บันเทิง

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ 'แกงส้ม'

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ 'แกงส้ม'

07 พ.ย. 2561

"แกงส้ม" ธนทัต ชัยอรรถ เปิดใจครั้งแรกกับ "บันเทิง คมชัดลึก" ถึงความรักครั้งใหม่กับ "ดีเจ.ดาว" ณัฐภัสสร หลังถูกแชะภาพปาปารัซซี่ด้วยกัน


    ทีมบันเทิง คมชัดลึก  -  เป็นนักร้องหนุ่มที่ไม่ได้มีชีวิตในวงการที่หวือหวา ฟู่ฟ่าอะไร แต่นักร้องหนุ่ม “แกงส้ม” ธนทัต ชัยอรรถ ก็ไม่ได้มองการมาทำงานในวงการนี้แบบเล่นๆ ไปวันๆ เพราะล่าสุดก็ยอมไม่ต่อสัญญาการทำเพลงกับต้นสังกัดเดิม แล้วหันมาลงทุนสานฝันด้วยการเปิดค่ายเพลงของตัวเองในชื่อ "OG ME" และไม่ใช่แค่นั้น เพราะว่าตอนนี้หนุ่มแกงยังมองอนาคตไปไกลกว่าเดิมด้วยการไปเปิดตลาดใหม่ที่ประเทศเกาหลีอีกด้วย แต่ไม่ใช่เรื่องงานที่กำลังมา เพราะล่าสุดนักร้องหนุ่มก็โดนภาพปาปารัซซี่กับดีเจ.สาวรุ่นพี่ “ดาว” ณัฐภัสสร สิมะเสถียร โดยทั้งคู่เคยร่วมงานกันในละครเวที “ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล” งานนี้เลยถูกจับตามองว่าจะเปิดตัวเป็นคู่รักคู่ใหม่หรือเปล่า 
 

    “บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสเจอตัวนักร้องหนุ่มชื่อดังเลยได้เปิดใจแบบหมดเปลือในทุกๆ เรื่อง
    @ บินไปเกาหลี ไปทำอะไรบ้าง
    “ได้รับเชิญ ให้ไปดูแฟชั่นโชว์ที่นั่น ไปงาน ddp Seoul Fashion Week ซึ่งจริงๆก็เหมือนกับเป็นงานเฟสติวัลของเขามากกว่า ซึ่งเป็นงานที่รัฐบาลเป็นคนจ่าย โดยปีที่แล้วผมไปและได้มีโอกาสได้เจอกับดีไซเนอร์ แล้วปีนี้เขาเลยเชิญไปร่วมงานอีกรอบหนึ่ง คือปีที่แล้วมีพี่ๆพาเราไปแต่พอปีนี้เหมือนเราได้รู้จัก เขาก็เลยเชิญเรา ไปเพื่อเป็นสีสันสักหน่อย ซึ่งนี่คือพาที่เราไปดูแฟชั่นโชว์ จริงๆแล้วคนไทยไปเยอะนะ คือมีคนไทยเต็มไปหมดเลย จริงๆแฟชั่นที่นั่นถ้าเอามาใส่ที่ประเทศไทยก็คงจะเหงื่อแตก ผมว่าผมแต่งตัวร้อนแล้วนะ (หัวเราะ) แต่ของเขาคือเวลาเสื้อโค้ทหรืออะไรอย่างนี้จะเป็นผ้าหนาๆเลย แต่ก็มีบางตัวที่เราใส่ได้ ถือว่าเป็นการไปเปิดหูเปิดตาแล้วกัน ในเรื่องของพาร์ทแฟชั่น”

 

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ \'แกงส้ม\'

 


