แบบหมดเปลือก

 

    @@ ดูผอมลงไปเยอะเลย
    “ผอมลงไปเยอะ มาจากช่วงตอนที่ต้องทำโปรเจ็คจบเทอมหนึ่ง แล้วตอนนั้นทั้งทำงานและเรียน ทั้งอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้นอนไม่เป็นเวลา กินข้าวไม่เป็นเวลา แล้วก็เครียด ช่วนี้ก็พยายามปรับตัวๆ เองกลับมาให้เป็นปกติอยู่ คือเริ่มปรับในเรื่องของการกิน แต่ก็มีจะที่ต้องซ้อมคอนเสิร์ต วาย ไอเลิฟ ยู ที่จะเล่นในสุดสัปดาห์นี้ แต่ก็พยายามกินข้าวเช้า กลางวัน เย็น ให้เหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่ว่าพอมีการซ้อมคอนเสิร์ต และเรื่องของว่าเปิดเทอมแล้วด้วย ก็ไม่ได้ออกกำลังกาย เพราะโดยปกติสิงจะออกกำลังกายตอนประมาณทุ่มถึงสองทุ่ม ตอนนี้มีการซ้อมคอนเสิร์ตก็หมดเวลาแล้ว เรื่องของการกินมันก็เหมือนจะติดมาจากช่วงก่อนหน้านี้ที่เรากินน้อยๆ พอทุกวันนี้เวลาเรากินข้าวก็เหมือนจะกินไม่ลง”

 

    @@ เป็นแบบนี้มานานแค่ไหน
    “เป็นตั้งแต่เริ่มช่วงที่กระเพาะอาหารอักเสบ แล้วกินอะไรไม่ค่อยได้ ก็น่าจะเป็นปีแล้วที่เป็นแบบนี้ ปกติสิงเป็นคนกินน้อยอยู่แล้ว แต่ก็จะมีกินพวกอาหารเสริม พวกโปรตีน เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ เพียงแต่ว่าพอกระเพาะอาหารอักเสบมันกินพวกนี้มากๆ ไม่ได้ พอกินไปจะปวดท้อง โดยปกติสิงจะกินก่อนนอน พอกินแล้วปวดท้อง มันนอนไม่ได้ พอไปหาหมอ หมอบอกว่ามันเป็นปกติของคนที่เป็นกระเพาะอาหารอักเสบ ต้องใช้เวลานิดหนึ่งในการปรับให้ร่างกายกลับมา ด้วยความที่พอกินแล้วปวดท้อง แล้วนอนไม่ได้ เลยเลือกที่จะไม่กิน เพราะร่างกายเราอยากนอนมากกว่า เลยเลือกไม่กินอาหารเสริมอะไรทั้งนั้น”

 

    กลับมาผอมขนาดไหน
    “จำโซตัสซีซั่นหนึ่งได้ไหม อาจจะหนักกว่าตอนซีซั่นหนึ่งเล็กน้อย คือมีเนื้อขึ้นมานิดหนึ่ง”

 

    คนทักเยอะไหมเรื่องผอม
    “ทุกคนทักสิงหมดเลย (เสียงอ้อน) ทุกคนเล้ยยยยย แต่ว่าสิงก็รู้ตัวว่ามันเริ่มซูบตั้งแต่ตอนทำโปรเจ็ค ตอนนั้นเรารู้ตัวว่าเราซูบ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราต้องทำโปรเจ็ค ต้องเรียน ต้องทำงาน มันแบ่งเวลาดูแลตัวเองในตอนนั้นลำบากจริงๆ พอมันหมดช่วงนั้นมา ได้ช่วงพัก ร่างกายเรากลับกลายเป็นว่าชินกับช่วงนั้น ตอนนี้กินอะไรไม่ได้เลย กินนิดหน่อยๆ ก็เริ่มอิ่มแล้ว พยายาม กินให้เยอะขึ้นอยู่”

 

 

 

    มีการปรึกษาหมอในเรื่องนี้บ้างไหมเพราะดูเหมือนเราจะเป็นเรื้อรัง
    “ได้ปรึกษาคุณหมอแล้ว คุณหมอก็บอกว่าถ้าทำได้ก็ให้ทานอาหารเสริมหรืออาหารที่มันกินง่าย ปกติสิงเป็นคนกินเวย์และก็พวกอกไก่ ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าให้พยายามกินทีละนิดทีละนิด มันจะได้ไม่ปวดมาก แต่ของสิงคือเรากลัวมันจะปวดท้องก่อนนอนแล้วมันจะนอนไม่ได้ก็เลยเลือกที่จะไม่กินเลย งดไปก่อนเพราะสิงกลัวปวดท้อง”

 

    มีผลทำให้ร่างกายเราไม่แข็งแรงไหม
    “มันไม่ถึงกับไม่แข็งแรงแค่ผอมลงไปเพราะว่าเราได้นอนการนอนทำให้เราได้พักผ่อนเพิ่มมากขึ้น คือตอนนี้ร่างกายสิงแข็งแรง ถ้าเทียบกับเมื่อปีที่แล้วที่ร่างกายดูอ่อนแอ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง คือช่วงก่อนมันมีกล้ามเนื้อ พอเราฟิตกล้ามมันแน่นกล้ามเนื้อด้วยแต่สิ่งที่ตอนนี้มันหายไป คือเราซูบลงเพราะว่าเราไม่สามารถกินโปรตีนได้ทำให้กล้ามเนื้อเราฟีบลงแล้วก็ไขมันก็ไม่มีด้วย”

 

    แปลว่าตอนนี้ถอดเสื้อโชว์หุ่นไม่ได้แล้ว
    “ตอนนี้ถอดไม่ได้ ขอเวลาก่อนคือภาพที่เมื่อปีที่แล้วมีซิกแพคตอนนี้ก็จะแห้งๆ หน่อย ก็โชว์ไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) เอาจริงๆ สิงอยากกลับไปมีหุ่นเหมือนเมื่อปีที่แล้ว เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งที่เราทุ่มเทกับการออกกำลังกาย มันได้เห็นผล พอตอนนี้เราซูบลงไปยอมรับเลยว่าเครียด ว่าทำไมกินแล้วมันไม่ขึ้น แล้วรู้สึกว่าทำไมเราพยายามกินแทบตาย กว่าน้ำหนักมันจะขึ้น  แล้วเริ่มมีเนื้อมีหนังขึ้นมา แต่พอเราขาดช่วงไปปุ๊บเราซูบลงไปเยอะมากเลย สิงเป็นคนที่หุ่นสวิงมาก คือขึ้นไวลงไวมาก ตอนขึ้นน่ะขึ้นยากแต่ตอนลง ลงไวมากลงไวจนเราคิดว่าเราเป็นโรคเลยต้องไปเช็คกับหมอ ซึ่งหมอบอกว่าเป็นปกติร่างกาย”

 

    มาถามถึงเรื่องซีรีส์ "friend Zone" บ้างโค้งสุดท้ายแล้วเป็นยังไงบ้าง
    “ช่วงที่ผ่านมาหลายๆ คนก็ไม่ได้มองว่าเราเล่นร้าย คือมันไม่ได้เป็นตัวร้ายขนาดนั้นแต่มันเป็นแค่จุดเปลี่ยนของตัวละครเฉยๆ ตัวละครมีการพัฒนาจากเริ่มที่เป็นคนดีที่สุดในเรื่อง  สิงกล้าพูดเลยว่าตัวละครเอิร์ธแต่ตอนแรก จนมาค่อยๆ ขยับจนมีจุดเปลี่ยนทำให้เขาเปลี่ยนไป”

 

    สิงดูจะชื่นชอบกับบทเอิร์ธเพราะมันมีหลากหลายสีสันให้ได้แสดง
    “อย่างที่สิงเคยให้สัมภาษณ์ไป ว่าสิ่งชอบตัวละครที่มันร้ายอย่างมีเหตุผล ซึ่งตัวละครนี้มันมีเหตุผลมาสนับสนุน คือจริงๆมันอาจจะไม่ร้ายก็ได้ แต่มันมีเหตุผลมาสนับสนุนว่าทำไมตัวละครถึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เรารู้สึกชอบอะไรแบบนั้นมากเพราะมันทำให้เราได้แสดงออกมา 2 แบบทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่จำเจ มันมีความท้าทายตัวเราเองเหมือนกัน ว่าก่อนหน้านี้ต้องเป็นคนอีกแบบนึง และพอถึงช่วงเวลาหนึ่งมันก็เป็นอีกแบบนึงมันมีเหตุผลมาสนับสนุนว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น”

 

 

 