    @ เห็นว่าไม่ได้ไปแค่ดูแฟชั่นเท่านั้น
    “ใช่ เรียกว่าไปครั้งนี้คุ้มมากๆเลย เพราะด้วยเวลาที่มีมันค่อนข้างจะจำกัด เราไปสามวันเต็มและเช้าวันที่ 4 ผมก็บินกลับแล้ว ครั้งนี้เราไปดูเรื่องของโรงเรียน เพราะเราอยากทำอะไรที่มันทำให้เด็กไทยได้ไปเรียนที่นั่นด้วย มีตัวเลือกว่าจะไปเรียนที่ไหนได้บ้าง ซึ่งโรงเรียนที่เราไปดูเป็นโรงเรียนเกี่ยวกับไอดอลโรงเรียนหลายๆโรงเรียนที่เราไปดู จะเป็นสไตล์ว่ามาเรียนที่นี่ ถ้าเกิดจะไปออดิชั่นตามค่ายต่างๆ เขาก็จะส่งเข้าไป เพราะที่เกาหลีเหมือนเป็นระบบที่ว่าค่ายต่างๆก็จะมาส่ง ตามโรงเรียนพวกนี้ ว่ามีใครน่าสนใจไหม เพื่อความรวดเร็วของการออดิชั่นของเขาด้วย”
    @ มีที่โดนใจไหม
    “มีเยอะมากๆเลยถ้าคนติดตามในไอจีสตอรี่ของผมก็จะเห็นอย่างเราไปที่วายจีเอ็กซ์มา คือตอนนี้ต้องมานั่งคุยกันก่อนว่าเรื่องราคาหรือเรื่องระเบียบต่างๆอันไหนที่มันโอเคที่สุดต้องบอกก่อนว่าขอแต่ละคอร์สมันก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ ๆ เราเลยต้องมาดูกันว่าอันไหนที่จะเหมาะกับคนไทย”
    @ วางแผนโปรเจ็คนี้ไว้ยังไง
    "คือเราวางแผนไว้ว่าเราจะทำโรงเรียนที่เมืองไทยด้วย แล้วมีการร่วมมือกับทางโรงเรียนที่เกาหลี ว่าเราสามารถส่งเด็กที่เรียนกับเราไปเรียนคอร์สที่เกาหลีได้ด้วย จากการที่เมื่อปีที่แล้วเราเปิดค่ายเพลง เราค่อยๆพยายามทำให้คล้ายเรา ค่อยๆใหญ่ขึ้น เราไม่อยากแค่ว่าทำเพลงไปเรื่อยๆ แล้วรอให้เพลงดังเราอยากที่จะปั้นศิลปินตอนที่เราทำโรดทูไอดอล  เราค่อนข้างที่จะสนุกเวลาทำงาน เมื่อเราเห็นเขาเติบโต มันเป็นความรู้สึกที่เราแฮปปี้ เลยรู้สึกว่าถ้าเราทำโรงเรียนขายกับทางเกาหลีแล้วมาปรับให้เข้ากับคนไทย ตอนที่ผมทำรายการโรดทูไอดอลเราก็ใช้ประสบการณ์จากเพื่อนๆของผมที่ได้ไปออดิชั่นหรือทำงานที่นั่นมาปรับให้มันเข้ากับความสามารถของเด็กไทยหรือชีวิตของเด็กไทยเพราะถ้าจะเอามาทั้งหมด บางทีมันเครียดเกิน เพราะด้วยความที่ประเทศเกาหลีวัฒนธรรมเขาค่อนข้างจริงจัง ซึ่งมันอาจจะเครียดเกินไปสำหรับประเทศไทยเราก็เลยเอามาปรับและมีความคิดว่าถ้าทำโรงเรียนมันก็น่าจะเวิร์ค"
 

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ \'แกงส้ม\'

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ \'แกงส้ม\'

    @ หันมาทำงานเบื้องหลังมากขึ้น
 
   "ใช่ ตอนนี้งานเบื้องหลังหนักกว่างานเบื้องหน้า งานเบื้องหน้าตอนนี้ก็มีแค่อีเว้นท์ งานละครก็ยังไม่ได้รับ เพราะว่าตอนนี้เราหนักงานตรงนี้มากจริงๆ อยากวางรากฐานของค่ายเพลงของเราก่อน ถามว่าจะหันหลังให้งานเบื้องหน้าเลยไหม บอกเลยว่าไม่ งานร้องเพลงผมจะทำจนกว่าผมจะทำไม่ไหว เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมรักอยู่แล้ว และอย่างในปีหน้าแพลนส่วนตัวผมจะทำอัลบั้ม โดยจะทำเป็นอัลบั้มที่พรีออเดอร์ เดี๋ยวนี้แน่นอนว่าไม่มีใครทำซีดีจำนวนมากแล้วขายในร้าน คือเราทำในแบบที่เป็นเอ็กคลูซีพแฟนคลับคนไหนอยากได้จริงๆ เพราะเราจะมีของขวัญพิเศษให้นี่คือสิ่งที่เราวางแผนไว้สำหรับปีหน้า"
    @ ดูวางรากฐานอนาคตไว้แบบนี้ แล้วเรื่องความรักล่ะ เพราะล่าสุดมีภาพปาปารัซซี่กับ “ดีเจ.ดาว” ออกมา
  
 “จริงๆ เราก็คุยกัน อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่า อย่างที่ผมเคยบอกว่า ถ้าผมคุยกับใครผมไม่เคยปิด แต่เราไม่ใช่แบบที่่ต้องโชว์ อย่างอินสตาแกรมหรือโซเชียลต่างๆ ของเรา ก็ต้องยอมรับว่าเราเองก็ใช้ทำงานด้วย ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวอย่างเดียว เราต้องดูแลความรู้สึกของคนหลายๆ ฝ่ายด้วย แต่ไม่ได้ถึงขั้นว่าชีวิตจริงเราใช้ชีวิตเหมือนคนปกติไม่ได้เลย มันก็คงไม่ใช่ มันก็จะเหนื่อยเกินไป ผมเลยรู้สึกว่าทำยังไงที่สามารถบาลานซ์ความรู้สึกของแฟนๆ ได้ ถามว่ามันยากไหม ผมว่ามันยากตรงที่ว่าจะทำให้ทุกคนพอใจ แต่สัจธรรมคือมันไม่มีทางทำให้ทุกคนพอใจได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ โอเคเขาอาจจะไม่ถึงขั้นพอใจ แต่เราก็ต้องทำให้เขาไม่รู้สึกว่ามันแย่หรือมันรุนแรง เพราะเราก็ต้องยอมรับว่าเราก็ต้องแคร์เขาด้วย”