    พอมันเล่นบทที่มันร้ายคนก็มองว่าสิงเป็นพระเอกเป็นนักแสดงนำทำไมถึงยอมมาเล่นบทแบบนี้
    “เอาจริงๆ นะสิงไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเป็นพระเอกหรือจะต้องเล่นเป็นพระเอกตลอดเวลา เพราะสิงจะบอกตั้งแต่แรกเลยว่าเราชอบมากกับการที่ได้เล่นเป็นตัวร้าย เพราะการได้เล่นเป็นตัวร้ายมันมีอะไรให้เราได้ใช้ฝีมือการแสดงมาก ได้ใช้อะไรหลายๆ อย่างทั้งประสบการณ์การแสดง โอเค การที่เป็นพระเอกมันก็ได้ใช้บ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องคีพคาแรคเตอร์ของการเป็นพระเอกจ๋า มันต้องมีการรักษามาด เราเลยไม่รู้สึกว่าเราจะต้องยึดติดกับสิ่งเหล่านั้น สิงชอบที่การแสดงมากกว่า การที่เราจะได้เล่นเป็นพระเอกหรือเป็นนักแสดงนำ”

 

    ทุกครั้งที่จะรับเล่นละครหรือเล่นซีรีย์สิ่งแรกที่สิ่งจะเลือกคืออะไร
    “สิงจะขออ่านบทก่อนเลยก็จะขอดูจากบทกลอนพอดูจากบทเศษ ก็มาดูว่ามันเหมาะกับตัวเราไหมเพราะบางทีมันมีบางบทที่เราอ่านบทไปแล้วเราไม่สามารถมองเห็นภาพตัวเองกับบทบาทนั้นได้เลยเราก็จะขอทางผู้ใหญ่ว่าเราขอ คุยกับทีมงาน แล้วเราก็จะบอกกับพวกพี่เขาตรงๆว่าเรามองไม่เห็นภาพตัวเองในบทนี้เลยหรือว่าบางบทที่เราอาจจะไม่เห็นภาพแต่ผู้กำกับคนเขียนหรือว่าทีมงานที่อยู่เบื้องหลังเห็นภาพเป็นตัวเราอันนั้นก็เป็นสิ่งที่เราสนใจเหมือนกัน สุดท้ายแล้วคือเขาเห็นภาพเราในบทบาทเหล่านั้นเราก็จะสนใจในบทนั้นและคุยกับเขาว่าภาพที่พวกพี่ๆเขาเห็นเป็นแบบไหน อย่างเรื่อง friend Zone สิงได้อ่านบทสิงบอกกับพี่เจนผู้จัดการของสิงเลยว่าสิงอยากเล่นบทนี้เพราะจากบทบดราม่ามากและเดือดมาก ซึ่งพี่อ๊อฟคือหนึ่งในทีมผู้กำกับเดินมาบอกกับสิงว่าพี่เขาเห็นภาพของสิงในตัวละครอื่น ยิ่งสนับสนุนกับความอยากที่เรา มีอยู่แล้ว”

 

    คิดว่าบทเอิร์ธคล้ายกับตัวสิงยังไง
    “จริงๆสิ่งก็แอบเป็นพวกเพอร์เฟคชั่นนิสเหมือนกัน ทำอะไรก็ขอให้ออกมาดีที่สุด เราเลยกดดันตัวเองว่าเราอยากทำให้ดีที่สุดซึ่งตัวละครเอิร์ธก็เช่นกันพี่ก็อยากทำให้ทุกอย่างมันดีที่สุดจนบางอย่าง ถ้าควบคุมได้ก็จะควบคุมเพื่อให้มันออกมาดีที่สุด ซึ่งถ้าเป็นไปได้ตัวละครนี้จะคอนโทรลคนที่อยู่รอบตัวให้ออกไปในทางที่ตัวเองคิดว่ามันจะดี”

 

    ตัวละครเอิร์ธสอนอะไรกับสิงบ้าง
    “เอาจริงๆหลังจากที่ตัวละครมัน เจอจุดพลิกในชีวิต มันทำให้เรารู้ว่าตัวละครที่มีความน่ารำคาญนั่น หมายถึงว่าคาแรคเตอร์เรา ที่เป็นตัวจริงกับตัวละครไม่เหมือนกันแล้วคือในชีวิตจริงเราคงไม่ทำแบบนี้ มันเลยสอนเราเหมือนกันว่าขนาดเราเล่นเป็นตัวละครเอิร์ธเอง เรายังรู้สึกรำคาญตัวเองเลย ถ้าในชีวิตจริงเราทำแบบตัวละครนี้กับใครเราก็ไม่ควรทำ เพราะว่าจุดไหนของความสัมพันธ์มันไม่สามารถคอนโทรลได้ตลอดเวลาทุกอย่างในชีวิตไม่สามารถควบคุมได้ตลอดเวลา สิงว่าทุกๆ ตัวละครที่เราได้แสดงมันสอนเราให้นำมาใช้กับชีวิตจริงและในบางครั้งเราก็เอาประสบการณ์ของเราไปใช้กับตัวละครเหมือนกัน”

 

 

 

    มาถามถึงเรื่องความรักบ้าง ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
    “ในชีวิตจริงเรื่องความรักเป็นเรื่องที่สิงยังไม่ได้มองเลย ถามว่าสิงอยากมีความรักไหม สิงอยาก แต่สิงยังไม่เจอใคร และก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาสิง ตัวเราเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปหาใครด้วย”

 

    กลัวการมีความรักหรอ
    “ถ้าพูดตรงๆ ก็กลัวในระดับหนึ่ง เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีเวลา เพราะการมีความรักคือการต้องมีเวลาให้กัน ซึ่งมันก็ต้องอาศัยความเชื่อใจสูง ถ้าเกิดเราไม่มีเวลาให้เขา เราก็ต้องมานั่งเครียดว่าในระหว่างที่เราทำงาน เขาจะมีใครมีคนอื่นหรือเปล่า แล้วเราก็ต้องโฟกัสกับงานของเราด้วย และก็ต้องไปโฟกัสหวาดระแวงกับตรงนั้นด้วย มันจะยิ่งทำให้เราทั้งเหนื่อยกายและเหนื่อยใจ ซึ่งเราไม่อยากที่จะเป็นอย่างนั้น”

 

    แปลว่าสิงเป็นคนขี้หึง
    “ก็ในระดับหนึ่ง แต่ว่าเป็นคนหึงแบบที่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน เป็นคนเก็บ ถ้าหึงมากๆ ก็จะพูดออกมา คือถ้าเกิดว่าเรามีแฟนเราก็จะให้พื้นที่ส่วนตัวกับเขา เพราะว่าอย่างตัวสิงเอง ถ้าสิงมีแฟน สิงก็อยากที่จะให้แฟนเคารพพื้นที่ส่วนตัวของเราเพราะบางเวลาที่เรารู้สึกว่า เราทำงานกลับมาเหนื่อยๆ แล้วเราอยากอยู่คนเดียวนั่นคือความเป็นสิง ซึ่งถ้าเกิดมีแฟนขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับเราในตรงนี้ได้”

 

    เป็นคนหวงพื้นที่ส่วนตัวหรือเปล่า
    “ในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับปิดกั้น เพราะจริงๆ แล้วเราก็พร้อมที่จะเปิดให้กับใครหลายๆ คนก้าวเข้ามาเหมือนกัน เอาจริงๆขนาดพ่อเวลาสิงทำงานมาเหนื่อยๆโทรหาพ่อก็พูดกันแค่ว่าทำงานเสร็จแล้วกลับถึงห้องแล้วเท่านั้นเอง ซึ่งนั่นขนาดพ่อของสิงเองนะ”

 

    โสดมานานแค่ไหนแล้ว
    “นานมากนานจนลืมไปแล้ว (หัวเราะ) นานจนกลายเป็นความเคยชิน ชินกับการอยู่คนเดียว แต่มันไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าเราไม่อยากมีใคร คือเราเองก็อยากมีใครสักคนแหละแต่ด้วยอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ เชื่อไหมว่าเพื่อนสิง เป็นคนที่คอยถามตลอดว่ามีแฟนหรือยังมีแฟนหรือยังมีแฟนหรือยัง ซึ่งเราก็จะบอกตลอดว่ายังไม่มีคือเพื่อนจะเป็นห่วงเพราะเขาจะรู้ว่าด้วยนิสัยเราและบุคลิกของเราเรามีโอกาสที่เป็นเหมือนเอิร์ทใน friend Zone คือถูกนอกใจ คือทุกคนจะกลัวว่าสิงจะโดนหลอก คือเพื่อนๆจะรู้ว่าถ้าสิงมีแฟนสิงก็จะมีเขาคนเดียวและจะเชื่อใจไว้ใจทุกอย่าง”