 

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ \'แกงส้ม\'

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ \'แกงส้ม\'

 


    @ แปลว่าความรักของแกงสัม ไม่ได้เป็นความรักที่ต้องปิดบังอะไร
  
 "ผมใช้ชีวิตเหมือนปกติ แต่เราอาจจะต้องเลือกสถานที่หน่อย ไม่ใช่เพราะอยากที่จะเป็นความลับหรือปิดบังนะ แต่เราก็ต้องเลือกสถานที่ๆ เราเป็นตัวของตัวเองได้ด้วย และไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร เพราะบางสถานที่ๆ เราไป อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น คือเราพยายามใช้ชีวิตให้ปกติมากที่สุด แต่ด้วยอาชีพนี้ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางที่ใช้ชีวิตได้เป็นปกติ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะอาชีพนักแสดงหรือศิลปินคือการที่เรารู้ว่าเราต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง การจะทำตามใจ 100 เปอร์เซ็นต์มันไม่ได้ เพราะเราต้องคิดถึงคนอื่นๆ ด้วย"
    @ ทำไมลงตัวกับ “ดีเจ.ดาว” ถึงตกลงมาคุยกัน
  
 “เคยร่วมงานกัน แล้วเมื่อเราโตขึ้น พอเราทำงานหนัก เราต้องการคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ถ้าเราจะคุยกัน ซึ่งพี่เขาอายุเยอะกว่าผม และเขาก็ทำงานมาเยอะกว่า  และสุดท้ายมาจบลงที่ว่า สบายใจก็คุยกัน ก็ดูๆ กันไป แต่สิ่งที่สำคัญเลยคือถ้าจะคุยกับใครสักคนก็ต้องไม่บั่นทอนการทำงาน ผมจะไม่ยอมแลกกับการว่า ถ้าเราคุยกับใครสักคนแล้วงานเราแย่ลง หรือเราต้องเหนื่อยเพิ่ม ซึ่งเราเพิ่งคุยกันได้ประมาณ 3 เดือน (ก่อนหน้านี้ดาวเองเหมือนมีแฟนอยู่แล้ว) จริงๆ เรื่องนั้นก็ต้องเป็นเรื่องที่เขาไปจัดการ แต่ขอยืนยันว่าเราเพิ่งมาคุยกันได้ไม่นาน"
    @ ให้ความสำคัญกับความรักครั้งนี้ไว้แค่ไหน 
  
 “ผมต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนที่ถ้าโอเค ก็โอเค แต่ถ้าเหนื่อยเราก็เดินออก เพราะว่าโฟกัสแรกของชีวิตตอนนี้คืองาน เพราะอย่างที่บอกทั้งเรื่องของค่าย และเรื่องของครอบครัวที่บ้านอีก ที่เราก็ต้องช่วยในเรื่องของภาระหนี้ ผมทำงานตรงนี้มา 6 ปี ตอนนี้หนี้ยังไม่หมดเลยนะ เพราะว่าเราค่อนๆเป็นค่อยๆ ไปเพื่อมาสร้างสิ่งที่เราอยากวางรากฐานในอนาคตด้วย สมมติถ้าเรามีความรู้สึกดีๆ กับใครสักคน แต่มันไม่เวิร์ก ผมก็แค่เดินออกมาเท่านั้น เพราะเราโตขึ้น เราเลยคิดเยอะขึ้น  คือเราค่อยๆ ใช้ชีิวต อย่างตอนคุยกับพี่ดาวคือเราเป็นผู้ใหญ่ ถ้าให้พูดตรงๆ เราก็ไม่ต้องมาปวดหัว คือผมจะบอกกับน้องๆ เสมอว่า ความตื่นเต้น หวือหวา มันแค่ช่วงเวลานิดเดียว แต่ถ้าจะคบใครไปยาวๆ ความเข้าใจล้วนๆ แล้วก็ความสบายใจ แต่ถ้าวันหนึ่งความสบายใจมันหมด ถึงจุดหนึ่งเราก็แค่เดินออกมาแค่นั้นเองเลย”
    ช่วงชีวิตวันนี้ของผู้ชายชื่อ “แกงส้ม” ธนทัต        

 

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ \'แกงส้ม\'

เปิดใจชีวิต-อนาคต-รักครั้งใหม่ของ \'แกงส้ม\'